ชีวิตที่พังทลายหลังถูกรางวัล Powerball: บทเรียนจาก แจ็ค วิตเทเกอร์
แจ็ค วิตเทเกอร์ ชายชาวอเมริกันจากรัฐเวสต์เวอร์จิเนีย เคยใช้ชีวิตอย่างปกติสุข มีฐานะปานกลาง ไม่ได้ร่ำรวยแต่ก็ไม่ขัดสน
จนกระทั่งเดือนธันวาคม ปี 2002 ชีวิตของเขาก็เปลี่ยนไปตลอดกาล เมื่อถูกรางวัลแจ็กพอต Powerball มูลค่ากว่า 314.9 ล้านดอลลาร์ หรือราว 11,000 ล้านบาท ซึ่งนับว่าเป็นหนึ่งในรางวัลที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์สหรัฐฯ ในขณะนั้น
อย่างไรก็ดี วิตเทเกอร์ เลือก “รับเงินก้อนเดียว” แทนการรับเงินแบบแบ่งจ่ายตลอด 30 ปี ทำให้หลังหักภาษีแล้วเหลือประมาณ 113.4 ล้านดอลลาร์ หรือราว 3,700 ล้านบาทเท่านั้น แต่ก็ยังทำให้เขากลายเป็นมหาเศรษฐีอยู่ดี (สวนทางกับบรรดานักวิเคราะห์ทางการเงินที่ต่างลงความเห็นเป็นเสียงเดียวกันว่า นี่คือจุดเริ่มต้นแรกของการตัดสินใจผิดพลาดของเขา)
ในช่วงแรก เขาก็ใช้ชีวิตตามแบบคนรวยใจบุญ แจกเงินบริจาคให้โบสถ์ มอบทุนการศึกษา ให้ทิปพนักงานเสิร์ฟหลักหมื่นดอลลาร์ และกลายเป็นคนดังแห่งเวสต์เวอร์จิเนีย
แต่ไม่นาน ความฟุ่มเฟือยและการใช้เงินไม่ยั้งก็กลายเป็นต้นตอของหายนะ…
จากเศรษฐีใจดี สู่เป้าหมายของอาชญากรรม
วิตเทเกอร์ มักพกเงินสดจำนวนมากติดตัว เขาเริ่มเข้าคาสิโนบ่อยขึ้น และไม่ระวังตัว จนถูกขโมยเงินถึงสองครั้งในไม่กี่เดือน ครั้งแรกกว่า 545,000 ดอลลาร์ หน้าคลับเปลื้องผ้า และครั้งต่อมา 200,000 ดอลลาร์ จากการลืมล็อกรถ
เพื่อนฝูงเริ่มแวะเวียนมาขอยืมเงินมากขึ้นจนเขาระบายกับสื่อว่า “ผมไม่มีเพื่อนเหลืออยู่เลย ทุกคนแค่อยากยืมเงิน…”
แม้แต่การไปโบสถ์กับครอบครัวก็กลายเป็นเรื่องไม่สบายใจ เพราะผู้คนเข้ามาขอความช่วยเหลือไม่หยุด
สูญเสียครั้งใหญ่ ที่เงินก็ช่วยอะไรไม่ได้
ไม่นานชีวิตคู่ของเขาก็พัง ภรรยายื่นฟ้องหย่า ขอละเมิดทรัพย์สินสมรส ลูกสาววัย 42 ปีเสียชีวิตด้วยโรคเรื้อรัง ส่วนหลานสาว “แบรนดี” ผู้เป็นที่รัก ก็กลายเป็นโศกนาฏกรรมที่เขาไม่มีวันลืม
วิตเทเกอร์ ให้ทุกอย่างกับ แบรนดี ทั้งบ้าน รถ และเงินก้อนใหญ่ หวังให้เธอมีชีวิตที่ดี แต่กลับกลายเป็นว่าเธอกลายเป็นเป้าของการขู่ลักพาตัว ตกเป็นเหยื่อของยาเสพติด และต้องออกจากโรงเรียนมาเรียนที่บ้าน
แม้เขาพยายามช่วยเหลือ ส่งบำบัดหลายครั้ง จ้างตำรวจคุ้มกัน ไล่จับพ่อค้ายาเอง แต่ก็ไม่สามารถหยุดแบรนดี้จากการถลำลึกได้
ปี 2004 แบรนดี หายตัวไป และถูกพบเป็นศพในสนามหน้าบ้านแฟนหนุ่ม มีสารเสพติดในร่างกาย ทั้งโคเคนและเมทาโดน
เงินไม่ใช่ทางออก
หลังจากสูญเสียหลานสาว ชีวิตของ วิตเทเกอร์ ยิ่งดิ่งลง เขามีปัญหากฎหมายกับคาสิโน Caesars Atlantic City จากเช็กเด้ง 1.5 ล้านดอลลาร์ และยังมีคดีล่วงละเมิดทางเพศ ก่อนตกลงยุติคดีแบบลับๆ
ปี 2007 เขาออกมายอมรับว่าเงินรางวัลที่เคยได้แทบไม่เหลือแล้ว
“ตั้งแต่ผมถูกรางวัลลอตเตอรี่ ผมคิดว่าความโลภของผมมันไม่มีขีดจำกัดเลย”
“เมื่อคุณมีอะไรบางอย่าง ก็จะมีคนอื่นที่อยากได้มันอยู่เสมอ ผมได้แต่คิดว่าผมน่าจะฉีกล็อตเตอรี่นั่นทิ้งไปตั้งแต่แรก”
จุดจบของเศรษฐีผู้โชคร้าย
ปี 2016 บ้านของเขาถูกไฟไหม้เสียหายหมดสิ้น ชีวิตเขาต่อสู้กับการดื่มและการพนันอย่างหนัก จนสุดท้ายเสียชีวิตในปี 2020 ขณะมีอายุ 72 ปี
จากเศรษฐีที่โลกอิจฉา วิตเทเกอร์ กลายเป็นตัวอย่างของ “ฝันร้ายหลังถูกรางวัล” ที่ถูกกล่าวถึงในแง่ลบมากที่สุดคนหนึ่งในประวัติศาสตร์ Powerball
ใส่ความเห็น