Blog

  • KUBET – วันฉัตรมงคลธนาคารหยุดไหม? เช็กวันหยุดธนาคารในห้าง-นอกห้าง พฤษภาคม 2568

    เช็กวันหยุดธนาคาร วันฉัตรมงคล 2568 วันหยุดธนาคารเดือนพฤษภาคม อัปเดตวันหยุดชดเชย ธนาคา เปิด-ปิด ทำการช่วงวันและเวลาไหน

    ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เคยประกาศวันหยุดประจำปี 2568 ไปแล้วก่อนหน้านี้ ซึ่งในเดือนพฤษภาคม 2568 มีวันหยุดทำการของธนาคารหลายวัน ได้แก่

    วันหยุดธนาคาร เดือนพฤษภาคม 2568

    • วันพฤหัสบดีที่ 1 พฤษภาคม 2568 วันแรงงานแห่งชาติ
    • วันจันทร์ที่ 5 พฤษภาคม 2568 วันชดเชย วันฉัตรมงคล (วันอาทิตย์ที่ 4 พฤษภาคม 2568)
    • วันจันทร์ที่ 12 พฤษภาคม 2568 วันชดเชยวันวิสาขบูชา (วันอาทิตย์ที่ 11 พฤษภาคม 2568)

    วันฉัตรมงคล ธนาคารหยุดไหม

    ธนาคารออมสิน

    วันที่ 5 พฤษภาคม 2568 เนื่องในวันหยุดชดเชยวันฉัตรมงคล

    • สาขาสาขาในห้างสรรพสินค้า และสาขาที่เปิดให้บริการ 7 วัน เปิดทำการ
    • สาขาที่เปิดให้บริการ จันทร์ – ศุกร์ ปิดทำการ

    ธนาคารกสิกรไทย

    วันที่ 5 พฤษภาคม 2568 เนื่องในวันหยุดชดเชยวันฉัตรมงคล

    • สาขาในห้างสรรพสินค้า เปิดทำการ
    • สาขาทั่วไป ปิดทำการ

    ธนาคารอาคารสงเคราะห์

    วันที่ 5 พฤษภาคม 2568 เนื่องในวันหยุดชดเชยวันฉัตรมงคล

    • สาขาในห้างสรรพสินค้า เปิดทำการปกติ
    • สาขานอกห้างสรรพสินค้า ปิดทำการ

    ธนาคารกรุงเทพ

    วันที่ 5 พฤษภาคม 2568 เนื่องในวันหยุดชดเชยวันฉัตรมงคล

    • สาขาในห้างสรรพสินค้า เปิดทำการปกติ
    • สาขานอกห้างสรรพสินค้า ปิดทำการ

    ธนาคารทหารไทย ธนชาต

    วันที่ 5 พฤษภาคม 2568 เนื่องในวันหยุดชดเชยวันฉัตรมงคล

    • สาขาในห้างสรรพสินค้า เปิดทำการปกติ
    • สาขานอกห้างสรรพสินค้า ปิดทำการ

    ธนาคารไทยพาณิชย์

    วันที่ 5 พฤษภาคม 2568 เนื่องในวันหยุดชดเชยวันฉัตรมงคล

    • สาขาในห้างสรรพสินค้า เปิดทำการปกติ
    • สาขานอกห้างสรรพสินค้า ปิดทำการ

    ธนาคารกรุงศรีอยุธยา

    ประกาศหยุดวันที่ 3-5 พฤษภาคม 2568

    • สาขาที่เปิดทำการ (ไม่เว้นวันหยุดธนาคาร) เปิดทำการ
    • สาขาที่เปิดให้บริการ วันจันทร์-วันศุกร์ (เว้นวันหยุดธนาคาร) ปิดทำการ 1 และ 3-5 พ.ค. 68
    • สาขาที่เปิดให้บริการวันจันทร์-วันเสาร์ และเปิดให้บริการทุกวัน (เว้นวันหยุดธนาคาร) ปิดทำการ 1 และ 4-5 พ.ค. 68

    ทั้งนี้ สามารถใช้บริการได้ผ่านช่องทาง Krungsri ATM, Krungsri Online / Krungsri Biz, krungsri app และโทร 1572

    ธนาคารยูโอบี

    วันที่ 5 พฤษภาคม 2568 เนื่องในวันหยุดชดเชยวันฉัตรมงคล

    • สาขาในห้างสรรพสินค้า เปิดทำการปกติ
    • สาขานอกห้างสรรพสินค้า ปิดทำการ
  • KUBET – นักวิจัยเปิดชื่อ ผัก 1 ชนิด ผลไม้ 1 ชนิด ลดความดันได้ผล ป้องกันเพชรฆาตเงียบ

    นักวิจัยแคนาดาเปิดชื่อ ผัก 1 ชนิด ผลไม้ 1 ชนิด ทางลัดช่วยลดความดันโลหิตสูงได้ผลดีกว่าการลดเกลืออย่างเดียว

    ใครที่กำลังควบคุมความดันโลหิต อาจต้องเปลี่ยนแนวทาง! งานวิจัยล่าสุดจากมหาวิทยาลัยวอเตอร์ลู ประเทศแคนาดา ระบุว่า การเพิ่ม “กล้วย” และ “บรอกโคลี” ซึ่งอุดมไปด้วยโพแทสเซียม อาจได้ผลดีกว่าการลดเกลือเพียงอย่างเดียว

    สื่ออังกฤษรายงานว่า โพแทสเซียมมีบทบาทสำคัญในการควบคุมความดันโลหิต และเมื่อบริโภคในสัดส่วนที่เหมาะสมเมื่อเทียบกับโซเดียม จะช่วยลดความดันได้อย่างมีประสิทธิภาพ

    “กล้วย-บรอกโคลี” ทางเลือกใหม่ในการดูแลหัวใจ

    กล้วยและบรอกโคลีจัดเป็นแหล่งโพแทสเซียมชั้นเยี่ยม ที่ช่วยลดผลกระทบจากโซเดียม ซึ่งเป็นตัวการสำคัญของโรคความดันโลหิตสูง หรือที่รู้จักกันในชื่อ “เพชฌฆาตเงียบ” ที่ส่งผลกระทบต่อผู้ใหญ่กว่า 30% และเป็นปัจจัยเสี่ยงหลักของโรคหัวใจ ไต และหลอดเลือดสมอง

    ศ.อนิตา เลย์ตัน ผู้นำการวิจัยกล่าวว่า “แทนที่จะลดเกลืออย่างเดียว การเพิ่มอาหารที่อุดมด้วยโพแทสเซียม เช่น กล้วยหรือบรอกโคลี จะให้ผลลัพธ์ที่ดีกว่าในการควบคุมความดันโลหิต”

    โพแทสเซียมดีอย่างไร?

    โพแทสเซียมเป็นอิเล็กโทรไลต์ที่ช่วยควบคุมสมดุลของของเหลวในร่างกาย และช่วยให้กล้ามเนื้อทำงานได้อย่างราบรื่น งานวิจัยชิ้นนี้ยังพัฒนาแบบจำลองทางคณิตศาสตร์ เพื่อวิเคราะห์ผลของโพแทสเซียมต่อความดันโลหิตอย่างแม่นยำ

    ทำไมผู้ชายควรให้ความสำคัญ?

    งานวิจัยพบว่า ผู้ชายมีแนวโน้มเป็นความดันโลหิตสูงมากกว่าผู้หญิงก่อนวัยหมดประจำเดือน แต่กลับตอบสนองในทางบวกมากกว่า เมื่อได้รับสัดส่วนโพแทสเซียม/โซเดียมที่เหมาะสม

    บทสรุปจากนักวิจัย

    นางเมลิสซา สตัดต์ หัวหน้าทีมวิจัยกล่าวว่า วิวัฒนาการของมนุษย์เดิมนั้นคุ้นชินกับอาหารที่มีโพแทสเซียมสูง เช่น ผักและผลไม้ ซึ่งต่างจากวิถีชีวิตปัจจุบันที่บริโภคอาหารโซเดียมสูงกันมากเกินไป

    แบบจำลองของทีมวิจัยยังช่วยให้สามารถทดสอบผลกระทบจากสารอาหารต่าง ๆ ต่อสุขภาพได้รวดเร็วและคุ้มค่า ช่วยชี้แนวทางใหม่ ๆ ในการดูแลสุขภาพหัวใจ

    เคล็ดลับสุขภาพ เพิ่มกล้วยวันละ 1 ลูก และบรอกโคลีในมื้ออาหารหลัก อาจเป็นทางลัดสู่ความดันโลหิตที่สมดุลโดยไม่ต้องพึ่งยา!

  • KUBET – “กึ้ง เฉลิมชัย” ขอโทษคอนเสิร์ต GOT7 “อากาเซ่” ลั่นอย่าจัดอีก

    “กึ้ง เฉลิมชัย” ขอโทษคอนเสิร์ต GOT7 ไม่วายเจอดราม่า ทัวร์ลงยับ “อากาเซ่” ลั่นอย่าจัดอีก

    จบไปแล้วกับคอนเสิร์ต “2025 GOT7 CONCERT < NESTFEST > in BANGKOK” ทั้ง 2 รอบการแสดง ในวันศุกร์ที่ 2 พ.ค. และวันเสาร์ที่ 3 พ.ค.2568 ณ ราชมังคลากีฬาสถาน ที่เหล่าอากาเซ่พูดเป็นเสียงเดียวกันว่ามีดีแค่ศิลปิน

    เพราะตั้งแต่ก่อนวันกดบัตรคอนเสิร์ต จนถึงเวลาก่อนเข้างานก็มีปัญหาไม่หยุด ทำเอาอากาเซ่ไม่พอใจเป็นอย่างมากจนเกิดดราม่าต่าง ๆ

    ล่าสุด “กึ้ง เฉลิมชัย” CEO 411 Entertainment ผู้จัดคอนเสิร์ต GOT7 ครั้งนี้ ได้โพสต์ข้อความหลังจากจบคอนเสิร์ตว่า “มีเรื่องมากมายที่อยากจะพูด อ่านทุกคอมเมนต์ ทุกแท็ก แต่เข้าใจได้ว่ามีวิธีเดียวคือการตั้งใจทำงานให้ออกมาให้ดีที่สุดในสไตล์ 411 คือ production ที่จัดเต็ม เราสร้างจอใหญ่ที่สุดที่เคยมีในสนามราชมังคลา เครื่องเสียง พลุ โดรน ใส่หมดเท่าที่สถานที่จะทำได้ เพื่อเป็นการตอบแทนทุกเสียง”

    “แต่การที่เป็นคนกลางของความรัก กับ 7 บริษัท 100 กว่าชีวิต 100 ความคิด กับกลุ่มแฟนคลับมหาศาล และทำให้คนพอใจทั้งหมดเป็นเรื่องยากมาก อยากขอขอบคุณกับโอกาสที่ให้เรา 411 ได้เป็นส่วนเล็กๆ ของความรักนี้ ทั้งศิลปินและอากาเซ่ทุกคน และอยากขอโทษที่ไม่สามารถทำให้ทุกคนพอใจได้ครับ”

    “411 ขอขอบคุณพาร์ตเนอร์และทีมงานทุกคนที่เสียทั้งน้ำตาอดทนกับแรงกดดัน และทำงานนี้ให้เกิดขึ้นได้ที่ประเทศไทยของเรา สุดท้ายเราขอเป็นส่วนเล็กๆ ที่สร้างรอยยิ้มไม่มากก็น้อยหลังจากจบงานไปให้กับทุกคนครับ ปล.อยากให้บ้านเรามีสถานที่จัดคอนเสิรตที่ใหญ่กว่านี้และดีกว่านี้ ขอบคุณอีกครั้งครับ”

    พร้อมติดแฮชแท็ก #GOT7_NESTFESTinBKK #411ฟังเสียงอากาเซ่หน่อย #WelcomeGOT7toYourNest #411entapologizetogot7

    งานนี้หลังจากโพสต์ไปเพียงไม่นานรถทัสร์ก็มาจอดรอ เหล่าอากาเซ่มาแสดงความคิดเห็นระบายความอัดอั้นในใจกันอย่างมากมาย

     

  • KUBET – ภาพถ่ายประวัติศาสตร์: เมื่อ “ชาย 4 คน” ผู้เปลี่ยนโลกมาอยู่ในเฟรมเดียวกัน

    ช่วงกลางศตวรรษที่ 20 เป็นช่วงเวลาที่ฟิสิกส์โลกเดินทางจากทฤษฎีสู่ยุคปฏิบัติอย่างเต็มรูปแบบ จากความเข้าใจอะตอม ไปสู่ระเบิดนิวเคลียร์ พลังงานนิวเคลียร์ และกลศาสตร์ควอนตัมขั้นสูง

    ในช่วงเวลานี้ มีนักฟิสิกส์เพียงไม่กี่คนที่มีบทบาทสำคัญเท่ากับ อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ (Albert Einstein), ฮิเดกิ ยุคาวะ (Hideki Yukawa), จอห์น เอ. วีเลอร์ (John A. Wheeler) และ โฮมี เจ. บาบา (Homi J. Bhabha)
    rโดยภาพถ่ายหายากภาพหนึ่งที่ปรากฏบุคคลเหล่านี้ในกรอบเดียวกัน เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 30 มีนาคม ค.ศ. 1954 ในการประชุมวิชาการที่ Institute for Advanced Study เมืองพรินซ์ตัน รัฐนิวเจอร์ซีย์ สหรัฐอเมริกา

    ภาพนี้กลายเป็นประวัติศาสตร์ในเชิงปรัชญา เพราะไม่เพียงเป็นหลักฐานทางสายตาของยุคทองแห่งฟิสิกส์ แต่ยังแสดงให้เห็นความเชื่อมโยงของแนวคิดตะวันตกและตะวันออกผ่านความรู้ทางวิทยาศาสตร์

    e

    อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์

    เจ้าของทฤษฎีสัมพัทธภาพ ผู้ปฏิวัติความเข้าใจของมนุษย์ต่อเวลา พื้นที่ และแรงโน้มถ่วง ภาพถ่ายของเขาที่ร่วมโต๊ะประชุมกับนักวิทยาศาสตร์จากทั่วโลกมักสะท้อนภาพของ “ผู้นำทางความคิด” ที่มีทั้งความเคร่งขรึมและแววตาแห่งความอยากรู้อยากเห็น

    mbi

    ฮิเดกิ ยุคาวะ

    นักฟิสิกส์ญี่ปุ่นคนแรกที่ได้รับรางวัลโนเบล สร้างชื่อจากทฤษฎีเกี่ยวกับแรงนิวเคลียร์และการคาดการณ์การมีอยู่ของมีซอน (meson) ภาพที่เขายืนเคียงข้าง ไอน์สไตน์ หรือ วีเลอร์ นั้น สื่อถึงการเชื่อมโยงโลกวิทยาศาสตร์ของเอเชียกับกระแสหลักของฟิสิกส์โลกเป็นครั้งแรก

    wheeler

    จอห์น เอ. วีเลอร์

    นักฟิสิกส์ชาวอเมริกันผู้วางรากฐานให้แนวคิดเรื่อง “หลุมดำ” และผู้ร่วมงานอย่างใกล้ชิดกับทั้ง ไอน์สไตน์ และ นิลส์ โปร์ (Niels Bohr) ภาพถ่ายของเขาบ่อยครั้งปรากฏคู่กับนักฟิสิกส์รุ่นใหม่ ซึ่งสะท้อนความเป็น “ครู” และนักเชื่อมโยงแนวคิดอย่างแท้จริง

    ho

    โฮมี เจ. บาบา

    นักฟิสิกส์ทฤษฎีชาวอินเดีย ผู้เป็นผู้บุกเบิกงานด้านฟิสิกส์อนุภาคและเป็นบิดาแห่งโครงการพลังงานนิวเคลียร์ของอินเดีย เขาปรากฏตัวในภาพถ่ายอย่างภูมิฐานเสมอ ทั้งในที่ประชุมและห้องทดลอง ซึ่งแสดงให้เห็นบทบาทของวิทยาศาสตร์ในประเทศกำลังพัฒนา

    70634509_1353472681474649_660

    ภาพถ่ายร่วมกัน: มากกว่าการบันทึก

    ภาพถ่ายที่บันทึกนักฟิสิกส์เหล่านี้อยู่ในกรอบเดียวกัน ไม่ได้เป็นแค่ภาพแห่งประวัติศาสตร์ แต่มันคือภาพของ “การพบกันของมุมมอง” จากฝั่งตะวันตกสู่ตะวันออก จากสัมพัทธภาพถึงกลศาสตร์ควอนตัม และจากความคิดเชิงทฤษฎีสู่เทคโนโลยีระดับโลก

    หากมองให้ลึกกว่าความเงียบงันในภาพ เราอาจสัมผัสได้ถึงการเคลื่อนไหวของความรู้ ความร่วมมือ และการเปลี่ยนแปลงโลกในทางที่ไม่อาจหวนกลับ

  • KUBET – 10 อันดับ ราคาที่ดิน ‘ต่างจังหวัด’ แพงสุดในไทย อยู่ที่ไหนบ้าง มีจังหวัดเราหรือเปล่า

    10 อันดับ ราคาที่ดิน ‘ต่างจังหวัด’ แพงสุดในไทย อยู่ที่ไหนบ้าง มีจังหวัดเราหรือเปล่า

    ถ้าพูดถึงราคาที่ดินในประเทศไทย หลายคนอาจนึกถึงกรุงเทพฯ เป็นอันดับแรก แต่คุณรู้หรือไม่ว่า “ต่างจังหวัด” หลายแห่งก็มีราคาที่ดินพุ่งแรงไม่แพ้กัน โดยเฉพาะเมืองท่องเที่ยวและหัวเมืองเศรษฐกิจที่มีการเจริญเติบโตอย่างต่อเนื่อง

    จากข้อมูล ราคาประเมินที่ดินรอบปี 2566-2569 ของกรมธนารักษ์ พบว่า 10 จังหวัดที่มีราคาประเมินที่ดินสูงที่สุดในต่างจังหวัดปี 2568 มีดังนี้:

    10 อันดับทำเลที่ดินต่างจังหวัดราคาแพงที่สุด (ปี 2568)

    อันดับ จังหวัด ทำเล/ถนน ราคาประเมิน (บาท/ตร.ว.) ราคาประเมิน (บาท/ตร.ม.)
    1 สงขลา ถ.นิพัทธ์อุทิศ 3 400,000 100,000
    2 เชียงใหม่ ถ.ท่าแพ 250,000 62,500
    3 ชลบุรี ถ.เลียบหาดพัทยา 220,000 55,000
    4 นครศรีธรรมราช ถ.เนรมิตร 200,000 50,000
    5 ภูเก็ต ถ.ทวีวงศ์ (หาดป่าตอง) 200,000 50,000
    6 ขอนแก่น ถ.ศรีจันทร์ 200,000 50,000
    7 อุดรธานี ถ.โพศรี 180,000 45,000
    8 ยะลา ถ.สุขยางค์ 170,000 42,500
    9 ตรัง ถ.ราชดำเนิน 150,000 37,500
    10 สุราษฎร์ธานี ถ.หน้าเมือง 150,000 37,500

    ภาพรวมและแนวโน้มราคาที่ดิน

    • สงขลาครองอันดับ 1: ถ.นิพัทธ์อุทิศ 3 ในหาดใหญ่ เป็นทำเลทองของภาคใต้ ราคาพุ่งถึง 400,000 บาท/ตร.ว. ด้วยบทบาทเป็นศูนย์กลางการค้าและเศรษฐกิจของภาคใต้
    • เมืองท่องเที่ยวมาแรง: เชียงใหม่ (ถ.ท่าแพ), ชลบุรี (พัทยา), ภูเก็ต (หาดป่าตอง) ล้วนเป็นทำเลยอดนิยมของนักท่องเที่ยว ทำให้ราคาที่ดินสูงอย่างต่อเนื่อง
    • หัวเมืองเศรษฐกิจ: ขอนแก่น และอุดรธานี เป็นศูนย์กลางของภาคอีสาน ราคาที่ดินในย่านใจกลางเมืองพุ่งสูงตามการพัฒนา
    • แนวโน้มปี 2568-2569: ราคาที่ดินในเมืองใหญ่และจังหวัดท่องเที่ยวมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 5-10% ต่อปี โดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน เช่น สนามบินเชียงใหม่แห่งใหม่ หรือโครงการขนาดใหญ่ที่เขาใหญ่

    รายละเอียดตามภูมิภาค

    ภาคเหนือ

    • เชียงใหม่: ถ.ท่าแพ สูงถึง 250,000 บาท/ตร.ว. โซนสันทรายและสันกำแพงมีแนวโน้มราคาขึ้นจากสนามบินใหม่
    • ลำปาง-ลำพูน: ราคาสูงสุดในเมืองประมาณ 100,000 บาท/ตร.ว.

    ภาคตะวันออก

    • ชลบุรี: ถ.เลียบหาดพัทยา ราคา 220,000 บาท/ตร.ว. พัทยาใต้และจอมเทียนอยู่ที่ 100,000-150,000 บาท/ตร.ว.
    • ระยอง: สูงสุด 125,000 บาท/ตร.ว. ในโซนอุตสาหกรรม
    • จันทบุรี: สูงสุดประมาณ 90,000 บาท/ตร.ว.

    ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

    • ขอนแก่น: ถ.ศรีจันทร์ 200,000 บาท/ตร.ว.
    • อุดรธานี: ถ.โพศรี 180,000 บาท/ตร.ว.
    • นครราชสีมา: โซนปากช่อง (เขาใหญ่) สูงสุด 130,000 บาท/ตร.ว. มีแนวโน้มเติบโตจากโครงการที่อยู่อาศัยและท่องเที่ยว

    ภาคใต้

    • สงขลา: ถ.นิพัทธ์อุทิศ 3 สูงสุดในต่างจังหวัดที่ 400,000 บาท/ตร.ว.
    • ภูเก็ต: ถ.ทวีวงศ์ (หาดป่าตอง) 200,000 บาท/ตร.ว.
    • นครศรีธรรมราช, ตรัง, สุราษฎร์ธานี, ยะลา: ราคาช่วง 150,000-200,000 บาท/ตร.ว. ในย่านใจกลางเมือง

    ข้อควรรู้

    ราคาประเมินที่ดินของกรมธนารักษ์ใช้เพื่อคำนวณภาษีและค่าธรรมเนียม ซึ่งอาจ ต่ำกว่าราคาตลาดจริง โดยเฉพาะในทำเลทอง เช่น พัทยา หรือป่าตอง ที่ราคาตลาดอาจสูงกว่าหลายเท่า

    สรุป

    จังหวัดที่ราคาที่ดิน “ต่างจังหวัด” แพงที่สุดในปี 2568 คือ สงขลา ตามมาด้วย เชียงใหม่ ชลบุรี และภูเก็ต ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเมืองท่องเที่ยวหรือหัวเมืองเศรษฐกิจ หากคุณกำลังวางแผนลงทุน ลองเช็กดูว่าจังหวัดของคุณติดอันดับหรือไม่ แล้วอย่าลืมศึกษาราคาตลาดจริงประกอบการตัดสินใจด้วย!

    อ้างอิง:

    • กรมธนารักษ์, ราคาประเมินที่ดินรอบปี 2566-2569
    • รายงานแนวโน้มราคาที่ดิน ปี 2568, Matichon
    • ข่าวประชาชาติธุรกิจ, Prachachat
  • KUBET – คู่ไหนอีก ปิดตำนานประโยคคลั่งรัก “ทำไมเราโชคดีจัง” เขาเลิกกันแล้ว?

    คู่รักดารา ปิดตำนานประโยคคลั่งรัก “ทำไมเราโชคดีจัง” เม้าท์ฉ่ำเลิกกันแล้ว ต่างฝ่ายต่างอัลฟอลโล่เรียบร้อย

    วงการบันเทิงมีประเด็นร้อนมาให้ได้ใส่ใจกันอย่างต่อเนื่องจริงๆ เรียกว่าตั้งแต่ต้นปีมีเรื่องให้ได้ติดตามกันมาตลอดๆ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเรื่องความรัก ข่าวลือที่ลือๆ นั้นส่วนใหญ่จริงๆ ทั้งหมดเลยซะด้วย

    ล่าสุดเพจดังอย่าง เจ๊มอย108 V1 หย่อนคำใบ้คู่รักดาราเลิกกันแล้ว?  โดยลงข้อความไว้ว่า “การอวดแฟน คลั่งรักในวันนั้น น่าจะจบกันละมั้งในวันนี้ เพราะเขาอันฟอลกันแล้วจ้าต่อไปผัวน่าจะตอบแล้วล่ะว่า..โสดครับ!! #อิพิมเมียใครดีวะ”

    หลายคนที่ได้อ่านแล้วต่างเข้ามาคอมเมนต์กันสนั่นเลยทีเดียว อาทิ 

    -อ๋อ นานแล้วหนิคู่นี้ ตั้งแต่ปีใหม่แล้วมั้ง
    -ทายถูกอ่ะคู่นี้ เห็นมาซักพักแล้วในตต.
    -กท กป ใช่มั้ย
    -สอบตก ให้ตัวย่อมาเราก็ไม่รู้อยู่ดี
    -น่าเสียดายอ่ะคู่นี้
    -กระทิงแดงแน่เลย
    -คนตัวสูงๆ แน่ๆ

  • KUBET – วิธีไหว้ราหู 5 พฤษภาคม 2568 หมอช้าง แนะ ฤกษ์ไหว้ ของไหว้ พร้อมบทสวด

    วิธีไหว้ราหู ในเดือนพฤษภาคม 2568 นี้ จะมีดาวย้าย 3 ดวง ได้แก่ ดาวราหู ดาวพฤหัสบดี และดาวเสาร์ หรือที่เรียกว่า ดาวตรีเทพ ซึ่งเป็นสิ่งที่ในทางโหราศาสตร์เกิดขึ้นนาน ๆ ครั้ง โดยจะเริ่มจากดาวราหูย้ายราศี ในวันที่ 5 พฤษภาคม 2568 สำหรับผู้ที่อยากไหว้รับพระราหูย้ายราศีในครั้งนี้ ล่าสุด หมอช้าง ทศพร ศรีตุลา นักพยากรณ์ชื่อดัง ได้แนะนำพี่วิธีไหว้ราหู ฤกษ์ไหว้ราหู พร้อมบทสวดไหว้ราหู โดยมีวิธีดังนี้

    วิธีไหว้ราหู 5 พฤษภาคม 2568

    ไหว้ราหูตอนกี่โมง

    • ไหว้ราหู วันที่ 5 พฤษภาคม 2568
    • ฤกษ์ไหว้ราหู เวลา 9.44 หรือ 20.12

    ไหว้ราหูจุดธูปกี่ดอก

    • การไหว้ราหูให้จุดธูปตามจำนวนของไหว้ 8 หรือ 12 ดอก

    ของไหว้ราหูมีอะไรบ้าง

    เตรียมของไหว้ราหู จำนวน 8 หรือ 12 อย่าง โดยเน่นไปที่ของสีดำ

    • ของคาว เช่น ซุปไก่ ไข่เยี่ยวมา
    • ของหวาน เช่น ข้าวเหนียวดำ เฉาก๊วย
    • เครื่องดื่ม เช่น กาแฟดำ โคล่า

    ไหว้ราหูหันหน้าไปทางทิศไหน

    • ให้ผู้ไหว้หันหน้าไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ

    ขั้นตอนการไหว้ราหู

    ขั้นตอนที่ 1

    ตั้ง นะโม ฯ 3 จบ

    บทสวดบูชาพระราหู

    กินนุ สันตะระมาโน วะราหุ สุริยัง ปะมุญจะสิ

    สังวิคคะรูโป อาคัมมะกินนุ ภีโต วะ ติฏฐะสีติ

    สัตตะธา เม ผะเล มุทธา ชีวันโต นะ สุขัง ละเภ

    พุทธะคาถาภิคีโตมหิ โน เจ มุญเจยยะ สุริยันติ

    กินนุ สันตะระมาโน วะราหุ จันทัง ปะมุญจะสิ

    สังวิคคะรูโป อาคัมมะ กินนุ ภีโต วะ ติฏฐะสีติ

    สัตตะธา เม ผะเล มุทธา ชีวันโต นะ สุขัง ละเภ

    พุทธะคาถาภิคีโตมหิ โน เจ มุญเจยยะ จันทิมันติ

    ขั้นตอนที่ 2

    พระคาถาสุริยะบัพพา

    กุสเสโตมะมะ กุสเสโตโต

    ลาลามะมะโตลาโม โทลาโมมะมะ โทลาโมมะมะ

    โทลาโมตัง เหกุติมะมะ เหกุติ

    พระคาถาจันทบัพพา

    ยัตถะตังมะมะ ตังถะยะ

    ตะวะตัง มะมะตั้ง วะติตัง เสกามะมะ

    กาเสตัง กาติยังมะมะ ยะติกาฯ

    ขั้นตอนที่ 3

    คำถวายของบูชาพระราหู

    นะโมเม พระราหูเทวานัง ธูปะทีปะ จะปุปผัง สักการะวันทะนัง

    สูปะพะยัญชะนะ สัมปันนัง โภชะนานัง สาลีนัง สะปะริวารัง

    อุทะกังวะรัง อาคัจฉันตุ ปะริภุญชันตุ สัพพะกา หิตายะ สุขายะ

    พระราหูเทวา มะหิทธิกา เตปิอัมเห อะนุรัก ขันตุ อาโรคะ เยนะ สุเขนะจะ

    ขั้นตอนที่ 4

    คาถาบูชาพระราหู

    คะ พุท ปัน ทู ธัม วะ คะ (12 จบ)

    ข้าพเจ้า (ชื่อ – นามสกุล) ขอบูชาพระราหูด้วยของดำ (8 หรือ 12 อย่าง) ขอให้อิทธิพลของดาวราหู จงส่งผลดีแก่ดวงชะตาของข้าพเจ้า ขอให้พบเจอแต่กัลยาณมิตรที่ดี มีสุขภาพแข็งแรง ปราศจากโรคภัย ขอให้เกิดความสุขในครอบครัว ขอให้ดาวราหูประทานโชคลาภ ความสำเร็จ แก่ข้าพเจ้าด้วยเทอญ

    ขั้นตอนที่ 5

    ลาของไหว้ราหู

    เมื่อรูปใกล้หมดให้ลาของไหว้ แล้วนำมารับประทานเพื่อความเป็นสิริมงคล ก่อนรับประทานของไหว้ควรท่องคาถา “คะ พุท ปัน ทู ธัม วะ คะ”

     

  • KUBET – จ่ายเงิน 1,000 บาท รัฐบาลแจกงวดแรกแล้วให้ประกันสังคม ม.33-ม.39 แล้ว ใครได้บ้างเช็กด่วน

    แจกเงิน 1,000 บาท งวดแรก รัฐบาลจ่ายให้ประกันสังคม ม.33-ม.39 ตั้งแต่วันที่ 30 เม.ย. 68 แล้ว ใครมีสิทธิ์ได้บ้างเช็กด่วน

    น.ส.ศศิกานต์ วัฒนะจันทร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ตามนโยบายรัฐบาลในการปรับเพิ่มเงินสงเคราะห์บุตรจาก 800 บาทเป็น 1,000 บาทต่อเดือนต่อคน ซึ่งมีผลตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 68 เป็นต้นไป และเริ่มจ่ายงวดแรกในวันที่ 30 เม.ย. นี้ ถือเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จของรัฐบาลที่มุ่งยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชนในทุกกลุ่มอย่างเป็นรูปธรรม

    โดยผู้ประกันตนมาตรา 33 และมาตรา 39 ที่มีบุตรอายุตั้งแต่แรกเกิดจนถึง 6 ขวบ มีสิทธิได้รับเงินสงเคราะห์บุตรเดือนละ 1,000 บาท ต่อคน ต่อเดือนได้คราวละไม่เกิน 3 คน มาตรการนี้เป็นผลสืบเนื่องจากการที่รัฐบาลให้ความสำคัญกับการแก้ปัญหาโครงสร้างประชากรของประเทศ ที่อัตราการเกิดลดลง

    ขณะที่ประชากรสูงอายุเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยการปรับเพิ่มเงินสงเคราะห์บุตรไม่เพียงช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายของผู้ประกันตน แต่ยังสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลในการส่งเสริมการเกิดและเติบโตอย่างมีคุณภาพของเด็กทุกคนอย่างเท่าเทียม และยกระดับคุณภาพชีวิตในระยะยาว

    สำหรับการจ่ายเงินสงเคราะห์บุตร 2568 จะโอนเข้าบัญชีธนาคารให้ผู้ประกันตน ทุกๆ สิ้นเดือน ซึ่งอัตราใหม่ 1,000 บาท ตามหลักเกณฑ์เงื่อนไขการจ่ายเงินสงเคราะห์บุตร มีดังนี้

    • สิทธิในเดือนมกราคม จะได้รับเงินในเดือนเมษายน
    • สิทธิในเดือนกุมภาพันธ์ จะได้รับเงินในเดือนพฤษภาคม
    • สิทธิในเดือนมีนาคม จะได้รับเงินในเดือนมิถุนายน
    • สิทธิในเดือนเมษายน จะได้รับเงินในเดือนกรกฎาคม
    • สิทธิในเดือนพฤษภาคม จะได้รับเงินในเดือนสิงหาคม
    • สิทธิในเดือนมิถุนายน จะได้รับเงินในเดือนกันยายน
    • สิทธิในเดือนกรกฎาคม จะได้รับเงินในเดือนตุลาคม
    • สิทธิในเดือนสิงหาคม จะได้รับเงินในเดือนพฤศจิกายน
    • สิทธิในเดือนกันยายน จะได้รับเงินในเดือน ธันวาคม
    • สิทธิในเดือนตุลาคม จะได้รับเงินในเดือนมกราคม (ปีถัดไป)
    • สิทธิในเดือนพฤศจิกายน จะได้รับเงินในเดือนกุมภาพันธ์ (ปีถัดไป)
    • สิทธิในเดือนธันวาคม จะได้รับเงินในเดือนมีนาคม (ปีถัดไป)

    “ความสำเร็จครั้งนี้เป็นผลจากการบูรณาการทำงานร่วมกันของทุกภาคส่วน ทั้งนายจ้าง ผู้ประกันตน และภาครัฐ ซึ่งต่างเห็นชอบให้ปรับเพิ่มเงินสงเคราะห์บุตร อายุ 0–6 ปี สำหรับผู้ประกันตนตามมาตรา 33 และ 39 จากเดิม 800 บาท เป็น 1,000 บาทต่อเดือน

    รัฐบาลให้ความสำคัญกับการส่งเสริมการเกิด และการเติบโตอย่างมีคุณภาพของเด็กทุกคนอย่างเท่าเทียม จนนำไปสู่การประกาศใช้กฎกระทรวงฉบับใหม่ และเกิดผลเป็นรูปธรรมในวันนี้ สำหรับประชาชนที่มีต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการได้รับเงินสงเคราะห์บุตรของสำนักงานประกันสังคม สามารถติดต่อสอบถามได้ผ่านทาง เพจ Facebook “สำนักงานประกันสังคม กระทรวงแรงงาน” หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่ www.sso.go.th” นางสาวศศิกานต์ ระบุ

    เงื่อนไขรับสิทธิเงินสงเคราะห์บุตร 1,000 บาทต่อเดือน

    1. ต้องเป็นผู้ประกันตนตามมาตรา 33 หรือ มาตรา 39
    2. จ่ายเงินสมทบมาแล้วไม่น้อยกว่า 12 เดือน ภายในระยะเวลา 36 เดือน ก่อนเดือนที่มีสิทธิได้รับประโยชน์ทดแทน สิทธิที่ท่านจะได้รับเงินสงเคราะห์บุตรเหมาจ่ายเดือนละ 800 บาทต่อบุตรหนึ่งคน
    3. ต้องเป็นบุตรที่ชอบด้วยกฎหมาย ยกเว้น บุตรบุญธรรมหรือบุตรซึ่งยกให้เป็นบุตรบุญธรรมของบุคคลอื่น
    4. บุตรอายุตั้งแต่แรกเกิดจนถึง 6 ปีบริบูรณ์ จำนวนคราวละไม่เกิน 3 คน เว้นแต่ผู้ประกันตนเป็นผู้ทุพพลภาพหรือถึงแก่ความตาย ในขณะที่บุตรมีอายุแรกเกิดจนถึง 6 ปีบริบูรณ์ จะมีสิทธิได้รับประโยชน์ทดแทนต่อจนอายุ 6 ปีบริบูรณ์

    ช่องทางยื่นขอรับสิทธิเงินสงเคราะห์บุตร

    1. ยื่นด้วยตนเองที่สำนักงานประกันสังคมกรุงเทพมหานครพื้นที่/จังหวัด/สาขา ทั่วประเทศที่สะดวก
    2. ยื่นผ่านเว็บไซต์ประกันสังคมระบบอิเล็กทรอนิกส์ e-Self Service
  • KUBET – ดราม่ามาก! พ่อวัย 86 แต่งงานใหม่ รู้ว่าเจ้าสาวคือใคร หายสงสัยทำไมลูกสาวเดือด

    ชายวัย 86 ปี แต่งงานกับแฟนสาวของลูกชายที่เพิ่งเสียชีวิตแค่ 1 เดือน ลูกสาวเดือดพังประตูบ้าน ก่อนโต้กันนัวเรื่องสมบัติ

    ชายวัย 86 ปี ในมณฑลกวางตุ้ง ประเทศจีน แต่งงานกับแฟนสาวของลูกชายที่เพิ่งเสียชีวิตไปเพียง 1 เดือน อย่างไรก็ตาม ลูกสาวของเขากลับไม่เห็นด้วยกับการแต่งงานครั้งนี้

    ลูกสาวนามว่า “คุณฉิน” เชื่อว่า “หวัง” แฟนสาวของพี่ชาย ต้องการฮุบทรัพย์สินของครอบครัว

    เพื่อประท้วงเรื่องนี้ เธอถึงขั้นใช้ค้อนทุบประตูรั้วบ้านพังยับ

    คุณฉิน เล่าว่า ก่อนหน้านี้เธอเป็นคนดูแลพ่อและทำอาหารให้เสมอ แต่หลังจากมีปัญหากับหวัง เธอก็หยุดทำหน้าที่นั้นไป

    พี่ชายของคุณฉินพาหวังมาแนะนำให้ครอบครัวรู้จักเมื่อต้นปี 2024 และในเดือนกุมภาพันธ์ 2025 เขาเสียชีวิตลงด้วยโรคตับ ในเวลาไม่ถึง 1 เดือน ลุงเปียวซึ่งเป็นผู้สูงวัยในบ้านก็แต่งงานกับหวัง

    หลังจากคุณฉินหยุดดูแลพ่อ เธอเคยเสนอให้นำพ่อไปอยู่บ้านพักคนชรา แต่ทั้งหวังและลุงเปียวต่างก็ไม่เห็นด้วย ขณะที่หวังโต้กลับว่าคุณฉินต้องการปล่อยเช่าบ้านของบรรพบุรุษและโรงเก็บของขนาด 100 ตารางเมตร อีกทั้งยังเคยชักชวนพี่ชายผู้ล่วงลับให้ทำเช่นนั้นด้วย

    ทั้งสองทรัพย์สินดังกล่าวยังคงเป็นกรรมสิทธิ์ในนามของภรรยาผู้ล่วงลับของลุงเปียว

    หวังยืนยันว่าเธอเพียงแค่อยากดูแลลุงเปียวด้วยความจริงใจ

    ตามกฎหมายมรดก ลุงเปียวและลูก ๆ แต่ละคนมีสิทธิ์ในทรัพย์สินคนละ 1 ใน 3 คุณฉินยืนกรานว่า “ใบโฉนดบ้านยังไม่ได้เปลี่ยนชื่อ” และเชื่อว่าตราบใดที่ทรัพย์ยังไม่ได้โอนเป็นชื่อลุงเปียว หวังก็ไม่มีสิทธิ์ครอบครองได้

