KUBET – ผักบ้านๆ ที่ถูกยกเป็น “ยาของคนจน” หนึ่งในผักที่ดีที่สุดในโลก วิตามินซีสูงกว่ามะนาว

ผักบ้านๆ ใกล้ตัวคนไทย ที่เป็น “ยาของคนจน” ต่างชาติยกเป็นผักที่ดีที่สุดในโลก บำรุงอวัยวะภายใน ป้องกันมะเร็ง วิตามินซีสูงกว่ามะนาว

วิตามินซี เป็นวิตามินที่ละลายน้ำได้ มีบทบาทสำคัญต่อร่างกาย เมื่อพูดถึงอาหารที่อุดมไปด้วยวิตามินซี หลายคนมักนึกถึงผลไม้รสเปรี้ยว เช่น ส้ม มะนาว ส้มเขียวหวาน และส้มโอ อย่างไรก็ตาม ยังมีผักบางชนิดที่มีรสหวานและอร่อย แต่กลับมีปริมาณวิตามินซีสูง เช่น กะหล่ำปลี

จากข้อมูลของกระทรวงเกษตรสหรัฐฯ (USDA) พบว่า กะหล่ำปลีสด 100 กรัม มีวิตามินซี 36.6 มิลลิกรัม ขณะที่มะนาว 100 กรัม มีเพียง 29.1 มิลลิกรัม ซึ่งหมายความว่า กะหล่ำปลีให้วิตามินซีมากกว่ามะนาวเสียอีก

นอกจากวิตามินซีแล้ว USDA ยังระบุว่า ในกะหล่ำปลี 100 กรัม มีโปรตีน 1.28 กรัม ใยอาหาร 2.5 กรัม น้ำตาล 3.2 กรัม โพแทสเซียม 170 มิลลิกรัม แคลเซียม 40 มิลลิกรัม แมกนีเซียม 12 มิลลิกรัม ฟอสฟอรัส 26 มิลลิกรัม และยังมีวิตามินหลายชนิด เช่น วิตามินบี วิตามินเอ วิตามินอี และวิตามินเค เป็นต้น

กะหล่ำปลี: ผักมากคุณค่า

ด้วยสารอาหารที่หลากหลาย กะหล่ำปลีจึงมีประโยชน์ต่อสุขภาพในหลายด้าน นักโภชนาการชาวอเมริกัน Julia Zumpano กล่าวผ่านเว็บไซต์ของ Cleveland Clinic ว่า “มีงานวิจัยมากมายที่พิสูจน์แล้วว่ากะหล่ำปลีมีประโยชน์ต่อร่างกาย”

ประโยชน์เด่นของกะหล่ำปลี

1. ช่วยระบบย่อยอาหาร และลดน้ำหนัก

เว็บไซต์ Cleveland Clinic ระบุว่า กะหล่ำปลีมีสารไฟโตสเตอรอล (sterol จากพืช) และใยอาหารที่ไม่ละลายน้ำ ซึ่งช่วยเสริมการทำงานของระบบย่อยอาหารและการขับถ่าย นอกจากนี้ยังส่งเสริมจุลินทรีย์ชนิดดีในลำไส้ ทำให้ระบบภูมิคุ้มกันดีขึ้น

Zumpano ยังเสริมว่า “กะหล่ำปลีช่วยป้องกันอาการท้องผูก และใยอาหารช่วยให้อิ่มนาน ลดการดูดซึมแคลอรี จึงช่วยลดน้ำหนักได้อย่างปลอดภัย”

2. ต้านการอักเสบ

งานวิจัยใน International Journal of Food Sciences and Nutrition พบว่า กะหล่ำปลีมีสารต้านอนุมูลอิสระ เช่น kaempferol, quercetin และ apigenin ซึ่งจะเข้าไปกระตุ้นการสร้างเอนไซม์ต้านการอักเสบในร่างกาย ช่วยขจัดของเสียและออกซิเจนชนิดรุนแรง (ROS) ตามข้อมูลจากเว็บไซต์สุขภาพ Everyday Health

3. ดีต่อหัวใจ

มีงานวิจัยหลายชิ้นพบว่า kaempferol และ quercetin ในกะหล่ำปลีสามารถส่งเสริมการทำงานของหัวใจ และจากวารสาร British Journal of Nutrition ยังพบว่า ผู้หญิงวัยกลางคนที่บริโภคผักตระกูลกะหล่ำมาก มีแนวโน้มเกิดภาวะหลอดเลือดแข็งตัวน้อยลง ซึ่งเป็นปัจจัยเสี่ยงของโรคหัวใจ

โพแทสเซียมในกะหล่ำปลียังช่วยควบคุมความดันโลหิต และใยอาหารสามารถลดระดับไขมัน LDL (ไขมันเลว) ได้ด้วย ซึ่งล้วนช่วยป้องกันโรคหัวใจได้อย่างมีประสิทธิภาพ

4. ป้องกันมะเร็ง

เว็บไซต์ Everyday Health ระบุว่า วิตามินซีในกะหล่ำปลีช่วยป้องกันมะเร็ง งานวิจัยพบว่า การรับประทานอาหารที่มีวิตามินซีสูงช่วยลดความเสี่ยงของมะเร็งปอด มะเร็งเต้านม และมะเร็งตับอ่อน

