พนักงานออฟฟิศดื่มน้ำวันละ 2 ลิตร ข้องใจทำไมถึงยังเป็นนิ่วในไต หมอชี้ “จุดพลาด” จำให้ขึ้นใจ 4 ข้อนี้ ดื่มผิดวิธี ดื่มเยอะก็ไม่ช่วย
มีพนักงานออฟฟิศคนหนึ่ง ดื่มน้ำไม่น้อยกว่าวันละ 2 ลิตรเป็นประจำ แต่เมื่อไม่นานมานี้กลับรู้สึกปวดเอวอย่างรุนแรง จนต้องรีบไปพบแพทย์ และพบว่าเป็น นิ่วในไต ซึ่งสร้างความแปลกใจให้เขามาก เพราะคิดว่าดื่มน้ำเยอะไม่น่าจะเป็นนิ่วได้แพทย์จึงออกมาไขความเข้าใจผิดว่า “การดื่มน้ำมากไม่ได้แปลว่าจะไม่เป็นนิ่วในไต”
หมอเฉพาะทางด้านระบบทางเดินปัสสาวะของไต้หวัน ดร.ชวี หยวนเจิง ได้แชร์เคสนี้ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว โดยระบุว่า พนักงานออฟฟิศอายุ 35 ปีรายหนึ่ง มีอาการปวดเอวมากจนเหงื่อออกและยืนไม่ไหว เมื่อตรวจพบว่า มีนิ่วในไตขนาด 5 มิลลิเมตร ทั้งที่เจ้าตัวดื่มน้ำวันละมากกว่า 2 ลิตรทุกวัน
ทำไมดื่มน้ำมากแต่ยังเป็นนิ่ว?
จากการศึกษาทางคลินิกพบว่า มากกว่า 70% ของผู้ป่วยโรคนิ่วในไต ดื่มน้ำในปริมาณไม่น้อยในแต่ละวัน แต่ปัจจัยสำคัญอยู่ที่ “วิธีดื่มน้ำ” ไม่ใช่แค่ปริมาณรวม เพราะหากดื่มน้ำครั้งละมาก ๆ ร่างกายจะขับออกเร็ว ทำให้ปัสสาวะเจือจางแค่ช่วงสั้น ๆ ก่อนจะกลับมาเข้มข้นอีก ซึ่งไม่ช่วยป้องกันนิ่วในไต หัวใจสำคัญคือ “ดื่มน้ำอย่างสม่ำเสมอและเป็นจังหวะ” มากกว่าการวัดแค่ปริมาณรวม
4 วิธีดื่มน้ำให้ได้ผล ป้องกันนิ่วในไต
1. ดื่มน้อยแต่บ่อย จิบทีละนิดอย่างช้า ๆ
-
ปริมาณน้ำที่เหมาะสม: น้ำหนักตัว (กก.) × 30 มล.
-
หากออกกำลังกายมาก เหงื่อออกเยอะ หรืออยู่ในห้องแอร์นาน ให้เพิ่มเป็น × 40 มล.
-
อย่ารอจนกระหายน้ำแล้วค่อยดื่ม แนะนำจิบ 200–300 มล. ทุก 30–60 นาที เพื่อให้ไตทำงานต่อเนื่อง
2. อย่ารอให้กระหาย และอย่าดื่มรวดเดียวปริมาณมาก
-
ความกระหายน้ำบ่งบอกว่าร่างกายขาดน้ำมาแล้ว 2–3 ชั่วโมง
-
หากดื่มรวดเดียวมาก ๆ ร่างกายจะดูดซึมได้แค่ประมาณ 200 มล. ภายใน 20 นาที ส่วนที่เกินจะถูกขับออกทันที
-
น้ำที่ดื่มจึงไม่สามารถเข้าสู่เซลล์หรือช่วยเจือจางปัสสาวะได้อย่างแท้จริง
-
ดังนั้นควร จิบช้า ๆ ทีละนิด เพื่อให้ร่างกายดูดซึมได้เต็มที่
3. สังเกตความถี่ของการปัสสาวะ
-
โดยทั่วไปผู้ใหญ่ควรปัสสาวะวันละ 4–7 ครั้ง หรือทุก 2–3 ชั่วโมง
-
หากถ่ายน้ำน้อยกว่า 4 ครั้งต่อวัน แสดงว่าดื่มน้ำน้อยเกินไป และปัสสาวะเข้มข้น
-
ซึ่งจะเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดนิ่วในไต
4. ชา กาแฟ และเครื่องดื่มหวาน ไม่เท่ากับน้ำเปล่า
-
เครื่องดื่มอย่างชานม กาแฟ น้ำอัดลม หรือเครื่องดื่มหวาน ไม่ถือว่าเป็นน้ำที่ช่วยเติมความชุ่มชื้นให้ร่างกาย
-
เพราะคาเฟอีนและน้ำตาลในเครื่องดื่มเหล่านี้รบกวนการดูดซึมแคลเซียม และเพิ่มความเข้มข้นของแคลเซียมในปัสสาวะ
-
จึงเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดนิ่ว
-
คำแนะนำคือ ทุกครั้งที่ดื่มเครื่องดื่มเหล่านี้ ควรดื่มน้ำเปล่าเพิ่มอีก 300 มล. เพื่อช่วยชดเชยน้ำที่สูญเสียและช่วยให้ไตทำงานได้ดี
ใส่ความเห็น