    อย่างไรก็ตาม หวังได้นำเอกสารจากคณะกรรมการหมู่บ้านมายืนยันว่า ที่ดินและบ้านหลังดังกล่าวเป็นของส่วนรวมของหมู่บ้าน ไม่สามารถตกทอดให้คนนอกได้

    เธอเชื่อว่าคุณฉินก่อเรื่องเพราะกลัวว่าหลังจากพ่อเสียชีวิต จะต้องคืนส่วนแบ่ง 1 ใน 3 ที่เป็นของพ่อ

    หวังยังกล่าวด้วยว่า เธอแต่งงานกับลุงเปียวเพราะอยากดูแลเขา และไม่ต้องการให้เขาถูกส่งไปอยู่บ้านพักคนชรา ด้านลุงเปียวก็เผยว่า ทรัพย์สินจะตกเป็นของคนที่ดูแลเขา

    แม้คณะกรรมการหมู่บ้านจะพยายามไกล่เกลี่ยถึง 10 ครั้ง แต่ความขัดแย้งระหว่างทั้งสองฝ่ายก็ยังไม่สามารถคลี่คลายได้ ตามคลิปวิดีโอที่เผยแพร่บน Weibo

  • KUBET – พลิกความเชื่อเดิม “มันหมู” ติดอันดับ 8 อาหารที่ดีต่อสุขภาพที่สุดในโลก แซงบรอกโคลี

    พลิกความเชื่อเดิมๆ “มันหมู” ทะยานติดอันดับ 8 อาหารที่ดีต่อสุขภาพที่สุดในโลก แซงหน้าผักวอเตอร์เครส ส้มเขียวหวาน บรอกโคลี

    หลายคนที่ใส่ใจสุขภาพมักหลีกเลี่ยง “มันหมู” เพราะเชื่อว่าเป็นไขมันที่ไม่ดีต่อร่างกาย แต่ข้อมูลล่าสุดจาก BBC Future สื่อระดับโลกด้านวิทยาศาสตร์และสุขภาพ กลับพลิกความเชื่อเดิมอย่างสิ้นเชิง

    ในรายงานการจัดอันดับ “100 อาหารที่ดีต่อสุขภาพที่สุดในโลก” ซึ่งประเมินโดยผู้เชี่ยวชาญจากหลายประเทศ พบว่า มันหมู ไม่เพียงติดอันดับ แต่ยังพุ่งทะยานขึ้นสู่ อันดับที่ 8 ด้วยคะแนนรวม 73 คะแนน แซงหน้าทั้งปลาค็อด, ผักเซเลอรี, ส้ม, หอยเชลล์ และบรอกโคลี ซึ่งเป็น อาหารที่เคยถูกมองว่า “เพื่อสุขภาพ” มาโดยตลอด

    ทำไมมันหมูถึงติดอันดับ?

    รายงานวิจัยฉบับนี้ใช้เวลาศึกษาหลายปี โดยทีมงานผู้เชี่ยวชาญได้วิเคราะห์อาหารกว่า 1,000 ชนิดทั่วโลก ทั้งด้านวิตามิน แร่ธาตุ โครงสร้างไขมัน และผลกระทบต่อสุขภาพ

    ผลลัพธ์ที่ได้สร้างความประหลาดใจ เพราะ “มันหมู” ซึ่งมักถูกมองว่าไม่ดีต่อร่างกาย กลับมีจุดเด่นในหลายด้าน เช่น

    • เป็น แหล่งของวิตามินบีและแร่ธาตุ ที่ดี

    • มี กรดไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยว (Monounsaturated Fat) สูงกว่าทั้งเนยวัวและไขมันแกะ

    • หากรับประทานในปริมาณที่เหมาะสม อาจส่งผลดีต่อสุขภาพ

    อย่างไรก็ตาม นักโภชนาการเน้นย้ำว่า งานวิจัยนี้ไม่ได้ส่งเสริมให้บริโภคมันหมูมากเกินไป แต่ต้องการให้คนทั่วไป เข้าใจคุณค่าที่แท้จริงของอาหารแต่ละชนิด มากกว่าการตัดสินจากภาพจำหรือความเชื่อเดิม

    อาหารที่ได้คะแนนสูงสุดในรายงาน

    • อันดับ 1 อัลมอนด์ (97 คะแนน) – อุดมด้วยกรดไขมันดี ช่วยปกป้องหัวใจและควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด

    • อันดับ 2 น้อยหน่า (Sugar apple/Cherimoya) – เต็มไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ

    • อันดับ 3 ปลากะพง (Sea bass) – แหล่งโปรตีนคุณภาพสูงและกรดไขมันโอเมก้า

    • อันดับ 4 ปลาตาเดียว (Flatfish) – แหล่งของวิตามินบี 1

    • อันดับ 5 เมล็ดเจีย (Chia seeds) – เต็มไปด้วยใยอาหาร โปรตีน และกรดไขมันอัลฟา-ไลโนเลนิก

    • อันดับ 6 เมล็ดฟักทอง (Pumpkin seeds)

    • อันดับ 7  ผักสวิสชาร์ด (Swiss chard)

    • อันดับ 8  มันหมู (Pork fat)

    • อันดับ 9  บีตกรีน หรือ ใบสีเขียวของหัวบีตรูท (Beet greens)

    • อันดับ 10 ปลากะพงแดง (Snapper)

    บทสรุปจากการศึกษานี้คือ “ไม่ควรตัดสินอาหารเพียงเพราะภาพจำหรือข่าวลือ” แต่ควรเรียนรู้คุณสมบัติทางโภชนาการอย่างรอบด้านและเลือกบริโภคให้เหมาะสม

    มันหมูอาจไม่ใช่ผู้ร้ายเสมอไป ถ้ารู้จักกินอย่างพอดี และเข้าใจมันในบริบทของโภชนาการจริง ๆ