งานวิจัยใน British Journal of Nutrition ยังพบว่า ผักตระกูลกะหล่ำรวมถึงกะหล่ำปลีสามารถช่วยลดความเสี่ยงมะเร็งเต้านม และงานวิจัยใน Annals of Oncology ก็ชี้ว่ากะหล่ำปลีช่วยลดความเสี่ยงมะเร็งลำไส้ใหญ่

นักโภชนาการด้านมะเร็งจากสหรัฐฯ Cindy Chou ระบุว่า กะหล่ำปลีมีสาร glucosinolate ซึ่งมีคุณสมบัติต้านการอักเสบ จึงช่วยในการป้องกันมะเร็งได้

กะหล่ำปลีในแง่การแพทย์แผนจีน

รองประธานสมาคมแพทย์แผนจีนจังหวัดด่งนาย (เวียดนาม) ให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์ Tuổi Trẻ ว่า กะหล่ำปลีถือเป็น “ยาของคนจน” ตามหลักแพทย์แผนจีน ผักชนิดนี้มีรสหวาน เย็น มีสรรพคุณปรับเลือด ขจัดพิษ ลดเสมหะ สร้างน้ำในร่างกาย แก้กระหายน้ำ บรรเทาอาการแน่นท้อง ขับปัสสาวะ และล้างพิษ

ในแง่การแพทย์แผนจีน กะหล่ำปลีช่วยบำรุงหัวใจและไต ลดอาการเจ็บ ปรับสมดุลเลือด บำรุงไขกระดูก บำรุงอวัยวะภายใน ช่วยบรรเทาอาการปัสสาวะแสบขัด ปัสสาวะลำบาก และท้องผูก

อเมริกาจัดเป็นผักที่ดีที่สุดในโลก

“กะหล่ำปลี” คือผักที่ได้รับการยอมรับจาก CDC  หรือศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งสหรัฐอเมริกา ว่าเป็นหนึ่งในผักที่ดีต่อสุขภาพที่สุดในโลก ทั้งรสชาติอร่อย ราคาไม่แพง และสามารถนำไปปรุงได้หลายเมนู จึงมักพบในอาหารประจำวัน ที่สำคัญคือเต็มไปด้วยคุณประโยชน์มากมาย ดังนี้

  • อุดมไปด้วยสารอาหาร : กะหล่ำปลีมีแคลอรี่ต่ำ แต่เต็มไปด้วยสารอาหารที่ดีต่อสุขภาพ ใน 100 กรัมจะมีแคลอรี่ประมาณ 12 กิโลแคลอรี่ มีน้ำ 95.14 กรัม โปรตีน 0.86 กรัม ไขมัน 0.1 กรัม ใยอาหาร 0.94 กรัม และวิตามินต่างๆ เช่น วิตามิน A, C, E
  • ดีสำหรับผิวพรรณ : การทานผักที่มีน้ำและวิตามินสูงอย่างกะหล่ำปลี ช่วยให้ผิวชุ่มชื้นและนุ่มนวล
  • เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน : กะหล่ำปลีมีวิตามิน C สูง ซึ่งช่วยสร้างเซลล์เม็ดเลือดขาว เสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน
  • ดีต่อระบบการย่อยอาหาร : กะหล่ำปลีช่วยกระตุ้นการทำงานของลำไส้ และเพิ่มจุลินทรีย์ดีในลำไส้
  • เสริมสร้างกระดูก : กะหล่ำปลีมีฟอสฟอรัสและแคลเซียม ช่วยเสริมความแข็งแรงให้กับกระดูก
  • ช่วยลดการอักเสบของข้อ : วิตามิน B3 ในกะหล่ำปลีช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นให้กับข้อ ลดอาการปวดข้อ
  • ลดอาการหอบหืด : การทานกะหล่ำปลีบ่อยๆ ช่วยให้กล้ามเนื้อหลอดลมผ่อนคลาย และลดอาการหายใจเสียงดัง
  • ดีต่อสุขภาพหัวใจ : กะหล่ำปลีมีวิตามิน B9 ที่ช่วยลดสารฮโมซิสเตอีนในเลือด ซึ่งเป็นสาเหตุของโรคหัวใจ

ผักที่คนไทยคุ้นเคย แต่ราคาสูงในญี่ปุ่น

กะหล่ำปลีเป็นผักที่คุ้นเคยของคนไทย เนื่องจากเป็นผักที่อุดมไปด้วยสารอาหารและปรุงอาหารได้หลากหลาย กะหล่ำปลีจึงเป็นที่นิยมในญี่ปุ่น และเป็นวัตถุดิบสำคัญในเมนู ทงคัตสึ (หมูชุบแป้งทอด)

เมื่อต้นปีที่ผ่านมา กระทรวงเกษตรญี่ปุ่นเผยว่า ราคากะหล่ำปลีพุ่งขึ้นถึง 3 เท่า โดยปกติหัวละ 100 เยน แต่ช่วงต้นปีราคาขึ้นไปถึง 400 เยน และบางที่ขายถึง 1,000 เยน

สาเหตุหลักคือ ภัยแล้ง ฤดูร้อนที่ร้อนจัด และฝนตกหนักเมื่อปีที่ผ่านมา ทำให้พืชผลเสียหายอย่างหนักในญี่ปุ่น

Comments

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *