KUBET – คนไทยรู้จักดี! 1 ผลไม้มีแป้งชนิดพิเศษ ช่วยลดน้ำตาลในเลือด ป้องกันได้ 5 มะเร็ง

ผลไม้ 1 ชนิด มีแป้งชนิดพิเศษ ช่วยลดน้ำตาลในเลือด ป้องกันมะเร็งได้ถึง 5 ชนิด คนไทยกินกันมานานแล้ว!

งานวิจัยทางวิทยาศาสตร์หลายชิ้นพบว่า ผลไม้ชนิดนี้มีคุณสมบัติเด่นในการช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด และป้องกันโรคมะเร็งได้อย่างน่าทึ่ง

“กล้วย” ถือเป็นผลไม้ที่คุ้นเคยอย่างยิ่งในไทย นอกจากกล้วยสุกที่รับประทานกันทั่วไปแล้ว คนไทยยังนิยมนำ “กล้วยดิบ” มาปรุงเป็นอาหารพื้นบ้านหลากหลายเมนู

โดยจากงานวิจัยพบว่า กล้วยดิบมีแป้งชนิดพิเศษที่ให้ประโยชน์ต่อสุขภาพหลายด้าน โดยเฉพาะการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด และลดความเสี่ยงของมะเร็งถึง 5 ชนิด

Quang Nguyen Vinh

กล้วยดิบ – ราชาแห่งแป้งทนต่อการย่อย

เว็บไซต์ สุขภาพและชีวิต รายงานว่า ส่วนประกอบหลักของกล้วยดิบคือแป้ง โดยคิดเป็น 70–80% ของน้ำหนักแห้ง และที่โดดเด่นคือ กล้วยดิบมีปริมาณ แป้งทนต่อการย่อย (Resistant Starch) สูงเป็นพิเศษ

งานวิจัยที่ตีพิมพ์ในวารสาร Food Science & Nutrition ปี 2024 ระบุว่า กล้วยดิบถือเป็น “ราชาแห่งแป้งทนต่อการย่อย” เพราะมีปริมาณแป้งชนิดนี้มากที่สุดเมื่อเทียบกับอาหารอื่น ๆ แม้กระทั่งธัญพืชซึ่งขึ้นชื่อว่าอุดมด้วยแป้งทนต่อการย่อย

ตามข้อมูลจาก Euronews แป้งทนต่อการย่อยเป็นคาร์โบไฮเดรตชนิดพิเศษที่ไม่ถูกย่อยในลำไส้เล็ก แต่จะถูกย่อยและหมักในลำไส้ใหญ่แทน จึงถูกจัดให้อยู่ในกลุ่มเส้นใยอาหาร ด้วยคุณสมบัติพิเศษนี้ แป้งทนต่อการย่อยได้รับความสนใจอย่างมากจากวงการวิทยาศาสตร์ เนื่องจากให้ประโยชน์ต่อสุขภาพอย่างน่าทึ่ง

  • การกินกล้วยดิบช่วยลดน้ำตาลในเลือดและป้องกันมะเร็ง
    ทั้งสองประโยชน์นี้เกิดจากแป้งทนต่อการย่อยที่มีอยู่ในกล้วยดิบในปริมาณสูงนั่นเอง
  • ช่วยลดน้ำตาลในเลือด
    แป้งทนต่อการย่อยในกล้วยดิบมีคุณสมบัติช่วยชะลอกระบวนการย่อยอาหาร ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดไม่พุ่งสูงอย่างรวดเร็ว ตามรายงานจาก NDTV ซึ่งเป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้กล้วยดิบกลายเป็นอาหารที่เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการควบคุมหรือลดระดับน้ำตาลในเลือดอย่างมีประสิทธิภาพ

งานวิจัยร่วมจากมหาวิทยาลัยนิวคาสเซิลและมหาวิทยาลัยลีดส์ ประเทศอังกฤษ พบว่า แป้งทนต่อการย่อยในกล้วยดิบสามารถลดความเสี่ยงของมะเร็งในระบบทางเดินอาหารได้ถึง 60% โดยเฉพาะมะเร็งหลอดอาหาร มะเร็งกระเพาะอาหาร มะเร็งท่อน้ำดี มะเร็งตับอ่อน และมะเร็งลำไส้เล็กส่วนต้น

นักวิจัยอธิบายว่า แป้งต้านการย่อยจะผ่านไปถึงลำไส้ใหญ่และเกิดกระบวนการหมัก ซึ่งกลายเป็นแหล่งอาหารชั้นดีของแบคทีเรียชนิดดีในลำไส้ ซึ่งแบคทีเรียเหล่านี้มีบทบาทสำคัญต่อสุขภาพ เช่น ช่วยระบบย่อยอาหาร เสริมภูมิคุ้มกัน ลดอาการผิดปกติในระบบทางเดินอาหาร และมีส่วนช่วยป้องกันโรคร้ายต่างๆ รวมถึงมะเร็ง

นอกจากนี้ แป้งทนต่อการย่อยยังมีคุณสมบัติลดระดับกรดน้ำดีในลำไส้ ซึ่งกรดน้ำดีส่วนเกินอาจทำลายสารพันธุกรรม (DNA) และกลายเป็นปัจจัยเสี่ยงของมะเร็งในระยะยาว

จากผลการศึกษานี้ นักวิจัยแนะนำว่า การกินกล้วยดิบวันละ 1 ผล อาจช่วยลดความเสี่ยงมะเร็งในระบบย่อยอาหารได้อย่างมีประสิทธิภาพ

Comments

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *