Blog

รู้จัก “ราชาเครื่องเทศ” ไม่ใช่แค่ชูรสอาหาร แต่มีประโยชน์นับไม่ถ้วน แพทย์อินเดียโบราณใช้เป็นยามานับพันปี  

“พริกไทยดำ” อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ และอาจช่วยเสริมสร้างสุขภาพโดยรวม ไม่ว่าจะเป็นการลดการอักเสบ ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด หรือแม้แต่ส่งเสริมสุขภาพสมอง พริกไทยดำถือเป็นเครื่องเทศที่ถูกใช้แพร่หลายที่สุดชนิดหนึ่งทั่วโลก ผลิตจากการบดเมล็ดพริกไทยแห้ง (peppercorn) ซึ่งได้จากผลของต้น Piper nigrum ที่มีรสชาติเผ็ดร้อนและกลิ่นเฉพาะตัว เหมาะกับอาหารหลากหลายชนิด

นอกจากความโดดเด่นด้านรสชาติ พริกไทยดำยังได้รับการยกย่องว่าเป็น “ราชาแห่งเครื่องเทศ” และถูกใช้ในตำรับอายุรเวทมานานนับพันปี เนื่องจากมีสารพฤกษเคมีที่มีคุณประโยชน์สูง ส่วนมากใช้รักษาและบรรเทาอาการเกี่ยวกับระบบย่อยอาหาร ขับพยาธิ แก้ลมจุกเสียดแน่น ท้องอืดเฟ้อ ขับลม ขับเสมหะ ขับเหงื่อ ขับปัสสาวะ บำรุงธาตุแก้อาการอาหารไม่ย่อย ระงับอาการอาเจียน ผ่อนคลายอาการไม่สบายจากอาหารเป็นพิษจากอาหารทะเลและเนื้อสัตว์

ความเผ็ดร้อนของพริกไทยดำเกิดจากสาร ไพเพอรีน (piperine) ซึ่งมีงานวิจัยยืนยันว่าสามารถเพิ่มการดูดซึมของสารอาหารอย่างซีลีเนียมและเบต้าแคโรทีนได้อย่างมีนัยสำคัญ นอกจากนี้ ไพเพอรีนยังมีบทบาทในการลดผลกระทบที่เป็นอันตรายจากการได้รับแคดเมียม และยังสามารถยับยั้งการเกิดมะเร็งลำไส้ใหญ่และมะเร็งปอดที่เกิดจากสารก่อมะเร็งในสัตว์ทดลองได้

พริกไทยดำ vs พริกไทยขาว ต่างกันอย่างไร?

ทั้งพริกไทยดำและพริกไทยขาวมาจากต้นเดียวกัน ต่างกันที่กรรมวิธีการผลิต

พริกไทยดำ ที่เห็นเป็นสีดำก็เพราะเป็นพริกไทยที่นำมาตากแห้งโดยไม่ได้ผ่านกรรมวิธีการกระเทาะเอาเปลือกออก เปลือกของพริกไทยเมื่อแห้งแล้วจึงกลายเป็นสีดำ ส่วนพริกไทยขาว จะใช้เมล็ดพริกไทยแก่จัดเกือบสุก มาแช่น้ำไว้ให้เปลือกหลุดล่อนออกจนหมด แล้วนำเมล็ดไร้เปลือกนี้มาตากแดดจนแห้ง

ในขณะที่ พริกไทยชมพู มาจากพืชคนละชนิด (Schinus molle)

สรรพคุณทางยาที่โดดเด่นของพริกไทย

• บรรเทาอาการท้องอืด ท้องเฟ้อ: พริกไทยช่วยขับลมและกระตุ้นระบบย่อยอาหารได้ดี

• เสริมภูมิคุ้มกัน: ความร้อนจากพริกไทยช่วยให้ร่างกายอบอุ่น เหมาะกับสภาพอากาศชื้นและหนาว

• ช่วยขับเหงื่อ ขับปัสสาวะ และดีท็อกซ์สารพิษในลำไส้

• ต้านการอักเสบและลดปวด: สารสำคัญ “ไพเพอรีน (Piperine)” ช่วยลดไข้และลดการอักเสบ

พริกไทยกับสุขภาพสมองและผู้สูงอายุ

• งานวิจัยบางชิ้นชี้ว่าไพเพอรีนอาจช่วยชะลออาการของโรคอัลไซเมอร์

• ช่วยกระตุ้นตับให้ขับสารพิษ ป้องกันมะเร็งตับ

• ลดอาการเบื่ออาหารและนอนไม่หลับในผู้สูงอายุ

พริกไทยกับความงามและการลดน้ำหนัก

• ช่วยเผาผลาญไขมัน: พริกไทยดำมีฤทธิ์ร้อน ช่วยกระตุ้นการใช้พลังงานจากไขมันเก่า

• ควบคุมน้ำหนัก: ไม่มีสารตกค้างเพราะเป็นสารสกัดธรรมชาติ

• ต้านอนุมูลอิสระ: ชะลอวัยและเสริมสุขภาพผิว

ผลของพริกไทยดำต่อมะเร็งเต้านม การศึกษาในระดับเซลล์

• สาร piperine และ β-caryophyllene oxide จากพริกไทยดำ มีฤทธิ์ลดการแบ่งตัวของเซลล์มะเร็งเต้านม การสร้างหลอดเลือด และการแพร่กระจายของมะเร็งในห้องทดลอง

• β-caryophyllene oxide สามารถรบกวนเส้นทางสัญญาณที่เกี่ยวข้องกับการเกิดมะเร็ง

• Piperine สามารถยับยั้งการเจริญเติบโตและการเคลื่อนที่ของเซลล์มะเร็งเต้านมชนิด Triple Negative และยังยับยั้งการแบ่งตัว พร้อมทั้งกระตุ้นให้เซลล์มะเร็งเต้านมชนิด HER2+ เข้าสู่กระบวนการตายของเซลล์ (apoptosis)

• ที่ความเข้มข้นในระดับที่พบได้ในร่างกาย piperine ยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็งเต้านม โดยไม่ส่งผลกระทบต่อเซลล์ปกติ

• Piperine ยังช่วยเพิ่มความไวของเซลล์มะเร็งต่อ curcumin ซึ่งเป็นสารสำคัญในขมิ้นชัน

การศึกษาในสัตว์ทดลอง

• งานวิจัยในปี 2024 ที่ใช้สัตว์ทดลองเป็นแบบจำลองของมะเร็งเต้านม พบว่า สารสกัดพริกไทยดำที่มี piperine ต่ำ ในปริมาณต่ำถึงปานกลางสามารถลดจำนวนก้อนมะเร็งได้

• ในระดับขนาดสูง แม้ไม่พบก้อนมะเร็ง แต่กลับก่อให้เกิดความเสียหายต่อตับ

• ในปริมาณต่ำถึงปานกลาง สารสกัดพริกไทยดำสามารถลดการแสดงออกของโปรตีนที่เกี่ยวข้องกับมะเร็ง และทำให้ก้อนเนื้อมะเร็งมีความรุนแรงลดลง

• อีกการศึกษาที่ใช้สารสกัดพริกไทยดำที่ไม่มี piperine กับหนู พบว่าสารสกัดยังสามารถลดการเกิดมะเร็งเต้านมที่ถูกกระตุ้นด้วยสารก่อมะเร็งได้ แสดงให้เห็นว่าสารประกอบอื่นในพริกไทยดำก็มีฤทธิ์ต้านมะเร็งเช่นกัน

การรักษามะเร็งเต้านม

• Piperine มีรายงานว่าสามารถเพิ่มประสิทธิภาพของยาเคมีบำบัด ได้แก่ Adriamycin (doxorubicin), Taxol (paclitaxel) และ 5-FU รวมถึงการรักษาด้วย tamoxifen และ รังสีบำบัด

• ตัวอย่างเช่น งานวิจัยหนึ่งพบว่า การให้ piperine ก่อนการใช้ Taxol เพิ่มฤทธิ์การฆ่าเซลล์มะเร็งในเซลล์ชนิด HER2+

ข้อควรระวัง

• ผู้ป่วยโรคริดสีดวงทวาร และโรคกระเพาะควรจำกัดการบริโภคพริกไทย เพราะอาจกระตุ้นอาการให้รุนแรงขึ้น

• ควรระวังการใช้พริกไทยในปริมาณมากในหญิงตั้งครรภ์และผู้ที่มีไข้ เนื่องจากเป็นการเพิ่มความร้อนภายในร่างกาย และอาจทำให้เกิดการแท้งได้

• ควรระวังการใช้ร่วมกับยา phenytoin, propranolol, theophylline และ rifampicin

• ควรระวังการรับประทานพริกไทยในปริมาณมากร่วมกับยาในกลุ่มสารกันเลือดเป็นลิ่ม (anticoagulant) และ ยาต้านการจับตัวของเกล็ดเลือด (antiplatelets)

ผลสลากออมสิน 1/6/68 ผลการออกเลขสลากจ่ายคืน สลากออมสินพิเศษ 2 ปี หวยออมสิน งวดวันที่ 1 มิถุนายน 2568

• ถ่ายทอดสด หวยออมสิน 1 มิถุนายน 2568 ผลสลากออมสินพิเศษ 2 ปี ล่าสุด

อันดับที่ 1 ออก 1 ครั้ง 1 อันดับ อันดับละ 30,000,000 บาท

งวดที่ 248 H 4806900

อันดับที่ 2 ออก 1 ครั้ง 1 อันดับ อันดับละ 1,000,000 บาท

งวดที่ 239 ม 8508980

อันดับที่ 3 ออก 5 ครั้ง 5,615 อันดับ อันดับละ 10,000 บาท

1553932 4166166 6132422 7547254 9915611

อันดับที่ 4 ออก 10 ครั้ง 11,230 อันดับ อันดับละ 3,000 บาท

0178255 1668428 2677047 4197795 6276139
7611710 7646890 8363308 8624145 9340654

อันดับที่ 5 ออก 15 ครั้ง 16,320 อันดับ อันดับละ 1,000 บาท

0976976 1338321 2755674 2968253 3148908
4528553 4874921 6052670 6892423 7414685
7574415 7668807 7964544 8334767 9606749

เลขท้าย 4 ตัว ออก 1 ครั้ง
งวดที่ 237 – 253 760,900 อันดับ อันดับละ 200 บาท
งวดที่ 254 – 262 312,842 อันดับ อันดับละ 800 บาท

8740

เลขท้าย 3 ตัว ออก 1 ครั้ง
งวดที่ 237 – 253 7,608,146 อันดับ อันดับละ 40 บาท

217

อ่านข่าวสลากออมสินเพิ่มเติม

• หนุ่มรีวิวซื้อสลากออมสิน สลาก ธ.ก.ส. ครบ 3 ปี รับทรัพย์รัวๆ แบบไม่น่าเชื่อ!
• เคล็ดลับ ซื้อสลากออมทรัพย์ อย่างไรให้ถูกรางวัลทุกงวด เพจดังมีคำตอบ!

ถ่ายทอดหวย 1/6/68 หวยงวดนี้ออกวันที่ 1 มิถุนายน 2568 จากสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ตรวจหวย ตรวจลอตเตอรี่ ผลสลากกินแบ่งรัฐบาล สลากกินแบ่งรัฐบาล วันที่ 1 มิถุนายน 2568 ร่วมฟังถ่ายทอดสดหวย ร่วมลุ้นรางวัลที่ 1 เลขท้าย 2 ตัว เลขท้าย 3 ตัวและรางวัลอื่นๆ ได้ที่นี่ และ Sanook พร้อมรายงานผลสลากกินแบ่งรัฐบาลแบบรวดเร็วทันใจ

ติดตามชม “ถ่ายทอดหวย” ผลการออกรางวัลสลากกินแบ่งรัฐบาล งวดประจำวันที่ 1 มิ.ย. 68 ได้เวลามาร่วมลุ้นรางวัลที่ 1 ไปพร้อมๆ กันในเวลาประมาณ 14:30 น.

• ตรวจหวยย้อนหลัง 

ชมถ่ายทอดสด การออกผลสลากกินแบ่งรัฐบาล งวด 1 มิถุนายน 2568

สลากกินแบ่งรัฐบาล กำหนดเงินรางวัลต่อชุด ดังนี้

• สลากกินแบ่งรัฐบาล รางวัลที่ 1 รางวัลละ 6,000,000 บาท (6 ล้านบาท)
• รางวัลเลขหน้า 3 ตัว มี 2 รางวัล รางวัลละ 4,000 บาท
• รางวัลเลขท้าย 3 ตัว มี 2 รางวัล รางวัลละ 4,000 บาท
• รางวัลเลขท้าย 2 ตัว รางวัลละ 2,000 บาท
• รางวัลที่ 2 มี 5 รางวัล รางวัลละ 200,000 บาท
• รางวัลที่ 3 มี 10 รางวัล รางวัลละ 80,000 บาท
• รางวัลที่ 4 มี 50 รางวัล รางวัลละ 40,000 บาท
• รางวัลที่ 5 มี 100 รางวัล รางวัลละ 20,000 บาท

เงื่อนไขการตรวจผลรางวัลสลากกินแบ่งรัฐบาล

• สลากกินแบ่งรัฐบาล ผู้ถูกรางวัลมีสิทธิเรียกร้องเงินรางวัลภายใน 2 ปี นับแต่วันออกรางวัลสลาก หากพ้นกำหนดจะนำส่งเป็นรายได้แผ่นดิน
• ผู้ขอรับเงินรางวัลต้องชำระค่าอากรแสตมป์ ในอัตรา 1 บาท ของเงินรางวัล ทุก 200 บาท หรือเศษของ 200 บาท

ตรวจหวยงวดอื่นๆ เพิ่มเติม

• ตรวจหวย 1 มิถุนายน 2568
• ตรวจผลสลากกินแบ่งรัฐบาล

“ทำไมยุงถึงกัดเราคนเดียว ทั้งที่ยืนกันหลายคน?”

เคยมีโมเมนต์แบบนี้ไหม? เดินเล่นกับเพื่อนในสวนตอนเย็น แต่ดูเหมือนยุงจะเลือกกัดคุณคนเดียวรัวๆ

หลายคนอาจคิดว่าเป็นเรื่องโชคหรือเพราะผิวบาง แต่ความจริงแล้ว “กรุ๊ปเลือด” ของคุณอาจเป็นสาเหตุหลักที่ยุงสนใจ!

วันนี้เรามีคำตอบจากงานวิจัยที่จะช่วยไขปริศนาว่า ยุงชอบกัดคนเลือดกรุ๊ปไหนมากที่สุด และเพราะอะไร?

งานวิจัยบอกอะไร?

จากการศึกษาของนักวิจัยหลายสำนัก รวมถึงงานวิจัยที่ตีพิมพ์ใน Journal of Medical Entomology พบว่า …..

“ยุงชอบกัดคนที่มีกรุ๊ปเลือด O มากที่สุด!” ตามมาด้วยกรุ๊ป A, B และ AB ตามลำดับ

นักวิทยาศาสตร์พบว่า กลิ่นของสารเคมีที่ปล่อยออกมาผ่านเหงื่อและผิวหนัง ของคนแต่ละกรุ๊ปเลือดแตกต่างกัน โดยเฉพาะคนกรุ๊ป O ซึ่งจะมีการปล่อยสารเคมีที่ดึงดูดยุงได้มากกว่ากรุ๊ปอื่นนั่นเอง

 

แล้วเราจะรู้ได้ยังไงว่าเสี่ยง?

ยุงจะชอบกัดคนที่เข้าข่ายดังนี้

– มีกรุ๊ปเลือด O

– มีอุณหภูมิร่างกายสูง

– เหงื่อออกง่าย

– ใส่เสื้อผ้าสีเข้ม

– ดื่มแอลกอฮอล์ เพราะยุงชอบกลิ่นคาร์บอนไดออกไซด์ที่ปล่อยออกมามากขึ้นหลังดื่ม

 

วิธีป้องกันง่ายๆ ไม่ให้ตกเป็นเป้าของยุง

– ใช้สเปรย์หรือโลชั่นกันยุงเป็นประจำ

– ใส่เสื้อผ้าสีอ่อน และแขนขายาวเมื่ออยู่ในพื้นที่มียุง

– หลีกเลี่ยงการอยู่ใกล้น้ำขังหรือพุ่มไม้ยามค่ำ

– ปิดประตูหน้าต่างให้มิดชิด และใช้มุ้งเวลานอน

 

ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ ยุงเลือกเหยื่อจริง!

ถ้าคุณเป็นคนกรุ๊ป O ก็ต้องยอมรับว่าเป็น “เมนูโปรด” ของยุงมากกว่าคนกรุ๊ปอื่น แต่ถึงแม้จะไม่ใช่กรุ๊ป O ถ้าคุณใส่เสื้อสีเข้ม เหงื่อออกง่าย หรือปล่อยกลิ่นที่ยุงชอบ ก็อาจกลายเป็นเป้าหมายได้เหมือนกัน

เพราะฉะนั้น ไม่ว่าเลือดคุณจะกรุ๊ปอะไร การป้องกันยุงจึงเป็นเรื่องที่ทุกคนควรใส่ใจ เพื่อหลีกเลี่ยงทั้งความรำคาญ และโรคติดต่อจากยุง เช่น ไข้เลือดออก หรือไข้ซิกา

เนื้อสัตว์บางชนิดอาจกลายเป็นแหล่งสะสมของพยาธิหรือปรสิต หากล้างหรือปรุงไม่ถูกวิธี ซึ่งหลายคนอาจไม่รู้และยังคงบริโภคอย่างไม่ระวัง ส่งผลต่อสุขภาพในระยะยาว

โลกแห่งอาหารเต็มไปด้วยสีสันและรสชาติที่ยากจะต้านทาน แต่เบื้องหลังความอร่อยนั้น ยังแฝงความเสี่ยงที่ไม่ควรมองข้าม โดยเฉพาะ “พยาธิ” หรือ “ปรสิต” ที่อาจแฝงตัวมากับวัตถุดิบ

ต่อไปนี้คือ เนื้อสัตว์ 3 ชนิด ที่มีความเสี่ยงสูงต่อการปนเปื้อนพยาธิ ไม่ใช่แค่อาหารทะเลอย่างที่หลายคนคิด และวิธีการบริโภคอย่างปลอดภัยที่ควรรู้ไว้ก่อนตักเข้าปาก

ลิ้นหมู: อร่อยล้ำแต่แฝงความเสี่ยง

เมื่อพูดถึงลิ้นหมู หลายคนยากจะต้านทาน ด้วยเนื้อกรอบเด้ง รสชาติหอมเฉพาะตัว และหลากหลายเมนูที่ชวนลิ้มลอง ถือเป็น “สุดยอดอาหารรสเลิศ” แต่ด้วยเป็นเครื่องในหมู ลิ้นหมูจึงมีโอกาสสูงที่จะปนเปื้อนแบคทีเรียและปรสิต หากไม่ทำความสะอาดอย่างพิถีพิถัน การปรุงอาหารอาจไม่สามารถกำจัดเชื้อโรคได้หมด ส่งผลเสียต่อสุขภาพในที่สุด

การทำความสะอาดลิ้นหมูเป็นศิลปะอย่างหนึ่ง ต้องใช้เกลือขัดล้างหลายรอบ จากนั้นใช้แป้งสาลีช่วยดูดสิ่งสกปรกและกลิ่นเหม็นจนลิ้นสะอาดเงางาม เวลาทานที่ร้าน ควรเลือกสถานที่มีชื่อเสียงเพื่อมั่นใจว่าวัตถุดิบได้รับการจัดการอย่างถูกต้อง

หอย: ของว่างยอดนิยมในหน้าร้อน

ในช่วงฤดูร้อน หอยเป็นเมนูโปรดของหลายคน ด้วยเนื้อที่เหนียวนุ่มกรอบ จะต้มหรือผัดปรุงรสก็อร่อยทั้งนั้น แต่หอยที่อาศัยในน้ำจืด เช่น แม่น้ำหรือทะเลสาบ มักเสี่ยงติดพยาธิ เช่น พยาธิใบไม้ในตับหรือพยาธิเส้นด้าย หากปรุงไม่สุกดี พยาธิเหล่านี้อาจยังคงอยู่และก่อโรคได้

เวลาทานหอย ควรเลือกหอยที่สดใหม่ ไม่มีความผิดปกติของกลิ่น และต้องปรุงให้สุกทั่วถึง

กบ: เนื้อนุ่มอร่อย แต่แฝงอันตราย

กบเป็นสัตว์น้ำที่มักอยู่ในบ่อหรือน้ำจืดซึ่งอาจปนเปื้อน มีความเสี่ยงติดเชื้อพยาธิ เช่น พยาธิปอด ซึ่งทนทานมาก หากปรุงไม่สุกพออาจก่อให้เกิดโรคได้

แม้จะมีความเสี่ยง แต่เนื้อกบก็ยังเป็นที่โปรดปรานของหลายคน เมนูอย่างกบตุ๋น กบทอด หรือกบผัดเผ็ด มักได้รับความนิยมอย่างล้นหลาม

คุณควรระมัดระวังอย่างยิ่งเมื่อต้องทานเนื้อกบ เลือกร้านอาหารที่น่าเชื่อถือ พร้อมมั่นใจว่าวัตถุดิบผ่านการคัดสรรและทำความสะอาดอย่างดี และเมื่อต้องปรุงอาหาร ต้องปรุงให้สุกทั่วถึง

เคล็ดลับกินอร่อยแต่ปลอดภัย

• เลือกร้านอาหารที่มีความน่าเชื่อถือและวัตถุดิบสดใหม่สะอาด

• หากทำเองที่บ้าน ควรล้างลำไส้หมูด้วยเกลือและแป้งให้สะอาด หอยต้องแช่ล้างอย่างดีและปรุงให้สุกเต็มที่ ส่วนกบควรเลือกแหล่งที่มาชัดเจนและปรุงให้สุก

• รักษานิสัยกินดีอยู่ดีและสุขอนามัย เช่น ล้างมือก่อนกินและหลังใช้ห้องน้ำ หลีกเลี่ยงการทานของดิบหรือต้มไม่สุกหรือไม่แน่ใจที่มา ควรเพิ่มผักผลไม้ในมื้ออาหารเพื่อเสริมภูมิคุ้มกันและช่วยขับสารพิษ

นอกจากเนื้อสัตว์ 3 ชนิดนี้แล้ว เนื้อสัตว์อย่างเนื้อสัตว์เลื้อยคลานหรือกุ้งแม่น้ำก็มีความเสี่ยงสูงต่อการติดพยาธิ ควรระมัดระวังในการบริโภคเสมอ

ลุ้นสด หวยลาววันนี้ 30/05/68 ถ่ายทอดสดหวยลาว หวยลาวล่าสุด หวยลาวพัฒนา 30 พฤษภาคม 2568 หวยลาวย้อนหลัง หวยลาว 6 ตัว วันนี้ออกอะไร งวด 30 พฤษภาคม 2568 Laolottery หวยลาว ออกรางวัลทุก วันจันทร์ วันพุธ และ วันศุกร์

 ตรวจหวยลาวย้อนหลัง คลิกที่นี่ 

รายงานผลหวยลาว 30 พฤษภาคม 2568 (30/05/68) ผลหวยลาว 6 ตัวออกรางวัลดังนี้

ตรวจหวยลาว งวดประจำวันที่ 30 พฤษภาคม 2568

เลข 6 ตัว : 325284
เลข 5 ตัว : 25284
เลข 4 ตัว : 5284
เลข 3 ตัว : 284
เลข 2 ตัว : 84

เลขนามสัตว์

33 แมงมุม
17 นกกระยาง
18 แมวป่า
29 ปลาไหล

ผลสลากพัฒนา 5/45

44 / 11 / 01 / 19 / 38 /

เงินรางวัล

เลข 4 ตัว ถ้าถูกจะได้เงินรางวัลเท่ากับ จำนวนที่ซื้อคูณด้วย 6,000 ตัวอย่างเช่น ซื้อ 1,000 กีบ จะได้ 6,000,000 กีบ
เลข 3 ตัว ถ้าถูกจะได้เงินรางวัลเท่ากับ จำนวนที่ซื้อคูณด้วย 500 ตัวอย่างเช่น ซื้อ 1,000 กีบ จะได้ 500,000 กีบ
เลข 2 ตัว ถ้าถูกจะได้เงินรางวัลเท่ากับ จำนวนที่ซื้อคูณด้วย 60 ตัวอย่างเช่น ซื้อ 1,000 กีบ จะได้ 60,000 กีบ

จีนขนานนาม “แครอท” เป็น “โสมจิ๋ว” ช่วยบำรุงตับ-ลดไขมันในเลือด ไทยปลูกง่าย มีขายทั่วประเทศ!

แครอท ผักรากสีส้มที่หลายคนคุ้นเคย ถูกขนานนามในจีนว่า “โสมจิ๋ว” (Little Ginseng) เนื่องจากอุดมไปด้วยสารอาหารที่มีคุณประโยชน์สูงต่อร่างกาย ทั้งยังเป็นหนึ่งในพืชผักที่หาซื้อได้ง่ายตามตลาดและซูเปอร์มาร์เก็ตทั่วไป

แครอท… ผักธรรมดาแต่คุณค่าสูง การันตีโดยผู้เชี่ยวชาญด้านโภชนาการ ดร.หม่า ฉวนซิง จากมหาวิทยาลัยปักกิ่ง ประเทศจีน เปิดเผยว่า แครอทมีสารอาหารหลากหลาย เช่น เบต้าแคโรทีน วิตามินเอ วิตามินซี วิตามินบี1 บี2 บี6 ใยอาหาร โพแทสเซียม แคลเซียม และธาตุเหล็ก ช่วยบำรุงร่างกายได้หลายด้านไม่ต่างจากสมุนไพรชั้นดี

เปิด 5 ประโยชน์สำคัญของแครอทต่อสุขภาพ

1. ป้องกันมะเร็ง แครอทมีสารแคโรทีนอยด์ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยลดความเสี่ยงของมะเร็งต่อมลูกหมาก มะเร็งลำไส้ และมะเร็งเม็ดเลือดบางชนิด

2. บำรุงหัวใจ ลดคอเลสเตอรอล ใยอาหารในแครอท โดยเฉพาะเพคติน ช่วยลดการดูดซึมคอเลสเตอรอลในลำไส้ และโพแทสเซียมยังช่วยควบคุมความดันโลหิตให้สมดุล

3. ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด ด้วยค่าดัชนีน้ำตาล (GI) ที่ต่ำ โดยเฉพาะเมื่อรับประทานในรูปแบบสดหรืออบนึ่ง แครอทยังมีใยอาหารที่ช่วยชะลอการดูดซึมน้ำตาล เหมาะสำหรับผู้ป่วยเบาหวาน

4. บำรุงตับ ป้องกันไขมันพอกตับ เบต้าแคโรทีนจะถูกเปลี่ยนเป็นวิตามินเอในร่างกาย ช่วยซ่อมแซมและฟื้นฟูเซลล์ตับ ลดความเสี่ยงของโรคไขมันพอกตับ

5. เสริมภูมิคุ้มกัน วิตามินเอและซีในแครอทช่วยกระตุ้นการสร้างแอนติบอดีและเพิ่มความแข็งแรงให้ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย

แครอทไม่เพียงแต่เป็นผักที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพอย่างล้ำลึก แต่ยังเป็นพืชเศรษฐกิจที่สำคัญของไทยที่ควรค่าแก่การส่งเสริมการบริโภคและการปลูกอย่างต่อเนื่อง เพราะ “โสมจิ๋ว” จากธรรมชาตินี้ อาจเป็นกุญแจสำคัญในการดูแลสุขภาพของคุณ

• ต่างชาติอวย 6 ผลไม้ “ตับชอบ” ยิ่งกิน ยิ่งช่วยล้างพิษในร่างกาย ไทยมีครบตลอดปี!
• ต่างชาติแนะนำ มาเที่ยวไทยต้องซื้อ “ขนม” แบบนี้กลับไป ชาวไทยบางคนอึ้ง เพิ่งเคยเห็น! (มีคลิป)

นักเดินทางสาวเคยไปมาแล้วถึง 64 ประเทศ ก่อนอายุ 30 ปี เผย 5 ประเทศที่เธอไม่คิดจะกลับไปอีก แม้เป็นประเทศยอดนิยม

แอลลี ฮูเบอร์ส จากรัฐฟลอริดา สหรัฐอเมริกา นักท่องเที่ยวสาวผู้เคยเดินทางไปเยือนมากถึง 64 ประเทศใน 6 ทวีปก่อนอายุครบ 30 ปี ได้ออกมาเปิดเผยรายชื่อ 5 ประเทศชื่อดังที่เธอไม่มีแผนจะกลับไปอีก แม้หลายแห่งจะเป็นจุดหมายปลายทางในฝันของใครหลายคน

เธอเล่าว่า การเดินทางของเธอเริ่มต้นจากทริปครอบครัวตั้งแต่วัยเด็ก ก่อนจะกลายเป็นความหลงใหลในการท่องเที่ยวทั่วโลกระหว่างเรียนมหาวิทยาลัย โดยเฉพาะช่วงที่ได้แลกเปลี่ยนผ่านโครงการ Semester at Sea ที่ทำให้เธอมีโอกาสใช้ชีวิตบนเรือสำราญนาน 100 วัน และเยือน 10 ประเทศในครั้งเดียว

แม้การเดินทางส่วนใหญ่จะเต็มไปด้วยความประทับใจ แต่เธอกลับรู้สึกว่า บางประเทศไม่ได้ตอบโจทย์ หรือไม่เป็นไปตามที่คาดหวัง ส่งผลให้ไม่มีความคิดอยากกลับไปเยือนอีกในอนาคตอันใกล้ โดย 5 ประเทศที่เธอพูดถึง ได้แก่

1. แอฟริกาใต้ – ธรรมชาติสวยแต่ความปลอดภัยน่ากังวล

เธอเล่าว่าซาฟารีที่แอฟริกาใต้เป็นประสบการณ์ที่น่าตื่นเต้นและน่าจดจำ โดยเฉพาะการชม “Big Five” และเมืองชายฝั่งอย่าง Mossel Bay หรืออุทยานช้าง Addo ที่น่าทึ่ง แต่เมื่อถึงเคปทาวน์ เธอกลับต้องเผชิญกับคำเตือนซ้ำ ๆ จากไกด์เรื่องการลักทรัพย์และอาชญากรรม จนทำให้รู้สึกกังวลและไม่สบายใจตลอดการเดินทาง โดยเฉพาะในฐานะผู้หญิงที่เดินทางกับเพื่อนหญิงอีกคน ทำให้ไม่กล้าออกไปไหนตอนกลางคืน และยังไม่มีแผนจะกลับไปอีก

2. กรีซ – คนแน่นและอากาศร้อนเกินไป

กรีซเป็นอีกประเทศที่เธอเคยไปมาแล้วถึง 4 ครั้ง ทั้งเอเธนส์ ซานโตรินี และเกาะต่าง ๆ แต่กลับรู้สึกว่าทุกครั้งยิ่งแออัดขึ้นเรื่อย ๆ โดยเฉพาะที่ซานโตรินี ซึ่งต้องเบียดเสียดกับนักท่องเที่ยวจำนวนมากเพื่อชมพระอาทิตย์ตก อีกทั้งอากาศในช่วงฤดูร้อนและฤดูใบไม้ร่วงก็ร้อนจัดจนไม่เหมาะแก่การท่องเที่ยว เธอแนะนำว่าหากใครอยากไปควรเลือกช่วงนอกฤดูกาล หรือพิจารณา โครเอเชีย ซึ่งสวยงามไม่แพ้กันแต่คนไม่พลุกพล่านเท่า

3. สเปน – วัฒนธรรมต่างและนักท่องเที่ยวล้นเมือง

แม้จะชื่นชอบเมืองที่ไม่ค่อยมีนักท่องเที่ยวในแคว้นกาลิเซียอย่าง Vigo และ A Coruña แต่เธอกลับรู้สึกว่าไม่สามารถปรับตัวเข้ากับจังหวะชีวิตของคนสเปนได้ เช่น การพักช่วงบ่ายยาวนาน (siesta) และอาหารเย็นที่มักเสิร์ฟดึกเกินไปเมื่อเทียบกับความเคยชินของชาวอเมริกัน นอกจากนี้ ยังมีความกังวลจากกระแสต่อต้านนักท่องเที่ยวในประเทศที่เพิ่มขึ้นในช่วงหลัง ทำให้เธอไม่คิดจะวางแผนเดินทางกลับในเร็ววัน

4. โมร็อกโก – ประสบการณ์หลากหลาย แต่บางช่วงทำให้ไม่สบายใจ

เธอไปเยือนโมร็อกโกในช่วงแลกเปลี่ยนเรียนต่างประเทศ และตั้งใจเปิดใจรับวัฒนธรรมท้องถิ่น ทั้งการต่อรองราคาที่ตลาดมาราเกชและลองชิมอาหารใหม่ ๆ แต่กลับต้องพบกับประสบการณ์เชิงลบ เช่น การถูกแม่ค้าจับแขนแล้ววาดเฮนน่าโดยไม่ยินยอมก่อน แล้วเรียกเก็บเงินตามหลัง รวมถึงการถูกพยายามล้วงกระเป๋าจากชายแปลกหน้า เธอยอมรับว่าประสบการณ์นี้น่าผิดหวัง แต่ก็ยังมีความทรงจำดี ๆ อย่างการขี่อูฐกับสามีชมพระอาทิตย์ตกในทะเลทรายซาฮารา

5. ญี่ปุ่น – ปลอดภัยแต่ราคาแพงและแออัดเกินคาด

ญี่ปุ่นเป็นประเทศที่เธอยอมรับว่าปลอดภัย โดยเฉพาะสำหรับนักเดินทางหญิง แต่การพักในเมืองใหญ่อย่างโตเกียวกลับรู้สึกว่าไม่คุ้มราคา ห้องพักขนาดเล็กคล้ายหอพักนักศึกษาในราคาสูงถึงคืนละ 150 ดอลลาร์ (ประมาณ 4,900 บาท) ทั้งที่ราคานี้ในประเทศไทยสามารถเข้าพักโรงแรมหรูได้

นอกจากนี้ ยังหาร้านอาหารที่นั่งทานแบบประหยัดได้ยาก ต้องพึ่งพาอาหารจานด่วนเป็นหลัก และรู้สึกอึดอัดกับความแออัดของผู้คนในเมือง เธอจึงสรุปว่า หากมีโอกาสกลับมาเอเชียอีกครั้ง จะเลือกประเทศไทยที่เธอมั่นใจว่าคุ้มค่ากว่าในทุกด้าน 

แฉรสนิยมทางเพศ “บุคคลหมายเลข 2” รองจากคิมจองอึน ผู้นำเกาหลีเหนือ สั่งถอนฟันสาวทีม PR ทั้งปาก รู้เหตุผลยิ่งน่าสลดใจ

ชเวรยงแฮ ประธานคณะกรรมาธิการถาวรแห่งสภาประชาชนสูงสุดของเกาหลีเหนือ ซึ่งถูกมองว่าเป็น “บุคคลหมายเลข 2” รองจากคิมจองอึน แม้ปัจจุบันจะได้รับความไว้วางใจอย่างมาก แต่ในช่วงทศวรรษ 1990 เขาเคยถูกลดตำแหน่งจากการใช้อำนาจในทางที่ผิด

ตามรายงานของสำนักข่าว Daily NK ระบุว่า รายงานฉบับหนึ่งจากสำนักงานวิจัยด้านนิติบัญญัติของรัฐสภาเกาหลีใต้ ซึ่งเผยแพร่เมื่อวันที่ 10 เมษายน ได้จุดกระแสการถกเถียงในวงกว้าง

โดยรายงานฉบับนี้เน้นวิเคราะห์โครงสร้างอำนาจของเกาหลีเหนือที่เปลี่ยนแปลงไป และบทบาทของชเวรยงแฮ โดยระบุว่าเขาได้รับความไว้วางใจจากคิมจองอึนให้มีอำนาจในการปรับเปลี่ยนตำแหน่งระดับสูงและผลประโยชน์ต่าง ๆ ส่งผลให้เกิดระบบ “ผู้ดูแลอำนาจ” และเป็นเหตุให้ในช่วงหลังแทบไม่เห็นกรณีเจ้าหน้าที่ระดับสูงถูกกวาดล้างเหมือนในอดีต

ย้อนกลับไปในอดีต เกาหลีเหนือมีการประหารเจ้าหน้าที่ระดับสูงต่อสาธารณะครั้งสุดท้ายเมื่อปี 2015 โดย ฮยอนยองชอล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกองกำลังประชาชนในขณะนั้น ถูกยิงเป้าอย่างเปิดเผย

ก่อนหน้านั้น เหตุการณ์ที่สร้างความตกตะลึงมากที่สุดคือในปี 2013 เมื่อคิมจองอึนมีคำสั่งประหาร จางซองแท็ก ลุงเขยของตนเอง ซึ่งเคยเป็นบุคคลสำคัญในรัฐบาล และเคยถูกมองว่าเป็น “บุคคลหมายเลข 2” ของเกาหลีเหนือในช่วงต้นที่คิมจองอึนขึ้นสู่อำนาจ

การเสียชีวิตของจางซองแท็ก สะท้อนให้เห็นว่าคิมจองอึนมีความอดทนต่อ “บุคคลหมายเลข 2” ในรัฐบาลต่ำมาก หากเจ้าหน้าที่ระดับสูงคนใดมีอำนาจมากเกินไป และล้ำเส้น เขาก็ยากจะรอดพ้นจากชะตากรรมการถูกกวาดล้าง

รายงานระบุว่า เหตุผลที่ชเวรยงแฮยังคงอยู่ในอำนาจได้จนถึงปัจจุบัน เป็นเพราะเขามีวิธีจัดการกับอำนาจต่างจากจางซองแท็ก โดยที่จางซองแท็กถูกมองว่าแสวงหาผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจและรวบอำนาจไว้ที่ตนเพียงผู้เดียว ขณะที่ชเวรยงแฮมีท่าที “เรียบง่าย ไม่โอ้อวด” และรู้จักรักษาสมดุลภายใต้สายตาของคิมจองอึน จึงไม่ล้ำเส้นจนถูกจัดการ

แม้ว่าในปัจจุบัน ชเวรยงแฮจะถูกมองว่าเป็น “บุคคลหมายเลข 2” ของเกาหลีเหนือ แต่ในอดีต เขาเคยถูกจัดว่าเป็นบุคคลที่มีปัญหา โดยในยุคของคิมจองอิล เขาถูกส่งตัวไปยังชนบทและเหมืองแร่หลายครั้ง เพื่อเข้ารับ “การศึกษาเชิงปฏิวัติ” เนื่องจากมีพฤติกรรมไม่เหมาะสม

หนึ่งในเรื่องอื้อฉาวที่สุดของเขา คือช่วงทศวรรษ 1990 ขณะดำรงตำแหน่งประธานสันนิบาตเยาวชนแรงงานสังคมนิยมเกาหลีเหนือ เขาได้ลับ ๆ จัดตั้ง “หน่วยประชาสัมพันธ์กลางเยาวชนแรงงาน” โดยคัดเลือกหญิงสาวหน้าตาดีจากทั่วประเทศ แม้จะอ้างว่าเป็นทีมประชาสัมพันธ์ขององค์กรเยาวชน แต่ความจริงแล้วเป็นกลุ่มที่เขาใช้เพื่อตอบสนองความใคร่ส่วนตัว

มีข่าวลือว่าเขาเคยสั่งให้สมาชิกหญิงคนหนึ่งถอนฟันทั้งหมด เพื่อใช้เธอทำ “กิจกรรมในช่องปาก” ตามใจตนเอง มองเธอเป็นเครื่องมือสนองความใคร่ที่ผิดแปลก และยังสัญญาว่าจะมอบค่าตอบแทนสูงพร้อมฟันปลอมให้ด้วย

หลังเรื่องอื้อฉาวทางเพศเหล่านี้ถูกเปิดเผย ชเวรงเฮถูกปลดจากตำแหน่งและถูกส่งไปเข้าค่ายอบรมปฏิรูปทางความคิด แต่เนื่องจากบิดาของเขาคือชเวฮยอน อดีตนักสู้ต่อต้านญี่ปุ่นและเพื่อนร่วมรบของคิมอิลซุง ซึ่งถือเป็น “ขุนนางแดง” ในเกาหลีเหนือ ทำให้เขาสามารถกลับมาได้อย่างยิ่งใหญ่ และกลับเข้าสู่แกนนำอำนาจอีกครั้ง

นาทีนี้ไม่มีใครฮอตเท่าเธออีกแล้ว! นักร้องสาวเสียงทรงพลัง แก้ม วิชญาณี เปียกลิ่น ทำเอาโซเชียลลุกเป็นไฟ หลังปล่อยคลิปเต้นคัฟเวอร์เพลงฮิต “When I’m With You (feat. Tyla)” ของซุปเปอร์สตาร์ระดับโลก ลิซ่า BLACKPINK ที่กำลังเป็นไวรัลอยู่ตอนนี้!

ในคลิป แก้ม จัดเต็มทั้งท่าเต้นทุบสะโพกสุดฮิต แถมยังผสมความน่ารักด้วยการเต้นไปย่อลงไปหยิบกระเป๋า อุ้มแมว และอุ้มหลานสาวตัวน้อย บอกเลยว่าใครเห็นเป็นต้องอมยิ้มตาม

แต่ที่ทำเอาหลายคนต้องขยี้ตาซ้ำคือลุคใหม่สุดปังของเธอ! กับผมทรงสั้นที่ดูเหมือนจะตัดจริง มาพร้อมชุดเดรสสีแดงเพลิงที่ขับออร่าความสวยแซ่บให้พุ่งทะลุจอ จนคอมเมนต์แตกแตนมาก อยากบอกว่า “จำแทบไม่ได้ สวยมาก!”

คลิปนี้ไม่ได้โชว์แค่ความสามารถในการเต้นของ แก้ม เท่านั้น แต่ยังตอกย้ำว่าไม่ว่าเธอจะมาในบทบาทไหน ก็พร้อมสร้างความเซอร์ไพรส์และความสุขให้กับแฟนๆ เสมอ ใครยังไม่ได้ดูความปังของแก้มที่เต้นแบบลิซ่ารีบตามไปดูด่วน!