KUBET – เปิดภาพประวัติศาสตร์ 84 ปีก่อน สิ่งก่อสร้างที่คนไทยคุ้นเคย ตระหง่านใจกลางกรุงเทพฯ

เปิดภาพประวัติศาสตร์ เมื่อ 84 ปีก่อน สิ่งก่อสร้างที่คนไทยคุ้นเคย ความยิ่งใหญ่ตั้งตระหง่านใจกลางกรุงเทพมหานคร

หลายคนคงคุ้นตากับ “อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ” ศูนย์กลางการคมนาคมที่รายล้อมไปด้วยรถเมล์ รถไฟฟ้า BTS และรถตู้มากมาย แต่ไม่ใช่ทุกคนที่จะเคยเห็นภาพขณะกำลังก่อสร้างเมื่อ 84 ปีก่อน ซึ่งถือเป็นภาพประวัติศาสตร์สำคัญของกรุงเทพมหานคร

อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิตั้งอยู่ในเขตราชเทวี บริเวณวงเวียนที่เชื่อมต่อถนนพหลโยธิน ถนนราชวิถี และถนนพญาไท เป็นจุดกิโลเมตรที่ 4+700 ของทางหลวงหมายเลข 1 โดยเริ่มนับจากอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ถนนราชดำเนินกลาง

สร้างเพื่อเชิดชูวีรกรรมของผู้กล้า

อนุสาวรีย์แห่งนี้สร้างขึ้นเพื่อเทิดทูนทหาร ตำรวจ และพลเรือนที่เสียชีวิตจากกรณีพิพาทไทย-ฝรั่งเศส เมื่อปี พ.ศ. 2483–2484 โดยมีผู้เสียชีวิตรวม 59 คน

พลเอก พระยาพหลพลพยุหเสนา เป็นผู้วางศิลาฤกษ์เมื่อวันที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2484 และจอมพล ป. พิบูลสงคราม เป็นผู้ทำพิธีเปิดในวันที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2485

การออกแบบที่สื่อถึงความกล้าหาญ

ผลงานการออกแบบของ หม่อมหลวงปุ่ม มาลากุล ได้แรงบันดาลใจจาก 4 ประการ ได้แก่

  1. ปฏิบัติการของนักรบ 5 เหล่า (ทหารบก ทหารเรือ ทหารอากาศ ตำรวจ และพลเรือน)

  2. ความกล้าหาญของกำลังพล

  3. อาวุธที่ใช้ในการสู้รบ

  4. เหตุการณ์สำคัญที่ต้องเปิดการสู้รบ

องค์ประกอบหลักของอนุสาวรีย์ คือดาบปลายปืน 5 เล่มที่ประกอบกันเป็นทรงกลีบลูกมะเฟือง ปลายดาบชี้ขึ้น คมดาบหันออก ก่อสร้างด้วยคอนกรีตเสริมเหล็กประดับหินอ่อน สูงประมาณ 50 เมตร

ภายในมีห้องโถงที่ใช้เก็บกระสุนปืนใหญ่บรรจุอัฐิผู้เสียชีวิต ด้านนอกตอนโคนของดาบมีรูปหล่อนักรบทั้ง 5 เหล่า ขนาดใหญ่กว่าคนจริง

 

ศิลปินผู้อยู่เบื้องหลังงานประติมากรรม

รูปหล่อทองแดงของนักรบ 5 เหล่าสร้างโดยลูกศิษย์ของศาสตราจารย์ศิลป์ พีระศรี ได้แก่ สิทธิเดช แสงหิรัญ, อนุจิตร แสงเดือน, พิมาน มูลประสุข และแช่ม ขาวมีชื่อ ภายใต้การควบคุมของศาสตราจารย์ศิลป์

ที่ผนังภายนอกห้องโถงมีแผ่นทองแดงจารึกนามผู้เสียชีวิตรวม 160 นาย โดยแยกเป็นทหารบก 94 นาย ทหารเรือ 41 นาย ทหารอากาศ 13 นาย และตำรวจสนาม 12 นาย

ต่อมาได้เพิ่มเติมชื่อผู้เสียชีวิตจากสงครามโลกครั้งที่ 2 และสงครามเกาหลี จนมีรายชื่อรวมทั้งหมด 801 นาย

บทบาทสำคัญในยุคปัจจุบัน

ในอดีต บริเวณนี้เคยเรียกว่า “สี่แยกสนามเป้า” แต่เมื่อมีการสร้างอนุสาวรีย์ขึ้น ก็กลายเป็นจุดศูนย์กลางใหม่ของกรุงเทพฯ ทั้งในแง่ประวัติศาสตร์และการเดินทาง

อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิไม่ได้เป็นเพียงอนุสรณ์สถานที่ระลึกถึงผู้เสียสละเพื่อชาติ แต่ยังเป็นต้นทางของถนนพหลโยธิน และเป็นจุดเปลี่ยนผ่านที่สำคัญของระบบขนส่งมวลชนในกรุงเทพฯ ที่มีการเดินรถตลอด 24 ชั่วโมง

อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ไม่ได้เป็นเพียงสิ่งปลูกสร้างที่ตั้งอยู่ใจกลางเมือง หากแต่เป็น “บันทึกแห่งการเสียสละ” ที่มีทั้งเรื่องราวประวัติศาสตร์ การออกแบบเชิงสัญลักษณ์ และบทบาทสำคัญในการเชื่อมโยงกรุงเทพฯ จากอดีตสู่ปัจจุบัน

Comments

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *