ผู้เขียน: admin

หากคุณเคยดูภาพยนตร์จีนโบราณ หรือเคยร่วมพิธีชงชาแบบจีนแท้ๆ หรือแม้แต่ฉากในซีรีส์ดังเรื่องล่าสุดของไทยอย่าง “สงคราม ส่งด่วน” ที่ตัวละครสร้างประโยคไวรัล “ใครเขาแxกชาน้ำแรกกันวะ? โง่ฉิxหาย!”

ตามธรรมเนียม น้ำชารอบแรกมักถูกเททิ้งโดยไม่แตะต้องเลยสักหยด หลายคนอาจสงสัยว่า “ทำไมถึงไม่ดื่มล่ะ? เสียดายออก”

แต่สำหรับชาวจีน โดยเฉพาะผู้ที่หลงใหลในวัฒนธรรมการดื่มชา การเทน้ำชาน้ำแรกทิ้งไม่ใช่เรื่องแปลก แต่คือ “พิธีกรรมสำคัญ” ที่ผสานทั้งเหตุผลทางสุขภาพ รสชาติ และความเคารพต่อแขกผู้มาเยือน

ไปรู้จักเหตุผลเบื้องหลังธรรมเนียมนี้ พร้อมเปิดมุมมองใหม่ของวัฒนธรรมการดื่มชาที่ลึกซึ้งกว่าที่คุณเคยคิด ซึ่งมันมีเหตุผลดังนี้

1. ล้างใบชาและสิ่งสกปรก

เหตุผลหลักที่คนจีนไม่นิยมดื่มน้ำชาน้ำแรก คือ เพื่อชำระล้างใบชา โดยเฉพาะชาคุณภาพสูงหรือชาที่ผ่านการหมัก อาจมีฝุ่นละออง เศษใบไม้ หรือสารปนเปื้อนจากกระบวนการผลิต น้ำร้อนที่รินครั้งแรกจะช่วยชะล้างสิ่งเหล่านี้ออกไปก่อนที่จะดื่ม

2. ปลุกใบชาให้คลายตัว

ในวัฒนธรรมการชงชาแบบจีน การ “ล้างชา” หรือ 醒茶 (ซิ่งฉา) เป็นขั้นตอนในการปลุกใบชาให้ตื่นตัวจากสภาพแห้ง ช่วยให้กลิ่นหอมของชาออกมาเต็มที่ในการชงรอบถัดไป โดยเฉพาะชาที่ผ่านการอัดแน่นหรือแห้งนาน เช่น ชาผู่เอ๋อร์ หรือ อู่หลง

3. รสชาติจะดีกว่าในน้ำชารอบถัดไป

น้ำชาน้ำแรกมักมีรสชาติที่ขมฝาด ไม่กลมกล่อม เพราะใบชายังไม่คลายตัวเต็มที่ การทิ้งน้ำชารอบแรกจะช่วยให้การดื่มในรอบถัดไปมีรสชาติที่นุ่มนวล หอม และเข้มข้นมากขึ้น ซึ่งเป็นสิ่งที่ผู้ดื่มชาที่มีประสบการณ์ให้ความสำคัญ

4. แสดงถึงความพิถีพิถัน

ในพิธีชงชาของจีน การทิ้งชาน้ำแรกยังแสดงถึง ความเคารพต่อแขกผู้มาเยือน เป็นการแสดงให้เห็นถึงความเอาใจใส่ในรายละเอียด และการเลือกสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับการต้อนรับ

บทสรุป

การไม่ดื่มชาน้ำแรกอาจดูเป็นเพียงรายละเอียดเล็กน้อยสำหรับคนทั่วไป แต่สำหรับชาวจีน นี่คือสัญลักษณ์ของความใส่ใจ ละเมียดละไม และความเคารพต่อทั้งชาและผู้ดื่ม มันสะท้อนแนวคิดที่ว่า การดื่มชาไม่ใช่แค่การดับกระหาย แต่เป็นศิลปะ เป็นพิธีกรรม และเป็นช่วงเวลาแห่งการจดจ่อกับปัจจุบัน

เพียงแค่เทชาน้ำแรกทิ้ง เราได้เรียนรู้บางสิ่ง ว่าความงดงามบางอย่าง อาจเริ่มต้นจากการปล่อยวางสิ่งที่ดูเหมือนมีค่า เพื่อให้ได้สิ่งที่ดีกว่ารออยู่ในถ้วยถัดไป

ทำเอาช็อกแฟนๆ จริงๆ สำหรับการออกมาบอกว่า เอ๋ พรทิพย์ ภรรยาสุดที่รักเป็นมะเร็ง หลังจากที่พระเอกคุณพ่อลูกสองอย่าง ป๋อ ณัฐวุฒิ สกิดใจ ที่เพิ่งออกมาโพสต์คลิปที่ภรรยา กำลังนอนรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลให้ได้เห็น ซึ่งในคลิปมีประโยคที่ เอ๋ พรทิพย์ ทำหน้าเจ็บปวดและพูดว่า “เจ็บจัง เจ็บมาก”

ซึ่งก็ต้องรอให้ทั้งคู่ ป๋อ ณัฐวุฒิ และ เอ๋ พรทิพย์ ออกมาแจ้งรายละเอียดในวันพรุ่งนี้ (4 มิ.ย.) และเมื่อลองย้อนไปก่อนหน้านี้ก็ยังเห็น เอ๋ พรทิพย์ ใช้ชีวิตปกติ ไปปาร์ตี้กับเพื่อนๆ อยู่เลย 

แต่ก็มีคลิปก่อนหน้านี้ไม่กี่วันก่อนที่จะประกาศข่าวช็อกเป็นมะเร็ง โดยเป็นคลิปที่ ป๋อ ณัฐวุฒิ โพสต์ไว้เมื่อวันที่ 29 พ.ค. และเขียนไว้ว่า “แม่ไม่สบาย สงสารจัง” และในต้นคลิป ป๋อ บอกภรรยาว่า “ไหนหันมายิ้มหน่อยซิวันนี้”

ซึ่งก็เป็นคลิปที่ เอ๋ พรทิพย์ นั้นตื่นเช้ามาทำกิจวัตรประจำวัน พร้อมกับบอกว่าตื่นเช้ากว่าลูกอีกเพราะว่านอนไม่หลับ ตื่นหลายรอบ และคอมเมนต์ที่บอกว่าขนาดเพิ่งตื่น เอ๋ ยังดูสวยเลย 

หากพูดถึง “ปุ๋ย-ภรณ์ทิพย์ นาคหิรัญกนก” มิสยูนิเวิร์สคนแรกของไทยที่คว้ามงระดับโลกในปี 1988 หลายคนรู้จักเธอในฐานะนางงามผู้มากความสามารถ ผู้ใจบุญ และนักธุรกิจหญิงที่มีบทบาทในวงการการศึกษาและการกุศลระดับโลก

แต่สิ่งที่หลายคนอาจ “ยังไม่รู้” ก็คือ สามีของเธอที่แต่งงานกันมาตั้งแต่ปี 2002 — เฮอร์เบิร์ต ไซมอน (Herbert Simon) คือมหาเศรษฐีชาวอเมริกันผู้เป็นเจ้าของ “ทีมกีฬาระดับโลก” ที่มีแฟนคลับนับล้านคนทั่วโลก

เจ้าของทีม NBA ชื่อดัง

เฮอร์เบิร์ต ไซมอน คือเจ้าของทีมบาสเกตบอล อินเดียนา เพเซอร์ส (Indiana Pacers) ทีมดังในศึก NBA ลีกบาสเกตบอลอันดับหนึ่งของโลก ซึ่งตั้งอยู่ในรัฐอินเดียนา สหรัฐอเมริกา โดยเขาซื้อกิจการทีมนี้ตั้งแต่ปี 1983 ร่วมกับพี่ชาย (และต่อมาถือกรรมสิทธิ์เพียงผู้เดียว)

ภายใต้การบริหารของ ไซมอน ทีม Pacers กลายเป็นหนึ่งในทีมที่มีภาพลักษณ์มืออาชีพ มีผลงานต่อเนื่อง และยังให้การสนับสนุนชุมชนท้องถิ่นอย่างแข็งขัน

ไม่ใช่แค่กีฬาที่ลงทุน

นอกจากทีมบาสฯ ไซมอน ยังเป็นเจ้าของกิจการอสังหาริมทรัพย์ขนาดใหญ่ในอเมริกา เช่น Simon Property Group ซึ่งเป็นเจ้าของห้างสรรพสินค้าชื่อดังหลายแห่งในสหรัฐฯ

นั่นหมายความว่า ปุ๋ย พรทิพย์ หรือ “ปุ๋ย ไซมอน” (Bui Simon) ไม่เพียงแค่เป็นนางงามไทยที่สร้างชื่อเสียงระดับโลก แต่ยังเป็น “สุภาพสตรีผู้ยืนเคียงข้างเจ้าของทีมกีฬาระดับโลก” ตัวจริงเสียงจริงอีกด้วย

เบื้องหลังความสำเร็จที่เรียบง่าย

แม้จะมีชีวิตที่เกี่ยวข้องกับวงการธุรกิจและกีฬาในระดับโลก แต่ ปุ๋ย พรทิพย์ ยังคงดำเนินชีวิตอย่างเรียบง่าย ทุ่มเทให้กับงานมูลนิธิและการช่วยเหลือเด็กด้อยโอกาสผ่านมูลนิธิ “ANGEL Foundation” ในประเทศไทย และเดินหน้าสร้างการเปลี่ยนแปลงในสังคมอย่างเงียบๆ

ร้านสุกี้ชื่อดัง แจ้งเปิดให้บริการถึง 3 มิ.ย.นี้ เป็นวันสุดท้าย ทำลูกค้าใจหาย เสียดายเมนูขึ้นชื่อ ขณะที่บางคนวิเคราะห์สาเหตุ

เฟซบุ๊ก แพนด้า สุกี้ เรสเทอรอง Panda Suki Restaurant ซึ่งเป็นร้านสุกี้ชื่อดัง ย่านพระราม 5 มีการประกาศว่า ร้านแพนด้า สุกี้ บะหมี่ จะเปิดให้บริการวันสุดท้ายวันที่ 3 มิถุนายน 2568 ขอบคุณทุกการสนับสนุน

โดยระบุว่า “เรียนลูกค้าผู้มีอุปการคุณทุกท่าน ทางร้านแพนด้า สุกี้ บะหมี่ จะเปิดให้บริการลูกค้าถึง วันที่ 3 มิถุนายน 2568 เป็นวันสุดท้าย ทางร้าน ขอขอบพระคุณที่ให้การสนับสนุนอย่างดีตลอดมา ขอขอบพระคุณครับ”

หลังโพสต์ดังกล่าวเผยแพร่ไป ก็มีคนเข้ามาแสดงความคิดเห็นจำนวนมาก ส่วนใหญ่ใจหายที่ร้านต้องปิดตัวลง และเสียดายเมนูขึ้นชื่อของร้านอย่าง เป็ดย่าง และ หมูแดงร้านนี้ และสงสัยว่าจะย้ายไปเปิดสาขาที่อื่นหรือไม่ และถ้าเป็นไปได้อยากให้มาเปิดใกล้ ๆ บ้าน

ขณะที่บางคนก็วิเคราะห์สาเหตุว่า ทำเลที่ตั้งไม่เหมาะกับการทำกิจการ เพราะรถประจำทางไม่ค่อยผ่าน นอกจากนี้ ร้านดังกล่าวเคยปิดกิจการไปแล้วในเดือนพฤษภาคม 2567 ก่อนจะกลับมาเปิดกิจการใหม่อีกรอบในเดือนสิงหาคม แล้วก็ต้องปิดกิจการแบบเดิม

ทำเอาแฟนๆ ต่างช็อกไปตามๆ กัน หลังจากที่พระเอกรุ่นใหญ่ ป๋อ ณัฐวุฒิ ได้ออกมาประกาศข่าวเรื่องสุขภาพของภรรยาสุดที่รัก เอ๋ พรทิพย์ ว่าตรวจพบการเป็นมะเร็ง พร้อมเผยคลิปวิดีโอขณะนอนรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลให้ได้เห็น

โดย ป๋อ ณัฐวุฒิ เล่าไว้ว่า “เอ๋เป็นมะเร็งครับ พี่ไม่มีเวลามานั่งเสียใจนะ นึกออกไหม พี่ก็คิดว่าต้องทำยังไงต่อไป สงสารจัง”

ซึ่งบางช่วงบางตอนในคลิป ยังเผยให้เห็น เอ๋ พรทิพย์ ขณะเข้ารับการรักษา โดยเจ้าตัวได้พูดด้วยใบหน้าที่เจ็บปวดว่า “เจ็บจัง เจ็บมาก”

ทั้งนี้ ป๋อ ณัฐวุฒิ ยังบอกทิ้งท้ายว่า จะเล่าเรื่องราวอย่างละเอียดผ่านทางช่องยูทูปของตนใน ป๋อสะกิดเอ๋ วันพุธที่ 4 มิถุนายนนี้

ทีมข่าวบันเทิง Sanook.com ขอส่งกำลังใจไปให้ครอบครัว สกิดใจ และขอให้ เอ๋ พรทิพย์ หายป่วยไวๆ ด้วยนะคะ

ถอดบทเรียน “เอ๋ ไพโรจน์” เสียชีวิต หมอรีบเตือนสิ่งที่ “ต้องระวัง” อาการนี้คือหัวใจขาดเลือด!

วันที่ 3 มิถุนายน 2568 มีข่าวเศร้าวงการบันเทิงไทย ปิดตำนานพระเอกขวัญใจวัยรุ่นยุค 80 เอ๋-ไพโรจน์ สังวริบุตร เสียชีวิตอย่างสงบเมื่อเวลา 03.00 น. ที่จังหวัดนครราชสีมา สิริอายุ 72 ปี

ต่อมา นพ.วีรพันธ์ สุวรรณนามัย หรือที่รู้จักในชื่อ “หมอวี” ศัลยแพทย์ระบบประสาท และสมาชิกวุฒิสภา ได้โพสต์คลิปให้ความรู้ผ่าน TikTok (@dr.v_official) ย้ำเตือนถึงอาการของ “โรคหัวใจขาดเลือด” ที่ต้องระมัดระวังคือเจ็บแน่นหน้าอก รวมทั้งอาการเหงื่อออก หน้ามีด ใจสั่น หายใจไม่ออกเฉียบพลัน

“อาการเจ็บแน่นหน้าอก ที่บางคนจะนึกว่าเป็นกรดไหลย้อน แต่หากแน่นหมือนมีอะไรหนักๆ มาทับ โดนเฉพาะถ้าแน่นเวลาที่เหนื่อย เครียด หรือไปออกกำลังกายมา อันนั้นไม่ใช่กรดไหลย้อน ต้องระมัดระวังให้ดี”

•  เปิดประวัติ “ไพโรจน์ สังวริบุตร” พระเอกในตำนาน กับชีวิตที่มากกว่าหน้ากล้อง
• อธิบายดีมาก! ย้อนฟัง “หมอวี” เตือนยา 2 ตัวนี้ กินด้วยกันไม่ได้ ระวังหายปวดแต่ “ไตพัง”

“ราชาแห่งโอเมก้า 3” ไม่ใช่ปลาแซลมอนอย่างที่หลายคนคิด แชมป์ตัวจริงคือปลาที่คนไทยรู้จักดี ได้ยินชื่อแล้วร้องอ๋อ

“ปลาแมคเคอเรล” มีโอเมก้า-3 สูงถึง 5,134 มิลลิกรัมต่อ 100 กรัม มากกว่า “ปลาแซลมอน” ที่มีเพียง 2,260 มิลลิกรัมต่อ 100 กรัม อย่างเห็นได้ชัด

หลายคนคิดว่าแซลมอนคือ “ราชาแห่งโอเมก้า-3” แต่รู้หรือไม่ว่าปลาราคาประหยัดที่พบได้ทั่วไปในตลาด กลับมีโอเมก้า-3 มากกว่าแซลมอน นั่นก็คือ “ปลาแมคเคอเรล” ปลาที่คุ้นเคยในมื้ออาหารของคนไทย ไม่เพียงแต่อร่อย ยังให้คุณค่าทางโภชนาการไม่แพ้ปลาแซลมอนราคาสูงเลยทีเดียว

ANTHONY WALLACE / AFP

ปลาแมคเคอเรล “แชมป์โอเมก้า-3 ราคาประหยัด”

งานวิจัยจากวารสาร Nature Food ระบุว่า ปลาแมคเคอเรล มีปริมาณโอเมก้า-3 (DHA และ EPA) สูงกว่าปลาแซลมอนเลี้ยง ซึ่งเป็นปลาแซลมอนที่คนนิยมทาน

โอเมก้า-3 ในปลาแมคเคอเรลช่วยปกป้องหัวใจ ส่งเสริมพัฒนาการสมองในเด็ก และชะลอการเสื่อมของเซลล์ นอกจากนี้ ปลาแมคเคอเรลยังมีโปรตีนที่ย่อยง่าย มีเนื้อแน่น ไม่มีก้างในเนื้อปลามาก และสะสมสารพิษโลหะหนักอย่างปรอทน้อย เนื่องจากวงจรชีวิตสั้นกว่าปลาตัวใหญ่หลายชนิด

Rocio Vasquez

ที่สำคัญกว่านั้น ปลาแมคเคอเรลมีราคาย่อมเยากว่าปลาแซลมอนอย่างมาก ด้วยราคาที่เข้าถึงง่ายและความนิยมในตลาด ปลาแมคเคอเรลจึงเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมสำหรับทุกครอบครัว ไม่ว่าจะอยู่ในเมืองหรือชนบท

โค้งสุดท้ายก่อนหวยออก สลากสัญจร 1 มิถุนายน 2568 มัดรวมมาให้แล้ว เลขแม่ผึ้งพุ่มพวง-ทะเบียนนายกอิ๊งค์-สลากสัญจรบึงกาฬ คอหวยเหมาเกลี้ยงแผง

วันนี้ (31 พ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศก่อนวันหวยออกงวดประจำวันที่ 1 มิ.ย. 2568 ที่ตลาดภาษีซุง ในตัวเมืองชัยนาท มีคอหวยออกมาหาซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาล เลขที่ตนเองชื่นชอบอย่างต่อเนื่อง เพราะเป็นโค้งสุดท้ายก่อนออกรางวัลฯ หลาย ๆ คนหวังเป็นเศรษฐีใหม่ จึงออกมาหาซื้อเลขที่ชื่นชอบกันตั้งแต่ไก่โห่ รอลุ้นโชคบ่ายพรุ่งนี้

นางวันดี ขาวสนิท หรือ ป้าเหมียว แม่ค้าสลากฯ เปิดเผยว่า เลขดังกระแสมาแรงที่คนมาหาซื้อกัน คือ “เลขพุ่มพวง” เลข 33,31,13,35 เป็นเลขของราชินีลูกทุ่ง “พุ่มพวง ดวงจันทร์” ครบรอบ 33 ปี ของการจากไป เสียชีวิตในวัย 31 ปี วันที่ 13 มิ.ย.2535

อีกกระแสคือ “เลขทะเบียนนายกอิ๊งค์” เลข 111 เป็นเลข น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เดินทางลงพื้นที่ จ.จันทบุรี เพื่อตรวจติดตามสถานการณ์ผลไม้ในพื้นที่ นั่งรถตู้ เลกซัส สีดำ หมายเลขทะเบียน ขย 111 กรุงเทพมหานคร เดินทางไปปฏิบัติราชการ

และเลข 38,380,76,042,54 เป็น “เลขสลากสัญจรบึงกาฬ” รหัสจังหวัด TH-38 รหัสไปรษณีย์ 38000 จังหวัดลำดับที่ 76 เลขอายุผู้ว่าราชการจังหวัดคนปัจจุบัน 54 ปี รหัสโทรศัพท์ขึ้นต้น 042 ทำให้เลข 3 ชุดนี้ขายดิบขายดี มีคอหวยมาถามหากันรายชั่วโมงเลยทีเดียว

เลขดังโซเชียล งวด 1 มิถุนายน 2568 มีดังนี้

• เลข 06,90,69,80,86,89 เลขแม่น้ำหนึ่ง
• เลข 904,964,97,00 เลขปู่สถานธรรม
• เลข 85,52,28,12 เลขชนสำนักพิมพ์
• เลข 88,08,80 เลขกุมารวัดไผ่ล้อม
• เลข 120,143,21 เลขฝาโลงเผาผีปลอมหลวงตากล้วยแก้เคล็ดฉลองเมรุใหม่ วัดสังฆาราม อ.สรรคบุรี ชัยนาท
• เลข 13,17,53,57,10,40,18,48 เลขม้าสีหมอก
• เลข 30,37,70,35 เลข อ.น็อตตี้
• เลข 97,82,96,61,15 เลขเพชรกล้า เด็กชายนำโชค
• เลข 31,10,310 เลข ฮาย อาภาพร ล้วงไหขอเลขแม่ตะเคียน
• เลข 76,51 เลขปู่เทพ เสียงสวรรค์

กลับมาสร้างความสดใสให้แฟนๆ ได้ใจฟูอีกครั้ง สำหรับนักแสดงสาวมากฝีมือ พลอย เฌอมาลย์ บุญยศักดิ์ ที่ช่วงหลังมานี้ดูเหมือนว่าชีวิตจะแฮปปี้สุดๆ ไม่ว่าจะขยับตัวทำอะไรก็ดูมีความสุขไปหมด โดยเฉพาะรูปร่างที่ดูอวบอิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ทำให้หลายคนที่เคยเป็นห่วงเรื่องสุขภาพของเธอเมื่อช่วงก่อนหน้านี้ ต้องออกมายิ้มตามด้วยความสบายใจ

ก่อนหน้านี้ พลอย เฌอมาลย์ เคยเผชิญกับปัญหาสุขภาพจนทำให้รูปร่างซูบผอมลงไปมาก ทำเอาแฟนคลับและคนใกล้ชิดอดเป็นห่วงไม่ได้ อย่างไรก็ตาม ด้วยความมุ่งมั่นดูแลตัวเองและกำลังใจจากคนรอบข้าง ตอนนี้ดูเหมือนว่า พลอย จะกลับมาแข็งแรงและสดใสกว่าเดิมมาก

ล่าสุด พลอย เฌอมาลย์ ได้โพสต์ภาพดินเนอร์สุดหรูพร้อมอาหารหลากหลายเมนูที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งผ่านอินสตาแกรมส่วนตัว พร้อมแคปชั่นที่เรียกเสียงฮือฮาและรอยยิ้มจากแฟนๆ ได้เป็นอย่างดีว่า “Last Friday night….. #อ้วงล้าว7โล” ซึ่งเป็นการเปิดเผยถึงน้ำหนักที่เพิ่มขึ้นมาถึง 7 กิโลกรัมอย่างอารมณ์ดี

โพสต์ดังกล่าวไม่เพียงแต่แสดงให้เห็นถึงความสุขในการกินอาหารอร่อยๆ เท่านั้น แต่ยังเป็นสัญญาณที่ดีว่า พลอย กำลังมีสุขภาพกายและสุขภาพใจที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง ก

ต้องบอกว่าการกลับมาของ “พลอย เฌอมาลย์” ในเวอร์ชันที่สดใสและแข็งแรงกว่าเดิมนี้ ถือเป็นเรื่องน่ายินดีที่แฟนๆ ทั่วประเทศต่างติดตามและส่งกำลังใจให้เธอเสมอมา และไม่ว่าเธอจะอวบขึ้นกี่กิโลกรัม ความรักและความผูกพันที่แฟนๆ มีให้ก็ยังคงอยู่ไม่เปลี่ยนแปลง

สำหรับคนส่วนใหญ่ อุณหภูมิ 26 องศาถือว่าสบาย ไม่ร้อนหรือเย็นเกินไป ให้ความรู้สึกเย็นกำลังดี แต่ความจริงแล้ว ไม่ควรตั้งแอร์ไว้ที่ 26 องศา

เมื่อพูดถึงการใช้เครื่องปรับอากาศ หลายคนมักตั้งอุณหภูมิไว้ในระดับที่รู้สึกสบาย เพื่อให้อากาศในบ้านเย็นพอดีและประหยัดพลังงาน อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่ทุกคนจะรู้ว่า การตั้งอุณหภูมิก็มีเคล็ดลับและข้อควรระวังที่ไม่ควรมองข้าม

ไม่นานมานี้ หัวข้อหนึ่งได้รับความสนใจอย่างมาก “ทำไมไม่ควรตั้งแอร์ที่ 26 องศา?” คำเตือนจากช่างแอร์ทำให้หลายคนเพิ่งรู้ตัวว่า พวกเขาอาจเข้าใจผิดและใช้ผิดวิธีมานานหลายปี

ก่อนอื่น มาทำความเข้าใจกันว่า ทำไมหลายคนถึงชอบตั้งแอร์ที่ 26 องศา เพราะเป็นระดับที่รู้สึกไม่ร้อนเกินไป ไม่เย็นเกินไป เย็นสบายกำลังดี แต่ผู้เชี่ยวชาญด้านระบบปรับอากาศกลับแนะนำว่า การตั้งอุณหภูมิสูงเกินไป นอกจากจะทำให้แอร์ทำงานหนักโดยไม่จำเป็น เสียพลังงานโดยเปล่าประโยชน์แล้ว ยังอาจส่งผลเสียต่อสุขภาพในระยะยาว

ดังนั้นการตั้งอุณหภูมิให้เหมาะสมจึงสำคัญมาก เพื่อให้ทั้งประหยัดพลังงาน เย็นสบาย และปลอดภัยต่อร่างกาย

ช่างแอร์ผู้มีประสบการณ์มักแนะนำให้ตั้งอุณหภูมิแอร์ไม่เกิน 25 องศา โดยทั่วไปแล้ว 24 องศาถือว่าเป็นระดับที่เหมาะสมที่สุด เพราะในช่วงอุณหภูมินี้ เครื่องปรับอากาศจะทำงานได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น เย็นเร็ว ประหยัดพลังงาน และไม่เปลืองค่าไฟ

จากสถิติพบว่า หากลดอุณหภูมิลงเพียง 1 องศา อาจช่วยประหยัดไฟได้ถึง 5–10% ซึ่งถือว่าเป็นตัวเลขที่ไม่น้อยเลยสำหรับบ้านที่เปิดแอร์เป็นประจำ

John Tekeridis

นอกจากเรื่องค่าไฟแล้ว การตั้งอุณหภูมิอย่างเหมาะสมยังช่วยดูแลสุขภาพอีกด้วย ในวันที่อากาศร้อนจัด การมีห้องที่เย็นสบายจะช่วยลดความเสี่ยงของอาการเพลียแดด หรือความเครียดจากความร้อน ทำให้ร่างกายไม่เหนื่อยล้าเกินไป แต่ถ้าตั้งแอร์ไว้สูงเกินไป ความชื้นในห้องอาจเพิ่มขึ้น เป็นแหล่งเพาะเชื้อแบคทีเรียและเชื้อรา ซึ่งอาจทำให้เกิดปัญหาเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจได้

สรุปคือหากต้องการความเย็นที่พอดี ประหยัดพลังงาน และดีต่อสุขภาพ ควรตั้งอุณหภูมิแอร์ให้เหมาะสมตามคำแนะนำของผู้เชี่ยวชาญ จะช่วยให้บ้านเย็นสบาย มีคุณภาพอากาศดี และปลอดภัยต่อทุกคนในครอบครัว