ผู้เขียน: admin

ผู้ป่วยตับวาย-ไตล้มเหลว หมอเตือนอวัยวะส่วนนี้ของ “ปลา” พิษเท่าสารหนู ความร้อนทำลายไม่ได้ ห้ามกินเด็ดขาด 

เมื่อไม่นานมานี้ โรงพยาบาลประชาชนแห่งมหาวิทยาลัยอู่ฮั่น (ประเทศจีน) ได้รับผู้ป่วย 2 รายที่เกิดภาวะไตวายและตับวายจากการรับประทานอวัยวะที่ “มีพิษร้ายแรง” ของปลา

ครอบครัวของผู้ป่วยเล่าว่า นายอู๋ได้นำถุงน้ำดีของปลามาแช่กับเหล้าขาวตามคำแนะนำจากอินเทอร์เน็ตเพื่อบำรุงร่างกาย หลังจากนั้นไม่นาน เขาเริ่มมีอาการอาเจียน ท้องเสีย ปวดศีรษะ และเวียนศีรษะ เมื่ออาการรุนแรงขึ้น ครอบครัวจึงรีบนำตัวส่งโรงพยาบาลประชาชนแห่งมหาวิทยาลัยอู่ฮั่นในคืนนั้นเพื่อรับการรักษา

ที่โรงพยาบาล แพทย์วินิจฉัยว่าเขามีภาวะไตวายเฉียบพลัน ตับวาย และความผิดปกติของการแข็งตัวของเลือดจากพิษของถุงน้ำดีปลา

โชคดีที่ได้รับการรักษาทันเวลา ทำให้นายอู๋พ้นขีดอันตรายและสุขภาพกลับมาคงที่

ก่อนหน้านี้ ในคืนวันส่งท้ายปีเก่า แผนกฉุกเฉินของโรงพยาบาลเดียวกันก็ได้รับผู้ป่วยอายุ 70 ปีที่มีอาการพิษจากการกินถุงน้ำดีปลา

ผู้ป่วยรายนี้เชื่อในตำรายาพื้นบ้านที่กล่าวว่าถุงน้ำดีปลาสามารถรักษาโรคได้ หลังจากรับประทานเข้าไป เขาเริ่มมีอาการอาเจียนและท้องเสีย ต้องเข้ารับการล้างกระเพาะหลายครั้งที่โรงพยาบาลท้องถิ่น แต่เมื่ออาการไม่ดีขึ้น จึงถูกส่งตัวมารักษาต่อที่โรงพยาบาลประชาชนแห่งมหาวิทยาลัยอู่ฮั่น

แพทย์วินิจฉัยว่าเขามีภาวะตับวายเฉียบพลันจากพิษของถุงน้ำดีปลา หลังการรักษา ผู้ป่วยรายนี้สามารถฟื้นตัวและออกจากโรงพยาบาลได้

แพทย์เผย “อวัยวะนี้ของปลาเป็นพิษร้ายแรงเทียบเท่าสารหนู”

แพทย์ระบุว่า ถุงน้ำดีปลามีพิษร้ายแรงเทียบเท่ากับสารหนู เนื่องจากมีสารอันตรายหลายชนิด เช่น กรดน้ำดี กรดไฮโดรไซยานิก โซเดียมไซพรีนิดซัลเฟต ฮีสตามีน และสารพิษอื่นๆ เมื่อเข้าสู่ร่างกาย สารเหล่านี้สามารถทำลายอวัยวะภายใน ส่งผลให้เกิดภาวะไตวาย ตับวาย และพิษรุนแรง

นอกจากนี้ แพทย์ยังระบุว่า พิษในถุงน้ำดีปลาไม่สามารถถูกทำลายด้วยความร้อนจากการปรุงอาหารหรือการแช่ในแอลกอฮอล์ ดังนั้น ไม่ว่าจะแปรรูปด้วยวิธีใดก็ยังคงมีพิษอยู่

ถุงน้ำดีปลาน้ำจืดส่วนใหญ่มีพิษ

แม้ว่าถุงน้ำดีปลาทุกชนิดจะไม่ได้มีพิษ แต่ปลาน้ำจืดที่ผู้คนมักรับประทาน เช่น ปลาคาร์พ ปลาตะเพียนดำ ปลากินพืช และปลาตะเพียนเงิน ล้วนมีสารพิษในถุงน้ำดี ดังนั้น เพื่อความปลอดภัย ควรหลีกเลี่ยงการบริโภคถุงน้ำดีปลาโดยเด็ดขาด

อาการของพิษจากถุงน้ำดีปลา

พิษจากถุงน้ำดีปลามักแสดงอาการอย่างรวดเร็ว โดยเกิดขึ้นภายใน 30 นาทีถึง 6 ชั่วโมงหลังจากรับประทาน อาการที่พบ ได้แก่

• อาการทางระบบทางเดินอาหาร: ปวดท้อง ท้องเสีย คลื่นไส้ อาเจียน ซึ่งมักเป็นอาการแรกที่เกิดขึ้นภายใน 1 ชั่วโมงหลังรับประทาน
• อาการอื่นๆ: ตัวเหลือง ตาเหลือง อ่อนเพลีย เบื่ออาหาร ปวดตับ ปวดหลัง ปัสสาวะน้อยหรือไม่มีเลย หน้าบวม แขนขาบวม ซึ่งอาจเกิดขึ้นภายในไม่กี่ชั่วโมงหลังรับประทาน

หากพิษรุนแรงขึ้น อาจส่งผลให้เกิดภาวะไตวาย ตับวาย หัวใจวาย และอวัยวะหลายระบบล้มเหลว ผู้ป่วยอาจเสียชีวิตหากไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที

หากพบอาการผิดปกติดังกล่าวหลังจากรับประทานถุงน้ำดีปลา ควรรีบไปพบแพทย์ทันทีเพื่อรับการรักษาโดยเร็วที่สุด

ทำความรู้จัก ผลงานและประวัติ หวังต้าลู่ (Darren Wang) นักแสดงหนุ่มไต้หวันคนดังกับการเติบโตในวงการบันเทิง เส้นทางรักและคดีความที่สะเทือนวงการ 

ประวัติ หวังต้าลู่ (Darren Wang)

ประวัติ หวังต้าลู่ (Darren Wang)

• ชื่อ : หวังต้าลู่ (Darren Wang)
• ชื่อจีน:  王大陸
• สถานที่เกิด : ไทเป ไต้หวัน
• วันเกิด : 29 พฤษภาคม 1991
• สัญชาติ: ไต้หวัน
• การศึกษา : มหาวิทยาลัยเต้าเจียง (Taojiang University of Science and Management) 
• อาชีพ : นักแสดง
• Weibo: 王大陸TaluWang
• Instagram : @taluwang

 ประวัติ หวังต้าลู่ (Darren Wang)

ทำความรู้จัก หวังต้าลู่ นักแสดง นายแบบจากไต้หวัน

หวังต้าลู่ (Darren Wang) เป็นนักแสดงและนายแบบชาวไต้หวัน เกิดที่ไทเป เขาเริ่มต้นชีวิตนักเรียนที่ Dongshan Senior High School แต่หลังจากหนึ่งภาคเรียน พ่อของเขาได้ส่งตัวไปเรียนที่โรงเรียนทหารในนิวยอร์กเนื่องจากไม่สนใจการเรียนมากนัก เมื่อกลับมาไต้หวัน หวังต้าลู่ถูกค้นพบโดยแมวมอง จึงทำให้เขาเข้าสู่วงการบันเทิงแทนการกลับไปเรียนต่อที่สหรัฐฯ

เขาจบการศึกษาจาก Taipei Fuhsing Experimental High School และ Juangjing Vocational High School แต่สุดท้ายตัดสินใจลาออกจาก Daou Jiang Institute of Technology and Management คณะนิเทศศาสตร์

ประวัติ หวังต้าลู่ (Darren Wang)

เส้นทางในวงการบันเทิงของ หวังต้าลู่

เส้นทางบันเทิงของ หวังต้าลู่ เริ่มต้นขึ้นเมื่อเขาได้รับการค้นพบจากแมวมอง เขาตัดสินใจเลือกเดินสายการแสดงและสร้างชื่อเสียงให้กับตัวเองในวงการบันเทิงไต้หวัน โดยมีผลงานหลากหลายและได้รับความนิยมอย่างกว้างขวาง นอกจากนี้ ชีวิตส่วนตัวของเขายังเป็นที่สนใจของแฟนๆ โดยเฉพาะเมื่อเขาเริ่มต้นความสัมพันธ์กับนักแสดงสาวชาวมาเลเซีย Joey Chua ในปี 2021 และยุติลงในเดือนพฤศจิกายน 2023 ก่อนที่เขาจะเปิดเผยว่ามีความสัมพันธ์กับ Mu Xuan ในเดือนมกราคม 2024

ในปี 2016 หวังต้าลู่เกิดข้อพิพาทกับผู้จัดการส่วนตัว Angie Chai (柴智屏) โดยเขาอ้างว่ารายได้ของเขาจากบริษัท Qunxing Ruizhi (群星瑞智) ต่ำกว่า NT$1 ล้าน และเมื่อเขาขอยกเลิกสัญญา ทาง Chai ได้เรียกค่าปรับถึง NT$30 ล้าน ซึ่งสุดท้ายคดีความนี้ได้ยุติลงในเดือนมีนาคม 2016 โดยเงื่อนไขการยุติเรื่องไม่ได้เปิดเผยต่อสาธารณะ

ประวัติ หวังต้าลู่ (Darren Wang)

ผลงานโดดเด่นของ หวังต้าลู่

หวังต้าลู่ได้แสดงในภาพยนตร์และซีรีส์หลายเรื่องที่ได้รับความนิยมทั้งในไต้หวันและประเทศอื่นๆ ในภูมิภาคเอเชีย โดยผลงานที่ทำให้เขาได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางได้แก่  ภาพยนตร์เรื่อง “OurTimes” (กาลครั้งหนึ่งความรัก), ภาพยนตร์ “Fall in Love at First Kiss”(แกล้งจุ๊บให้รู้ว่ารัก) ปี 2019 และซีรีส์ หมาป่าจอมราชันย์ (The Wolf) 

ประวัติ หวังต้าลู่ (Darren Wang)

หวังต้าลู่ ถูกสอบสวน

เมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ หวังต้าลู่ ถูกกล่าวหาว่าใช้ใบรับรองแพทย์ปลอมเพื่อหลีกเลี่ยงการเกณฑ์ทหาร เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าตรวจค้นที่พักของเขาในกรุงไทเป และควบคุมตัวเขาไปสอบสวนเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย ซึ่งเหตุการณ์นี้สร้างความสนใจจากสื่อมวลชนและประชาชนในไต้หวันอย่างมาก ถึงแม้ว่าเขาจะยังไม่ถูกตัดสินความผิด แต่การสืบสวนยังคงดำเนินต่อไป และข่าวดังกล่าวมีผลกระทบต่อภาพลักษณ์และอาชีพของเขาในวงการบันเทิง

 ประวัติ หวังต้าลู่ (Darren Wang)

ผลงานการแสดงของ หวังต้าลู่

ซีรีส์

• TBA Faith & Law
• TBA Quiet Among Disquiet
• TBA Ji Wu
• 2024 Five Kings of Thieves
• 2020 The Wolf
• 2020 Jian Ai Nan Nu
• 2019 Reset Life
• 2017 Ghost Blows Out the Light: Finding Hu Ba Yi
• 2017 Stairway to Stardom
• 2014 High Heels and a Scalpel
• 2010 Channel-X
• 2010 Gloomy Salad Days
• 2009 The Shining Days
• 2008 Mysterious Incredible Terminator

ภาพยนตร์

• TBA Kung Fu
• TBA Mou Faat Yiu Syu
• 2024 Good Luck
• 2024 Moments We Shared
• 2024 Woof Woof Daddy
• 2023 Wolf Hiding
• 2023 No More Bets
• 2022 In Our Prime
• 2022 Beating Heart
• 2020 A Choo
• 2019 The Last Wish
• 2019 Super Me
• 2019 The Rookies
• 2019 Fall in Love at First Kiss
• 2018 A Better Tomorrow 2018
• 2017 Legend of the Naga Pearls
• 2016 Railroad Tigers
• 2016 Suddenly Seventeen
• 2016 10,000 Miles
• 2015 Our Times
• 2014 Design 7 Love
• 2010 In Case of Love

บทความเกี่ยวข้อง

• ตำรวจจับ “หวังต้าลู่” พระเอกแกล้งจุ๊บให้รู้ว่ารัก ข้อหาหลบเลี่ยงเกณฑ์ทหาร-ปลอมเอกสาร

ดูดวงเลขบัตรประชาชน เชื่อว่าตัวเลขในบัตรประชาชนสามารถทำนายดวงชะตาของแต่ละบุคคลได้ โดยเฉพาะตัวเลขบัตรประชาชนในตำแหน่ง 4 ตัวท้าย ซึ่งล่าสุด หมอช้าง ทศพร ศรีตุลา นักพยากรณ์ชื่อดัง ได้โพสต์เฟซบุ๊ก Master.Chang เผยถึงความหมายตัวเลข 10-01 ในตำแหน่ง 4 ตัวท้ายบัตรประชาชน ดังนี้

ดวงเลขบัตรประชาชน 10-01

หากในตำแหน่ง 4 ตัวท้ายบัตรประชาชน มีเลข 10 หรือ 01 อยู่ติดกัน จะบ่งบอกถึงการเป็นคนที่มักเจอการเปลี่ยนแปลงในเรื่องของสภาพแวดล้อม ที่อยู่อาศัย หรือมีเรื่องต้องเดินทางบ่อย เป็นผู้ที่มีคนนับถือเยอะ แต่จะมาพร้อมกับ ปัญหาให้เราช่วยเหลืออยู่ตลอด

 

หมอชาวญี่ปุ่นซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านมะเร็ง เผย อาหารเช้า 3 ประเภทที่ควรเลี่ยง แม้หิวก็ไม่ควรกิน แต่หลายคนยังคงกินทุกวันโดยไม่รู้ตัว

อาหารเช้าหลายชนิดอาจคุ้นเคย แต่ไม่ได้หมายความว่าจะดีต่อสุขภาพเสมอไป

ดร.โนริฮิโระ ซาโตะ ผู้เชี่ยวชาญด้านมะเร็งชื่อดังจากญี่ปุ่น เผยว่า การเลือกอาหารและเครื่องดื่มสำหรับมื้อเช้าอาจส่งผลต่อสุขภาพในระยะยาว บางชนิดได้รับความนิยมแต่กลับถูกจัดอยู่ในกลุ่มเสี่ยงที่อาจเพิ่มโอกาสในการเกิดมะเร็ง

1. อาหารที่มีคาร์โบไฮเดรตขัดสีสูง

หากต้องการลดความเสี่ยงมะเร็งผ่านการรับประทานอาหาร ควรใส่ใจในการเลือกอาหารหลัก โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์ที่มีแป้งเป็นส่วนประกอบหลัก

ศาสตราจารย์โนริฮิโระ ซาโต้ จากคณะเทคโนโลยีการแพทย์ มหาวิทยาลัยเทเคียว ฟุกุโอกะ ประเทศญี่ปุ่น ระบุว่า การบริโภคอาหารที่มีคาร์โบไฮเดรตขัดสีสูง เช่น ขนมปัง ข้าวขาว และบะหมี่ในปริมาณมาก อาจทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดพุ่งสูงอย่างรวดเร็ว

การที่ระดับน้ำตาลในเลือดสูงเป็นเวลานาน ไม่เพียงแค่กระตุ้นการหลั่งอินซูลินมากเกินไป ทำให้เกิดการอักเสบในเซลล์ แต่ยังเพิ่มความเสี่ยงต่อมะเร็งตับอ่อน มะเร็งตับ มะเร็งลำไส้ใหญ่และมะเร็งเต้านมอีกด้วย

นอกจากนี้ งานวิจัยยังพบว่า การให้กลูโคส (น้ำตาล) แก่เซลล์มะเร็งจะช่วยเพิ่มโอกาสในการเจริญเติบโตและกระจายของเซลล์มะเร็ง และผู้ป่วยมะเร็งที่มีระดับน้ำตาลในเลือดสูงจะมีอัตราการรอดชีวิตต่ำกว่าคนที่มีน้ำตาลปกติ

ดังนั้นการควบคุมการบริโภคคาร์โบไฮเดรตขัดสีไม่เพียงแต่ช่วยควบคุมน้ำหนัก แต่ยังสามารถลดความเสี่ยงมะเร็งได้ โดยเฉพาะผู้ที่มีพฤติกรรมกินอาหารประเภทขนมปัง ข้าวขาว และบะหมี่ในมื้อเช้า ควรใส่ใจในการควบคุมปริมาณอาหารให้เหมาะสม

2. อาหารแปรรูป

อาหารแปรรูปเป็นที่นิยมสำหรับอาหารเช้า เพราะทำได้รวดเร็วและสะดวกสบาย แต่ในกระบวนการผลิตมักมีการเติมสารเติมแต่งจำนวนมากเพื่อเพิ่มรสชาติและยืดอายุการเก็บรักษา องค์การอนามัยโลก (WHO) ได้จัดให้มันเป็นสารก่อมะเร็งประเภทที่ 1 ซึ่งหมายความว่า “มีหลักฐานเพียงพอที่แสดงว่าอาจก่อมะเร็งในมนุษย์” เทียบเท่ากับบุหรี่และใยหิน

ดร.โนริฮิโระ ซาโตะ เน้นย้ำว่า แม้การกินอาหารแปรรูปขั้นสูงจะไม่ได้หมายความว่าจะทำให้เกิดมะเร็งทันที แต่ก็ควรหลีกเลี่ยงการบริโภคมากเกินไป หากคุณมีนิสัยกินอาหารประเภทนี้ในมื้อเช้าทุกวัน ควรลดความถี่และเลือกกินอาหารที่มีโปรตีนจากแหล่งธรรมชาติและสดใหม่เพื่อสุขภาพที่ดีขึ้น

ROMAN ODINTSOV

3. เครื่องดื่มที่มีน้ำตาลผสมวิปครีม

น้ำสมูทตี้เนื้อเนียนหอมหวานที่โรยด้วยวิปครีมและขนมปังกรอบ หรือของตกแต่งสวยงามมักเป็นเครื่องดื่มยอดนิยมในมื้อเช้า แต่แท้จริงแล้ว เครื่องดื่มเหล่านี้ถือเป็น “กับดักมะเร็ง” ในมุมมองของผู้เชี่ยวชาญ

เครื่องดื่มที่มีน้ำตาลสามารถทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดพุ่งสูงอย่างรวดเร็วและทำให้เกิดโรคอ้วน ซึ่งเป็นปัจจัยเสี่ยงต่อมะเร็งหลายชนิด การศึกษาที่เผยแพร่ใน BMJ พบว่า การดื่มน้ำตาลเพิ่มขึ้น 100 มล. ต่อวันจะเพิ่มความเสี่ยงมะเร็งโดยรวมถึง 18% และความเสี่ยงมะเร็งเต้านมจะเพิ่มขึ้น 22% องค์การอนามัยโลก (WHO) แนะนำว่า ควรควบคุมปริมาณน้ำตาลในร่างกายให้อยู่ต่ำกว่า 5% ของแคลอรี่ทั้งหมดในแต่ละวัน (ประมาณ 25 กรัม หรือ 6 ช้อนชา) เพื่อสุขภาพที่ดีกว่า

นอกจากนี้ เครื่องดื่มที่มีวิปครีมยังเพิ่มความเสี่ยงต่อสุขภาพ การศึกษากับผู้ป่วยมะเร็งลำไส้ใหญ่กว่า 2,000 คนพบว่า ผู้ที่บริโภคผลิตภัณฑ์จากนมไขมันต่ำมีความเสี่ยงในการกลับเป็นมะเร็งน้อยลงถึง 40% ในขณะที่ผู้ที่บริโภคผลิตภัณฑ์จากนมธรรมดามีความเสี่ยงสูงขึ้นถึง 60%

ดร.โนริฮิโระ ซาโต้เชื่อว่า ผลกระทบต่อสุขภาพจากผลิตภัณฑ์นมสามารถแตกต่างกันได้ตามปริมาณไขมันในผลิตภัณฑ์นั้นๆ ดังนั้น ควรหลีกเลี่ยงการบริโภควิปครีมหรือผลิตภัณฑ์นมที่มีไขมันสูง

หลายคนเชื่อว่าการดื่มน้ำผลไม้หรือสมูทตี้ในมื้อเช้าเป็นสิ่งดีต่อสุขภาพ แต่ในความเป็นจริง น้ำตาลฟรุกโตสในผลไม้หากบริโภคมากเกินไปอาจนำไปสู่โรคตับอ่อน โดยเฉพาะสมูทตี้ที่เติมน้ำตาลหรือโยเกิร์ตอาจทำลายเส้นใยในผลไม้ ซึ่งไม่เพียงแต่ทำให้การดูดซึมน้ำตาลเร็วขึ้น แต่ยังทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว กระทบต่อการเก็บสะสมไกลโคเจนในตับและสร้างภาระให้กับตับอีกด้วย

4 สิ่งที่ควรทำเพื่ออาหารเช้าที่ดีต่อสุขภาพ

1. เติมน้ำให้กับร่างกาย

หลังการนอนหลับ ร่างกายจะอยู่ในสภาพขาดน้ำ หากทานอาหารเช้าโดยไม่ดื่มน้ำ อาจทำให้การหลั่งน้ำย่อยไม่เพียงพอ ส่งผลต่อความรู้สึกอยากอาหาร การย่อย และการดูดซึม

ควรดื่มน้ำอุ่นหรือน้ำเกลืออ่อนในปริมาณที่เหมาะสมก่อนมื้อเช้า ซึ่งจะช่วยกระตุ้นกระบวนการเผาผลาญและรักษาความชุ่มชื้นให้กับลำไส้

2. ความหลากหลายของอาหาร

การทานอาหารเช้าเพียงแค่ไม่กี่ชนิดอาจทำให้ร่างกายได้รับสารอาหารไม่ครบถ้วน ส่งผลต่อสุขภาพในระยะยาว มื้อเช้าควรมีความหลากหลาย เช่น ธัญพืช มันฝรั่ง เนื้อสัตว์ ผัก ผลไม้ และอาหารที่มีโปรตีนในปริมาณที่เหมาะสม เพื่อรองรับความต้องการสารอาหารที่หลากหลายของร่างกาย

3. ปริมาณอาหารที่เหมาะสม

แม้ปริมาณอาหารเช้าของแต่ละคนจะขึ้นอยู่กับขนาดร่างกายและอายุ แต่โดยทั่วไปแล้ว ควรจำกัดแคลอรี่ในมื้อเช้าให้อยู่ที่ต่ำกว่า 500 แคลอรี่

4. กินอาหารให้ตรงเวลา

การกินอาหารในเวลาเดียวกันทุกวันช่วยรักษาระดับการเผาผลาญให้เป็นปกติ ตามที่นาฬิกาชีวิตและระบบย่อยอาหารของร่างกายทำงาน ความอยากอาหารจะมีมากที่สุดระหว่างเวลา 7.00-8.00 น. ถือเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมสำหรับการกินอาหารเช้า

เพื่อให้กระบวนการย่อยและดูดซึมสารอาหารมีประสิทธิภาพ ควรกินอาหารเช้าและอาหารกลางวันห่างกัน 4-5 ชั่วโมง

ร้านทองดัง จ.สระบุรี เผยคลิปลูกค้านำทองที่สะสมจากบ่อขยะมาให้เช็ก งานนี้ลุ้นจะมีทองจริงบ้างไหม เห็นราคาแล้วถึงกับยิ้มออกเลย

คุณนะโม เจ้าของร้านทอง นะโมบ้านช่างทองเพชรทอง&จิวเวลรี่ ที่บ้านท่าลาน ต.เริงราง อ.เส้าไห้ จ.สระบุรี ลงคลิปวิดีโอผ่านเพจเฟซบุ๊ก ร้านทำทองนะโมบ้านช่างทอง เพชร ทอง & จิวเวอรี่ หลังได้เจอกับลูกค้าที่น่าสนใจ ซึ่งบอกว่าเก็บสะสมทองมาจากกองขยะ จึงอยากให้ช่วยตรวจสอบว่าจะสามารถขายเป็นทองคำได้ราคาเท่าไหร่

ลูกค้ารายนี้ เผยว่า รู้จักคุณนะโม ผ่านรายการโหนกระแส ส่วนทองที่นำมานี้ไม่เคยนำไปให้ร้านอื่นตรวจสอบมาก่อนเลย เพราะไม่มั่นใจว่าเป็นของจริงไหม ทองนี้เก็บได้มาทั้งหมดจากพี่ชายที่ทำงานอยู่ที่บ่อขยะ

ที่ผ่านมาก็นำไปขายแบบทองเหลือง แต่ในใจก็นึกว่าอาจจะมีทองคำที่นำไปหล่อพระได้ จึงเก็บสะสมมาและนำมาให้ตรวจเช็ก เชื่อว่าคงจะมีทองบ้างเป็นค่าน้ำมันรถกลับ จ.ลพบุรี นอกจากนี้ ยังมีบางส่วนที่คล้ายทำจากแร่เงินมาให้ตรวจสอบด้วย

คุณนะโม เริ่มจากใช้ประสบการณ์ลองคัดเลือกส่วนที่น่าจะเป็นทองจริงด้วยตาเปล่าประมาณ 1 ชั่วโมง ส่วนใหญ่จะเป็นทองเหลืองงานชุบ ก่อนจะคัดมาเหลือชุดหนึ่งที่อาจจะมีทองนำไปทดสอบด้วยการเอกซเรย์ และพบว่ามีทองคำจริง ๆ จากนั้นจึงแยกทองไปหลอมเพื่อให้ได้น้ำหนักทองที่แท้จริง

โดยลูกค้าเปิดใจว่า ตอนหอบทองเหล่านี้มาคิดว่าน่าจะได้สัก 1,000-2,000 บาท โดยสรุปแล้วคุณนะโมนำทองที่หลอมมาชั่งน้ำหนักและคิดราคาตามเปอร์เซ็นต์ทองให้ลูกค้า เป็นเงิน 19,595 บาท งานนี้ลูกค้าถึงกับยิ้มออกเลยทีเดียว ยอมรับว่าคุ้มค่ามากจริง ๆ

ด้าน คุณนะโม เล่าเพิ่มเติมในคอมเมนต์ว่า พี่คนนี้ที่นำของมาให้เราตรวจสอบ พี่ชายเขาทำงานที่บ่อขยะ เก็บรวบรวมไว้หลายปี และนำมาให้เราตรวจสอบมีทอง (ขายได้เพียงเล็กน้อย) เป็นเรื่องปกติที่ผมเจอประจำ เพราะมีคนที่ทำอาชีพเก็บของเก่าเจอของลักษณะแบบนี้บ่อยมาก

ส่วนคนที่มาคอมเมนต์ว่าสร้างคอนเทนต์ให้ดูไห้จบคลิปนะครับ (เจตนาเขา) ขอให้มีทองบ้าง พี่ชายเขาเก็บมานาน คนเขาเก็บของเก่าย่อมมีความหวัง ไม่มีใครหรอกครับที่จะมาทำละคร หรือคอนเทนต์หลอกคนดู เพราะผมก็ไม่ได้มีรายได้จากการทำคอนเทนต์

คุณสามารถตรวจสอบได้เขาทำอาชีพนี้จริง และผมก็ไม่รู้จักเขามาก่อน ทุกเรื่องราวเราให้แง่คิดและวิชาการกับสังคม ผมต้องช่วยเขาแยกและตรวจสอบเป็นชั่วโมง กว่าเราจะเจอของมีค่า มันเป็นสิ่งที่ดีที่ทำให้เขาได้สมหวัง เพราะเงินที่ได้มันอาจจะมีค่ามาก ๆ ก็ได้สำหรับคนที่เก็บมานาน

ผมขอปกป้องและขอบคุณพี่เขา ที่มีอาชีพเก็บของเก่า ผมให้เกียรติเขามาก ๆ เขาให้แง่คิดและประโยชน์แก่เพื่อน ๆในสังคม ขอบคุณมาก ๆ ครับ

ประวัติ คิมแซรน (Kim Sae Ron) นักแสดงสาวมากฝีมือ กับเส้นทางชีวิตและการจากไปอย่างน่าเศร้า

ประวัติ คิมแซรน (Kim Sae Ron) 

• ชื่อ : คิมแซรน (Kim Sae Ron) 
• วันเกิด : 31 กรกฏาคม ค.ศ. 2000
• สัญชาติ : เกาหลีใต้
• อาชีพ : นักแสดง
• IG : @ron_sae

ประวัติ คิมแซรน (Kim Sae Ron)

เส้นทางในวงการบันเทิงของ คิมแซรน

คิมแซรน เริ่มต้นเส้นทางในวงการบันเทิงตั้งแต่ยังเด็ก ด้วยผลงานเดบิวต์ในภาพยนตร์เรื่อง A Brand New Life ในปี 2009 ขณะที่เธอมีอายุเพียง 9 ปี โดยในเรื่องนี้เธอรับบทเป็น จินฮี เด็กหญิงที่ถูกทอดทิ้งที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้า ผลงานนี้ได้รับการคัดเลือกไปฉายในเทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์ ทำให้เธอเป็นนักแสดงที่อายุน้อยที่สุดที่ได้รับเชิญให้เข้าร่วมงานนี้

ต่อมาในปี 2010 คิมแซรนได้แจ้งเกิดอย่างเต็มตัวกับผลงานภาพยนตร์เรื่อง The Man From Nowhere ซึ่งเธอรับบทเป็น จุงโซมี ลูกสาวของหญิงผู้ติดยาเสพติดที่ถูกลักพาตัวไป ความสำเร็จของภาพยนตร์เรื่องนี้ทำให้เธอได้รับรางวัลนักแสดงหน้าใหม่ยอดเยี่ยมจากหลายเวที ทั้ง Korean Film Awards และ Buil Film Awards

ผลงานของคิมแซรนยังคงเป็นที่กล่าวขานในภาพยนตร์และซีรีส์ เช่น Can You Hear My Heart (2011), The Queen’s Classroom (2013), Manshin: Ten Thousand Spirits (2014), A Girl at My Door (2014), และ Hi! School: Love On (2014) โดยเธอได้รับการยกย่องอย่างมากในด้านการแสดงที่ลึกซึ้งและเข้าถึงตัวละคร

ในปี 2015 คิมแซรนได้รับบทนำในซีรีส์ Snowy Road ซึ่งบอกเล่าเรื่องราวของ Comfort Women ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ผลงานนี้ทำให้เธอได้รับรางวัลนักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยมจากเทศกาลภาพยนตร์ Golden Rooster และ Hundred Flowers

ความสามารถในการแสดงและการพัฒนาอาชีพ

คิมแซรนมีความสามารถในการเลือกรับบทบาทที่ท้าทายและน่าจดจำ เธอเป็นที่ยอมรับในฐานะนักแสดงที่เก่งกาจ โดยเธอไม่ลังเลที่จะรับบทที่ยากลำบากและสามารถเข้าถึงตัวละครได้อย่างสมจริง

คิมแซรนเคยเซ็นสัญญากับ YG Entertainment ในปี 2016 และต่อมาได้ย้ายมาร่วมงานกับ Gold Medalist ในปี 2020 อย่างไรก็ตาม สัญญาของเธอกับทาง Gold Medalist ได้สิ้นสุดลงในปี 2022 ปัจจุบันเธอเป็นนักแสดงอิสระ

ประวัติ คิมแซรน (Kim Sae Ron)

เรื่องอื้อฉาวและการพักงาน

ในปี 2022 คิมแซรนกลายเป็นข่าวฉาวเมื่อเธอถูกจับในข้อหาเมาแล้วขับ หลังขับรถพุ่งชนเข้ากับหม้อแปลงไฟฟ้าในย่านกังนัม กรุงโซล เหตุการณ์ดังกล่าวทำให้เธอต้องพักงานในวงการบันเทิงและถูกศาลสั่งปรับเงิน 20 ล้านวอน

เหตุการณ์นี้ทำให้คิมแซรนต้องถอนตัวจากซีรีส์ Trolley และไม่ได้ร่วมโปรโมตซีรีส์ Bloodhounds ทาง Netflix ในปี 2023 แม้ว่าเธอจะมีผลงานในซีรีส์ดังกล่าว

การจากไปอย่างน่าเศร้าของ คิมแซรน 

16 กุมภาพันธ์ 2025 สื่อเกาหลีรายงานข่าวการเสียชีวิตของคิมแซรนในวัย 25 ปี ศพของเธอถูกพบในบ้านส่วนตัว และยังไม่มีการเปิดเผยสาเหตุการเสียชีวิตที่ชัดเจน โดยตำรวจยืนยันว่าไม่มีหลักฐานที่บ่งชี้ถึงการบุกรุกหรือเหตุอาชญากรรม ขณะนี้อยู่ระหว่างการสอบสวน

การจากไปของคิมแซรนทำให้แฟนๆ และวงการบันเทิงต่างแสดงความเสียใจอย่างมาก เนื่องจากเธอเป็นนักแสดงที่มากด้วยความสามารถและศักยภาพในการพัฒนาต่อไปในอนาคต

คิมแซรนเป็นที่รู้จักและยกย่องในวงการบันเทิงเกาหลีใต้ จากผลงานการแสดงที่โดดเด่นและความสามารถที่ไม่ธรรมดา เส้นทางชีวิตและการจากไปของเธอเป็นที่จดจำในใจของผู้ชมและแฟนคลับตลอดไป

บทความเกี่ยวข้อง

• ด่วน! นักแสดงเกาหลี “คิมแซรน” เสียชีวิตแล้วในวัย 25 ปี
• คิมแซรน โพสต์ไอจีสตอรี่ จุดประเด็นข่าวลือความสัมพันธ์กับ คิมซูฮยอน
• คิมแซรน เตรียมหวนกลับวงการบันเทิง หลังพักงานเป็นปีเพราะคดีเมาแล้วขับ

ก่อนหน้านี้หลายๆ คนอาจจะเห็นภาพที่คนใส่ เสื้อผีเสื้อ หรือ แปลงเป็นนักเรียนญี่ปุ่น ในก่อนหน้านี้ ซึ่งทั้งหมดเกิดจาก Application Beauty Cam ซึ่งมีฟีเจอร์ “AI เปลี่ยนเสื้อผ้า” ซึ่งรอบนี้ Sanook Hitech จะมาสอนใช้งาน และพูดถึงว่าเสียเงินหรือไม่ มาตามดูกันเลย

ช่องทางดาวน์โหลด BeautyCam แอปแต่งรูปชุดผีเสื้อ

• ผู้ใช้มือถือระบบปฏิบัติการ iOS : https://apps.apple.com/th/app/beautycam
• ผู้ใช้มือถือระบบปฏิบัติการAndroid : https://apps.apple.com/th/app/beautycam

วิธีแต่งรูปชุดผีเสื้อ ด้วย AI BeautyCam

1. เปิดแอปและเลือกฟีเจอร์ AI เปลี่ยนชุด : แตะไอคอน “AI เปลี่ยนชุด”
2. เลือกรูปภาพ : ใช้ภาพที่เห็นร่างกายและเสื้อผ้าชัดเจน 
3. รอ AI ประมวลผล : ระบบจะสร้างชุดใหม่ให้โดยอัตโนมัติ
4. เลือกชุดที่ต้องการ : ลองชุดต่างๆ หรือสุ่มชุดใหม่ได้
5. บันทึกและแชร์ : เก็บภาพลงเครื่องหรือแชร์ไปยังโซเชียลมีเดีย

เรื่องควรรู้ก่อนใช้ AI เปลี่ยนชุดใน Beauty Cam

• คุณภาพของรูปภาพ: รูปภาพที่เลือกควรมีคุณภาพดี แสงสว่างเพียงพอ และเห็นสัดส่วนของร่างกายชัดเจน เพื่อให้ AI ประมวลผลได้อย่างแม่นยำ
• ความแม่นยำของ AI: AI เป็นเทคโนโลยีที่กำลังพัฒนา อาจมีบางครั้งที่การประมวลผลไม่แม่นยำเท่าที่ควร
• ความเป็นส่วนตัว: การใช้ฟีเจอร์ AI เปลี่ยนชุด อาจมีการประมวลผลข้อมูลส่วนตัว ควรศึกษาและทำความเข้าใจนโยบายความเป็นส่วนตัวของแอปพลิเคชันก่อนใช้งาน
• ค่าใช้จ่าย: ฟีเจอร์ AI เปลี่ยนชุด อาจมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม หรือต้องสมัครสมาชิกแบบพรีเมียมก่อนถึงจะใช้งานได้ ควรตรวจสอบรายละเอียดและเงื่อนไขการใช้บริการก่อนใช้งาน

ข้อดีของ AI เปลี่ยนชุดใน Beauty Cam

• ความสะดวกสบาย: ไม่ต้องเสียเวลาลองเสื้อผ้าจริง เพียงแค่เลือกรูปภาพ ก็สามารถลองสวมใส่เสื้อผ้าได้หลากหลายสไตล์
• ความหลากหลาย: มีชุดเสื้อผ้าให้เลือกมากมาย ทั้งสไตล์แฟชั่นและสไตล์อื่น ๆ
• ความสนุก: เป็นฟีเจอร์ที่สนุกและสร้างสรรค์ ช่วยให้คุณได้ลองอะไรใหม่ ๆ

ข้อเสียของ AI เปลี่ยนชุดใน Beauty Cam

• ความแม่นยำ: AI อาจประมวลผลไม่แม่นยำเท่าที่ควร เช่นถ้าดูจากภาพที่เราได้ทำพบว่ามีการเปลี่ยนแปลงรูปร่าง หรือบางครั้งอาจจะไม่ได้สมส่วน
• ค่าใช้จ่าย: บางฟีเจอร์อาจมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม ซึ่งคุณสามารถใช้งานได้ฟรี 7 วัน ดังนั้นก่อนลบ Apps อย่าลืมไปกด Unsubsciption ออกก่อนที่จะเสียเงินเดือนละ 990 บาท ด้วยนะ

วิธีการยกเลิกบริการ Beauty Cam

สำหรับผู้ใช้ Android

1. เปิดแอป Google Play Store บนโทรศัพท์หรือแท็บเล็ต Android ของคุณ
2. ตรวจสอบว่าคุณได้ลงชื่อเข้าใช้บัญชี Google ที่ถูกต้องแล้ว
3. แตะที่ไอคอน เมนู (รูปสามขีด) ที่มุมบนซ้าย
4. เลือก การสมัครใช้บริการ
5. เลือกการสมัครใช้บริการ Beauty Cam ที่คุณต้องการยกเลิก
6. แตะ ยกเลิกการสมัครใช้บริการ และทำตามคำแนะนำบนหน้าจอ

สำหรับผู้ใช้ iOS (iPhone/iPad)

1. เปิดแอป การตั้งค่า บนอุปกรณ์ของคุณ
2. แตะที่ชื่อของคุณที่ด้านบนสุดเพื่อเข้าถึงการตั้งค่า Apple ID ของคุณ
3. แตะที่ การสมัครรับข้อมูล
4. ค้นหาและแตะที่ Beauty Cam
5. แตะที่ ยกเลิกการสมัครสมาชิก และทำตามคำแนะนำเพื่อยืนยันการยกเลิก

AI เปลี่ยนชุดใน Beauty Cam เป็นฟีเจอร์ที่น่าสนใจและมีประโยชน์สำหรับผู้ที่ต้องการลองสวมใส่เสื้อผ้าหลากหลายสไตล์ โดยไม่ต้องเสียเวลาลองเสื้อผ้าจริง อย่างไรก็ตาม ควรศึกษาและทำความเข้าใจเรื่องควรรู้ก่อนใช้งาน เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด

หญิงสาวอ้างว่าพ่อแม่สูงวัย นั่งได้แค่ริมหน้าต่าง ขอให้ลูกค้าคนอื่นเปลี่ยนที่ พนักงานร้านอาหารไหวพริบดี ทำลูกค้าเถียงไม่ออก

งานบริการมักต้องเจอลูกค้าหลากหลายประเภท และการรับมืออย่างชาญฉลาดก็เป็นศิลปะอย่างหนึ่ง พนักงานหญิงร้านอาหารในไต้หวันรายหนึ่งได้แชร์ประสบการณ์แปลกๆ บนโลกออนไลน์

ผู้โพสต์เล่าเรื่องผ่าน Threads โดยไม่ได้เปิดเผยชื่อร้านอาหาร แต่จากข้อมูลในโซเชียลมีเดีย คาดว่าร้านตั้งอยู่ในไต้หวัน

วันเกิดเหตุ หญิงสาวคนหนึ่งโทรมาจองโต๊ะสำหรับ 3 คน ในเวลา 18.30 น. พร้อมแจ้งหมายเลขโทรศัพท์สิบหลัก และย้ำว่า “จะพาพ่อแม่มาด้วย ท่านอายุมากแล้ว จึงต้องนั่งติดหน้าต่าง” แต่พนักงานแจ้งว่าโต๊ะริมหน้าต่างถูกจองแล้ว และไม่สามารถจัดให้ได้

หญิงสาวจึงสอบถามว่าสามารถขอเปลี่ยนที่ได้หรือไม่ พนักงานขอโทษอีกครั้ง พร้อมอธิบายว่าโต๊ะริมหน้าต่างถูกจองล่วงหน้าหลายสัปดาห์แล้ว และย้ำว่า “ที่นั่งอื่นก็สะดวกสบายไม่แพ้กัน”

แต้หญิงสาวยังคงยืนกรานว่า “ฉันมากับผู้สูงอายุสองคน จึงต้องได้นั่งริมหน้าต่าง” และหวังว่าลูกค้าคนอื่นจะยอมสละที่ให้

พนักงานตอบกลับว่า คำขอเช่นนี้ไม่เหมาะสม แต่หญิงสาวยังเถียงต่อ “ยังไม่ได้ถามเลย จะรู้ได้ยังไงว่าไม่เหมาะ? พ่อแม่ฉันอายุมากจริงๆ นะ”

พนักงานใช้ไหวพริบ รับมือคำขอสุดงงของลูกค้า

เมื่อเห็นว่าลูกค้าหญิงยังยืนกรานไม่เลิก พนักงานจึงเริ่ม “สวนกลับ” อย่างสุภาพ ด้วยคำถามว่า “ขออนุญาตถามนะคะ ผู้สูงอายุกับที่นั่งริมหน้าต่างเกี่ยวข้องกันยังไง…”

ลูกค้าหญิงฟังแล้วงุนงง ตอบกลับว่าไม่เข้าใจความหมาย พนักงานจึงอธิบายว่า “ไม่ได้มีอะไรเป็นพิเศษค่ะ แค่อยากรู้เหตุผลจะได้ช่วยพูดกับลูกค้าท่านอื่นให้”

คำถามนี้ทำให้หญิงสาวไปไม่เป็น ตอบติดขัดว่า “ก็…ผู้สูงอายุต้องนั่งติดหน้าต่างอยู่แล้ว”

จากนั้นพนักงานงัดไม้ตายออกมา ด้วยคำพูดเรียบๆ ว่า “อาจจะลำบากหน่อยนะคะ เพราะโต๊ะนั้นก็ดูเหมือนจะมีผู้สูงอายุเหมือนกัน ถ้างั้นคุณลองไปคุยกับพวกเขาเองดีไหม?”

ที่จริงแล้ว พนักงานเองก็ไม่รู้เลยว่าลูกค้าโต๊ะนั้นมีผู้สูงอายุจริงหรือไม่ แต่พูดไปเพื่อตัดปัญหา และสุดท้าย ลูกค้าหญิงก็ต้องจำใจยอมรับโดยไม่มีทางเลือกอื่น

สุดท้ายหญิงสาวพร้อมพ่อแม่มาถึงร้านตรงเวลา แต่ไม่ได้ขอเปลี่ยนที่นั่ง และถูกจัดให้นั่งโต๊ะที่ไม่ติดหน้าต่างตามปกติ

หลังจากโพสต์ดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกไป ก็มีชาวเน็ตเข้ามาแสดงความคิดเห็นมากมาย อาทิ “ผู้สูงอายุเข้าห้องน้ำบ่อย แนะนำให้นั่งใกล้ห้องน้ำไหม? จะให้จัดโต๊ะริมทางเดินให้ด้วยหรือเปล่า?”, “ผู้สูงอายุต้องนั่งติดหน้าต่าง? นี่เป็นครั้งแรกที่ได้ยินเลย” และบางคนก็ตั้งคำถาม “ผู้สูงอายุมีสิทธิพิเศษอะไรเหรอ? ก็จ่ายเงินเหมือนกันแท้ๆ พูดถึงแต่คำว่าผู้สูงอายุซ้ำๆ ฟังแล้วเหนื่อยใจ”

อเมริกาจัดอันดับ “ผักที่ดีที่สุดในโลก” กลับกลายเป็นของหาง่ายๆ ในไทย ราคาไม่แพง!

“กะหล่ำปลี” คือผักที่ได้รับการยอมรับจาก CDC  หรือศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งสหรัฐอเมริกา ว่าเป็นหนึ่งในผักที่ดีต่อสุขภาพที่สุดในโลก ทั้งรสชาติอร่อย ราคาไม่แพง และสามารถนำไปปรุงได้หลายเมนู จึงมักพบในอาหารประจำวัน ที่สำคัญคือเต็มไปด้วยคุณประโยชน์มากมาย ดังนี้

• อุดมไปด้วยสารอาหาร : กะหล่ำปลีมีแคลอรี่ต่ำ แต่เต็มไปด้วยสารอาหารที่ดีต่อสุขภาพ ใน 100 กรัมจะมีแคลอรี่ประมาณ 12 กิโลแคลอรี่ มีน้ำ 95.14 กรัม โปรตีน 0.86 กรัม ไขมัน 0.1 กรัม ใยอาหาร 0.94 กรัม และวิตามินต่างๆ เช่น วิตามิน A, C, E
• ดีสำหรับผิวพรรณ : การทานผักที่มีน้ำและวิตามินสูงอย่างกะหล่ำปลี ช่วยให้ผิวชุ่มชื้นและนุ่มนวล
• เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน : กะหล่ำปลีมีวิตามิน C สูง ซึ่งช่วยสร้างเซลล์เม็ดเลือดขาว เสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน
• ดีต่อระบบการย่อยอาหาร : กะหล่ำปลีช่วยกระตุ้นการทำงานของลำไส้ และเพิ่มจุลินทรีย์ดีในลำไส้
• เสริมสร้างกระดูก : กะหล่ำปลีมีฟอสฟอรัสและแคลเซียม ช่วยเสริมความแข็งแรงให้กับกระดูก
• ช่วยลดการอักเสบของข้อ : วิตามิน B3 ในกะหล่ำปลีช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นให้กับข้อ ลดอาการปวดข้อ
• ลดอาการหอบหืด : การทานกะหล่ำปลีบ่อยๆ ช่วยให้กล้ามเนื้อหลอดลมผ่อนคลาย และลดอาการหายใจเสียงดัง
• ดีต่อสุขภาพหัวใจ : กะหล่ำปลีมีวิตามิน B9 ที่ช่วยลดสารฮโมซิสเตอีนในเลือด ซึ่งเป็นสาเหตุของโรคหัวใจ

อย่างไรก็ตาม ควรทานกะหล่ำปลีควบคู่กับผักชนิดอื่นๆ เพื่อให้ได้รับสารอาหารที่ครบถ้วนมากขึ้น เพราะกะหล่ำปลีมีสารอาหารบางอย่างต่ำ เช่น คลอโรฟิลล์ และกรดโฟลิก

• ชายไม่ดื่ม-ไม่สูบ นอนตัวเหลืองรอ “เปลี่ยนตับ” หมอชี้ต้นเหตุ “น้ำโปรด” ที่ไม่ใช่เหล้าเบียร์!
• อ็อกซ์ฟอร์ดวิจัยพบ เครื่องดื่มช่วย “ขับไล่” มะเร็งลำไส้ มีติดตู้เย็นทุกบ้าน ถูกกว่าชา-กาแฟ

เรียกว่าไม่คิดว่าจะได้เห็นมุมนี้ของนักแสดงสาวหน้าเก๋ลุคเท่ แพต ชญานิษฐ์ สำหรับวันวาเลนไทน์ปีนี้ที่สาว แพต ได้เปิดตัวแฟนหนุ่มลงอินมตาแกรม กับโมเมนต์สุดหวาน 

กับคลิปแคปชั่นวันวาเลนไทน์ที่เขียนไว้ว่า “ไม่ได้ชอบเอาชนะ แต่เพราะอะไรทำไมต้องแพ้อะเตง happy v month”

งานนี้ทำเอาเพื่อนดาราเข้ามาคอมเมนต์กันเยอะเลย เช่น Open bodyyyyy,Happy V Day sis,รักกันเกิ้น,หึ้ยยยย,ให้มันจึ้ง,Awww,หวานฉ่ำาา แฮปปี้ๆงับ,ตัดขาไปข้างเลยเพ่

ซึ่งแฟนหนุ่มของ แพต ชญานิษฐ์ นั้นหลายคนน่าจะคุ้นหน้ากันแน่ๆ เพราะว่าเป็น ไฮโซแพทริค ทายาทโรงแรมดัง ซึ่งเป็นอดีตแฟนของนางเอกดัง ขวัญ อุษามณี นั่นเอง 

,