KUBET – หมอหัวใจแนะนำ “เครื่องดื่ม” ที่จะช่วยให้อายุยืนถึง 100 ปี แต่ต้องกินตอนเช้าเท่านั้น

หมอหัวใจแนะนำ “เครื่องดื่ม” ที่จะช่วยให้อายุยืนถึง 100 ปี รักษาหัวใจและหลอดเลือด แต่ต้องกินตอนเช้าเท่านั้น 

หมอโรคหัวใจชื่อดังจากสเปน ดร. ออเรลิโอ โรฮาส วัย 35 ปี จากโรงพยาบาล Hospital Regional Universitario เมืองมาลากา เผยผ่านอินสตาแกรม (ซึ่งมีผู้ติดตามกว่า 400,000 คน) ว่าการดื่มกาแฟในตอนเช้าอาจเป็น “กุญแจลับ” สู่การมีอายุยืนยาว และลดความเสี่ยงโรคหัวใจ

จากการศึกษาของศูนย์วิจัยโรคอ้วน มหาวิทยาลัยทูเลน เมืองนิวออร์ลีนส์ สหรัฐฯ ซึ่งติดตามกลุ่มตัวอย่างกว่า 20,000 คนที่ดื่มกาแฟเป็นประจำกว่า 20 ปี พบว่า

  • ผู้ที่ดื่มกาแฟมีแนวโน้มเสียชีวิตน้อยกว่าผู้ไม่ดื่มถึง 16%
  • เสี่ยงเสียชีวิตจากโรคหัวใจน้อยลง 30%

แต่สิ่งสำคัญคือ “ต้องดื่มกาแฟในช่วงเช้าเท่านั้น” เพราะผู้ที่ดื่มกาแฟตลอดทั้งวันไม่ได้รับประโยชน์นี้

ดร.โรฮาสอธิบายว่า การบริโภคคาเฟอีนหลังเวลา 12.00 น. อาจรบกวนระบบนาฬิกาชีวภาพของร่างกาย ส่งผลต่อการหลั่งฮอร์โมนเมลาโทนินและคอร์ติซอล ซึ่งควบคุมการพักผ่อนและความเครียด

“การดื่มกาแฟช่วงบ่ายจะทำให้การหลั่งฮอร์โมนผิดปกติ เพิ่มความเครียด และลดประโยชน์ต่อสุขภาพ” เขากล่าว พร้อมแนะนำว่า “ควรดื่มกาแฟทันทีหลังตื่นนอน เพื่อให้ได้ประโยชน์สูงสุด”

ทำไมกาแฟถึงดีต่อร่างกาย?

เมล็ดกาแฟอุดมไปด้วยวิตามิน B2 และ B5 ที่ช่วยดูแลเซลล์เม็ดเลือด และควบคุมระดับคอเลสเตอรอล ยังมี โพแทสเซียม และ แมกนีเซียม ซึ่งจำเป็นต่อการควบคุมความดันและระดับน้ำตาลในเลือด โดยการขาดแมกนีเซียมสัมพันธ์กับความเสี่ยงโรคหัวใจและหลอดเลือดสูงขึ้น

นอกจากนี้ วารสาร American Journal of Clinical Nutrition ยังรายงานว่า สารจากพืชในกาแฟช่วยลดความเสี่ยงเบาหวานชนิดที่ 2 ได้ถึง 10%

“กาแฟช่วยลดความเสี่ยงโรคหัวใจ เบาหวาน และส่งเสริมการลดน้ำหนัก ดร. โรฮาส กล่าว

งานวิจัยอื่น เช่นจากมหาวิทยาลัย Semmelweis ในฮังการี และ Queen Mary ในลอนดอน พบว่า กาแฟช่วยลดความเสี่ยงโรคหลอดเลือดสมอง โดยเน้นย้ำว่า “ประโยชน์ชัดเจนเฉพาะเมื่อดื่มในตอนเช้า”

ดื่มกาแฟ-ชา เป็นประจำ ยิ่งช่วยชะลอความเสื่อม

การศึกษาจากสิงคโปร์ในปี 2023 ติดตามผู้สูงอายุ 12,500 คน พบว่า

  • ผู้ที่ดื่มกาแฟวันละ 4 แก้วขึ้นไป มีโอกาสอ่อนแอทางร่างกายในวัย 70 ปี น้อยลงครึ่งหนึ่ง

  • ผู้ที่ดื่มชาเขียวหรือชาดำทุกวัน มีความเสี่ยงต่อภาวะร่างกายเสื่อมถอย ลดลง 18%

โดยชาเขียวให้ผลดีกว่าชาดำ (ลดความเสี่ยง 19% เทียบกับ 12%)

แม้ผลลัพธ์จะยังไม่สามารถยืนยัน “สาเหตุ-ผลลัพธ์” ได้โดยตรง แต่นักวิจัยเชื่อว่าคาเฟอีนร่วมกับสารต้านอนุมูลอิสระในกาแฟและชาช่วยชะลอการเสื่อมของเซลล์ และลดโรคร้าย เช่น หัวใจและมะเร็งบางชนิด

เมื่อพิจารณาการบริโภคคาเฟอีนรวม (ทั้งจากกาแฟ ชา น้ำอัดลม และช็อกโกแลต) พบว่า ผู้ที่ได้รับคาเฟอีน 223–910 มก. ต่อวัน มีความเสี่ยงต่อภาวะ “frailty” (ความอ่อนแอของร่างกาย) ลดลง 23% เทียบกับกลุ่มที่บริโภคน้อยกว่า 67.6 มก.

โดยภาวะ frailty นี้พบบ่อยในผู้สูงอายุ และเกี่ยวข้องกับอาการเช่น อ่อนแรง กล้ามเนื้อลดลง เดินช้า และเสี่ยงต่อการหกล้ม

Comments

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *