ผู้เขียน: admin

  • KUBET – เว็บระดับโลก จัดอันดับ 2 น้ำ ดื่มไปเหมือน “ลงโทษตับ” อันตรายมากที่สุด คนไทยดื่มกันทุกวัน!

    เว็บไซต์ด้านโภชนาการระดับโลก จัดอันดับ 2 เครื่องดื่ม บริโภคเป็นประจำเหมือนกับการ “ลงโทษตับ” เป็นอันตรายมากที่สุด แต่คนยังดื่มกันทุกยุค!

    ตับเหมือนกับเครื่องกรองเลือดของร่างกาย ซึ่งทำงานหลายพันล้านภารกิจสำคัญในชีวิต และหนึ่งในภารกิจที่สำคัญที่สุดคือการกรองสารพิษออกจากเลือด ทุกสิ่งที่คุณรับประทานผ่านทางระบบย่อยอาหารจะถูกกรองผ่านตับ เกือบทุกมิลลิลิตรของเลือดในร่างกายคุณจะต้องไหลผ่านตับ ตับจะแยกและทำความสะอาดสารเคมี สารอาหาร ยา แอลกอฮอล์ และสารพิษต่างๆ ในเลือดก่อนที่เลือดจะไหลไปทั่วร่างกาย

    หากตับไม่ทำงานอย่างเต็มประสิทธิภาพ ร่างกายของคุณจะถูกสารพิษล้อมรอบ และตามข้อมูลจากเว็บไซต์ด้านโภชนาการของสหรัฐอเมริกา Eat This, Not That! ระบุว่าสิ่งที่เราดื่มเข้าไปในร่างกายนั้น สามารถมีผลกระทบอย่างมากต่อตับ โดยย้ำเตือนถึง 2 เครื่องดื่มที่ “ควรหลีกเลี่ยง” เนื่องจากเป็นอันตรายต่อตับที่สุด พร้อมอธิบายเหตุผลว่าที่ชัดเจนว่าทำไมมันถึงเป็นอันตราย

    เครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์

    ไม่น่าแปลกใจเลยที่ “เครื่องดื่มแอลกอฮอล์” จะถูกจัดอันดับเป็นอันตรายต่อการทำงานของตับ ผู้คนรู้ดีว่าการดื่มมากเกินไปสามารถทำให้เกิดโรคตับแข็ง ซึ่งจะทำให้เนื้อตับที่มีสุขภาพดีถูกแทนที่ด้วยเนื้อตับที่เป็นแผลเป็น และในที่สุดอาจนำไปสู่การเสียชีวิต หรือจำเป็นต้องได้รับการปลูกถ่ายตับเพื่อความอยู่รอด

    แต่การเกิดความเสียหายไม่ใช่เรื่องที่เกิดขึ้นในชั่วข้ามคืน ตามระบบการแพทย์ของสหรัฐอเมริกา Johns Hopkins Medicine ผู้ที่ดื่มแอลกอฮอล์จะผ่านหลายขั้นตอนก่อนที่ตับจะเสียหาย ขั้นตอนสำคัญคือการสะสมไขมันภายในเซลล์ตับ ที่เรียกว่าไขมันพอกตับ และการอักเสบเฉียบพลันจากแอลกอฮอล์ ซึ่งจะนำไปสู่การตายของเซลล์ตับและการสร้างแผลเป็น กระทั่งตับแข็งซึ่งเป็นขั้นตอนสุดท้ายที่อันตรายมากของโรคไขมันพอกตับ

    “เกือบทุกคนที่ดื่มแอลกอฮอล์มากๆ แม้แค่ในคืนเดียวก็จะมีภาวะไขมันพอกตับในระดับใดระดับหนึ่ง” Dr.Rockford Yapp แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านระบบทางเดินอาหาร โรงพยาบาล Advocate Good Samaritan ในสหรัฐอเมริกา กล่าว

    ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคสหรัฐฯ (CDC) กำหนดว่าการดื่มแอลกอฮอล์มากเกินไป คือการดื่มมากกว่า 15 แก้วต่อสัปดาห์สำหรับผู้ชาย และ 8 แก้วต่อสัปดาห์สำหรับผู้หญิง ซึ่งหนึ่งแก้วจะเท่ากับเบียร์ 350 มล. ไวน์ 150 มล. หรือสุรา 45 มล. ข่าวดีคือ ไขมันพอกตับสามารถฟื้นฟูได้ โดยจะจะค่อยๆ หายไป หากหยุดดื่มแอลกอฮอล์ 

    น้ำอัดลมและเครื่องดื่มที่มีน้ำตาล

    หากใส่ใจสุขภาพ คงทราบดีว่าเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลคือสาเหตุหลักของการเกิดโรคอ้วน แต่รู้ไหมว่าน้ำอัดลม เครื่องดื่มเกลือแร่ น้ำผลไม้ที่มีน้ำตาล ล้วนสามารถเพิ่มไขมันในตับได้ โดยน้ำตาลและไซรัปในเครื่องดื่มเหล่านี้ จะถูกเปลี่ยนเป็นไขมันโดยตับ จากนั้นไขมันเหล่านั้นจะถูกเก็บไว้ในเซลล์ตับ ซึ่งนำไปสู่ภาวะไขมันพอกตับที่ไม่เกี่ยวกับแอลกอฮอล์ (NAFLD) ซึ่งมีผลกระทบต่อ 30% ของผู้ใหญ่ในสหรัฐอเมริกา

    ในความเป็นจริง โรคอ้วนและเบาหวานประเภท 2 ถูกมองว่าเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้เกิดภาวะตับไขมันตามข้อมูลจาก American Gastroenterological Association  ขณะที่ Dr. Waqas Mahmood แพทย์จากโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยเพนซิลเวเนีย กล่าวว่า “ในบรรดาเครื่องดื่มที่มีน้ำตาล น้ำอัดลมคือสิ่งที่เลวร้ายที่สุดในการทำร้ายตับ”

    แล้วกาแฟล่ะ? ผลกระทบของกาแฟต่อสุขภาพตับขึ้นอยู่กับวิธีการดื่ม หากดื่มกาแฟแบบธรรมดา กาแฟอาจจะมีประโยชน์ต่อสุขภาพตับ เพราะกาแฟมีสารต้านอนุมูลอิสระหลายชนิดที่สามารถช่วยป้องกันมะเร็งบางชนิด รวมถึงมะเร็งตับ แต่ถ้าดื่มกาแฟที่มีน้ำตาลมาก การดื่มกาแฟนั้นก็อาจเป็นอันตรายเหมือนน้ำอัดลมได้เช่นกัน

  • KUBET – เงินดิจิทัลเฟส 3 นายกฯ ถกบอร์ดกระตุ้นเศรษฐกิจ 10 มี.ค.นี้

    เงินดิจิทัลเฟส 3 เงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท นายกฯ ถกบอร์ดกระตุ้นเศรษฐกิจ 10 มี.ค. 68

    น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จะเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ ครั้งที่ 1/2568 ในวันที่ 10 มี.ค. นี้ เวลา 10.00 น. คาดว่าจะมีการพิจารณาโครงการเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท เฟส 3 สำหรับบุคคลทั่วไปที่ได้ลงทะเบียนแล้ว

    ทั้งนี้ เงินดิจิทัลเฟส 3 แจก 10,000 บาท ผ่านดิจิทัลวอลเล็ต กระทรวงการคลัง เคยยืนยันว่าจะเริ่มดำเนินการได้ในช่วงไตรมาสที่ 2 คือ ระหว่างเดือน เม.ย.-มิ.ย. 68

    อ่านเพิ่มเติม

  • KUBET – ย้อนเส้นทาง “ผู้กำกับโจ้” คดีคลุมถุงดำ จากตำรวจไฮโซ สู่วาระสุดท้ายจบชีวิตในเรือนจำ

    ย้อนเส้นทาง “ผู้กำกับโจ้” คดีคลุมถุงดำผู้ต้องหา จากตำรวจไฮโซขับรถหรูมีแฟนเป็นดารา สู่วาระสุดท้ายจบชีวิตในเรือนจำ

    เมื่อคืนวันที่ 7 มีนาคม 2568 เวลาประมาณ 23.00 น. พ.ต.ท.ณัฐพล รัตน์สุภาพงศ์ สารวัตร (สอบสวน) สน.ประชาชื่น ได้รับแจ้งเหตุพบศพนักโทษชายผูกคอตายในเรือนจำกลางคลองเปรม ถนนงามวงศ์วาน แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กรุงเทพฯ

    ผู้เสียชีวิตคือ พ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธนผล หรือที่รู้จักในชื่อ “ผู้กำกับโจ้” อดีตผกก. สภ.เมืองนครสวรรค์ ผู้ต้องขังคดีทรมานผู้ต้องหาจนเสียชีวิต ศพถูกพบภายในห้องขังหมายเลข 50 อาคารแดน 5 สภาพผูกคอตาย

    หลังเกิดเหตุ ศพยังอยู่ภายในเรือนจำ และในช่วงเช้าวันที่ 8 มีนาคม 2568 หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมถึงอัยการ เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน และแพทย์จากสถาบันนิติเวช โรงพยาบาลตำรวจ จะเข้าทำการชันสูตรเพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิต

    คดีประวัติศาสตร์: จากคลุมถุงดำสู่คำพิพากษาประหารชีวิต

    พ.ต.อ.ธิติสรรค์ ถูกศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลางตัดสิน ประหารชีวิต ก่อนลดโทษเหลือ จำคุกตลอดชีวิต ฐานร่วมกันซ้อมทรมาน นายจิระพงษ์ หรือ “มาวิน” ผู้ต้องหาคดียาเสพติดจนเสียชีวิต คดีนี้ได้รับความสนใจอย่างมาก เนื่องจากมี คลิปหลักฐาน เผยแพร่สู่สาธารณะ กลายเป็นหนึ่งในกรณีที่สะเทือนวงการตำรวจไทย

    • 5 สิงหาคม 2564 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองนครสวรรค์ จับกุมผู้ต้องหา 2 ราย พร้อมของกลางยาเสพติดกว่า 100,000 เม็ด มีรายงานว่า มีการเรียกรับเงินสินบน 2 ล้านบาท แต่ผู้ต้องหายอมจ่ายเพียง 1 ล้านบาท เมื่อต่อรองไม่สำเร็จ พ.ต.อ.ธิติสรรค์ และพวก ใช้ถุงดำคลุมศีรษะ “มาวิน” จนขาดอากาศหายใจเสียชีวิต ศพของมาวินถูกส่งไปโรงพยาบาล พร้อมมีการรายงานว่าเสียชีวิตจาก “พิษสารแอมเฟตามีน” ผู้ต้องหาหญิงที่ถูกจับกุมพร้อมกัน ได้รับการปล่อยตัว โดยถูกสั่งห้ามเปิดเผยเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
    • 22 สิงหาคม 2564 นายเดชา กิตติวิทยานันท์ ทนายความโพสต์ข้อความผ่านเพจเฟซบุ๊ก “ทนายคลายทุกข์” ระบุว่าได้รับข้อมูลจากตำรวจชั้นผู้น้อยที่อยู่ในเหตุการณ์ทรมานผู้ต้องหาจนเสียชีวิตที่ สภ.เมืองนครสวรรค์ จึงขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องและสาธารณชนติดตามเรื่องนี้เพื่อให้ความเป็นธรรมกับนายจิระพงศ์
    • 24 สิงหาคม 2564 นายษิทรา เบี้ยบังเกิด ทนายความ ได้เผยแพร่คลิปวิดีโอโดยระบุว่าได้รับจากตำรวจชั้นผู้น้อยที่รับไม่ได้กับพฤติกรรมของ พ.ต.อ. ธิติสรรค์ คลิปดังกล่าวมีความยาว 1.21 นาที เป็นภาพเหตุการณ์ที่มีชายกลุ่มหนึ่งแต่งกายคล้ายตำรวจ คนหนึ่งนำถุงคลุมศีรษะของผู้ชายที่นั่งอยู่โดยถูกใส่กุญแจมือไว้ ชายที่นั่งอยู่พยายามดิ้นรนจนกระทั่งหมดสติล้มลงบนพื้น

      หลังจากคลิปถูกเผยแพร่ไม่กี่ชั่วโมง พล.ต.อ. สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ได้แถลงข่าวด่วนที่กองบัญชาการตำรวจนครบาลว่าได้มอบหมายให้จเรตำรวจแห่งชาติเข้าไปตรวจสอบข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นทั้งหมด และต่อมา ผบ.ตร. ได้ลงนามในคำสั่งให้ตำรวจ สภ.เมืองนครสวรรค์ ที่เกี่ยวข้องทั้ง 7 นายออกจากราชการมีผลตั้งแต่ 24 ส.ค. 2564 ได้แก่ พ.ต.อ. ธิติสรรค์, พ.ต.ต. รวิโรจน์ ดิษทอง, ร.ต.อ. ทรงยศ คล้ายนาค, ร.ต.ท. ธรณินทร์ มาศวรรณา, ด.ต. วิสุทธิ์ บุญเขียว, ด.ต. ศุภากร นิ่มชื่น และ ส.ต.ต. ปวีณ์กร คำมาเร็ว

    • 25 สิงหาคม 2564 ศาลจังหวัดนครสวรรค์อนุมัติหมายจับ พ.ต.อ. ธิติสรรค์ และพวกรวม 7 คน ข้อหาเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบทำให้ผู้อื่นเสียหาย ร่วมกันข่มขืนใจให้ผู้อื่นกระทำการใด และร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยทรมานหรือกระทำทารุณโหดร้าย วันรุ่งขึ้นตำรวจเปิดเผยว่าจับกุมผู้ต้องหาได้แล้ว 5 ราย อีก 2 คน คือ พ.ต.อ.ธิติสรรค์ และ ร.ต.ท. ธรณินทร์ รองสารวัตรป้องกันปราบปราม ยังหลบหนี

    • 26 สิงหาคม 2564 พ.ต.อ. ธิติสรรค์ติดต่อขอมอบตัวและถูกควบคุมตัวจาก สภ.เมืองแสนสุข จ.ชลบุรี มาแถลงข่าวที่กองบังคับการปราบปราม ขณะที่ ร.ต.ท. ธรณินทร์ถูกจับกุมวันนี้เช่นกัน

    • 27 สิงหาคม 2564 ตำรวจนำตัว พ.ต.อ. ธิติสรรค์ และ ร.ต.ท. ธรณินทร์ ไปสอบปากคำที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครสวรรค์ จากนั้นได้ขออำนาจฝากขังพร้อมคัดค้านกันประกันตัว โดยให้เหตุผลว่าเป็นคดีอุกฉกรรจ์สะเทือนขวัญ และผู้ต้องหาทั้งหมดเป็นอดีตตำรวจ ถ้าหากได้รับการประกันตัว อาจจะออกมายุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน ทำให้ส่งผลกับรูปคดี ศาลอนุญาต ส่งตัวเข้าเรือนจำกลางพิษณุโลก

    • 8 มิถุนายน 2565 ศาลอาญาคดีทุจริตฯ พิพากษา ประหารชีวิต พ.ต.อ.ธิติสรรค์ แต่ลดโทษเหลือจำคุกตลอดชีวิต ผู้ร่วมกระทำผิดบางรายได้รับโทษจำคุกตลอดชีวิต ส่วน ด.ต.ศุภากร จำเลยที่ 6 ได้รับโทษจำคุก 5 ปี 4 เดือน

    ประวัติ ผู้กำกับโจ้ 

    ผู้กำกับโจ้ หรือเป็นที่รู้จักกันในชื่อเดิมคือ สารวัตรโจ้ หนุ่มนักเรียนเตรียมทหารรุ่น 41 นักเรียนนายร้อยรุ่น 57 ตำแหน่งสุดท้ายคือ ผกก.สภ.เมืองนครสวรรค์ 

    โดยมีฉายา ฉายาว่า โจ้ เฟอร์รารี่ เพราะเขาเป็นเจ้าของรถสปอร์ตยี่ห้อหรูหลายคัน ที่มีราคามูลค่ามากกว่า 10 ล้านบาทเลยก็ว่าได้ เรียกว่าเป็นนายตำรวจที่โด่งดังและรู้จักกันในแวดวงสังคมไฮโซ อีกคนหนึ่งเลยก็ว่าได้

    ผู้กำกับโจ้ หรือ สารวัตรโจ้ ก่อนเกิดคดีคลุมถุงกำ เป็นที่รู้จักกันอย่างกว้างขวางในวงการบันเทิงไทย เพราะว่าเขาคนนี้เคยเป็นอดีตคนรู้ใจของนักแสดงสาว และถึงกับมีข่าวขอแต่งงานกันมาแล้ว แต่ทั้งคู่ก็ได้เลิกรากันไปจากประเด็นที่ ผู้กำกับโจ้ มีภรรยาและลูกอยู่แล้ว

     

     

  • KUBET – 8 เครื่องดื่มช่วงเช้าทดแทนกาแฟ ดีต่อสุขภาพ คืนความสดชื่นได้ไม่แพ้กัน

    สาว ๆ ที่ต้องตื่นเช้าไปทำงาน หรืออยากให้ยามเช้าของตัวเองสดชื่น มักนึกถึงเครื่องดื่มกาแฟมาเป็นอันดับแรก และเป็นเครื่องดื่มยอดฮิตที่ดื่มจนติดเป็นนิสัยในทุกเช้า แต่หากใครที่กำลังอยากเลี่ยงกาแฟ มองหาเครื่องดื่มทดแทนที่สามารถทำหน้าที่ช่วยให้ร่างกายตื่นตัวได้ไม่แพ้กัน ลองมารู้จักกับ 8 เครื่องดื่มต่อไปนี้ ที่จะช่วยให้คุณรู้สึกสดชื่น แถมยังได้ประโยชน์เพื่อสุขภาพอีกด้วย

    8 เครื่องดื่มช่วงเช้าทดแทนกาแฟ

    1.น้ำแอปเปิ้ลไซเดอร์

    น้ำแอปเปิ้ลไซเดอร์มีคุณสมบัติช่วยดีท็อกซ์ร่างกายและปรับสมดุลระบบย่อยอาหาร แนะนำให้ผสมน้ำอุ่น 1 แก้ว กับน้ำแอปเปิ้ลไซเดอร์ 1 ช้อนโต๊ะ และน้ำผึ้งเล็กน้อย ดื่มตอนเช้าทดแทนกาแฟ จะช่วยให้คุณรู้สึกกระปรี้กระเปร่าได้อย่างไม่น่าเชื่อ

    2.น้ำเปล่าผสมผงโกโก้

    โกโก้ดิบมีสารต้านอนุมูลอิสระสูงและช่วยกระตุ้นระบบเผาผลาญ เพียงแค่ผสมน้ำอุ่นกับผงโกโก้ 1-2 ช้อนชา อาจเติมน้ำผึ้งเพื่อเพิ่มรสชาติสักเล็กน้อยสำหรับมือใหม่ รับรองว่าเป็นทางเลือกที่ดีต่อใจอย่างแน่นอน

    3.น้ำผักคั้นแยกกาก

    น้ำผักที่ผ่านการคั้นแบบสด ๆ เช่น แครอท เซเลอรี่ หรือผักโขม อุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุที่ช่วยเพิ่มพลังงานสมอง เลือกส่วนผสมตามใจชอบแล้วนำไปปั่นแยกกาก เติมน้ำแข็งลงไป ดื่มได้แบบเย็นชื่นใจ แถมยังได้คุณค่าทางโภชนาการอีกด้วย

    4.น้ำหมักผลไม้

    น้ำหมักผลไม้ หรือ Infused Water เป็นเครื่องดื่มทำง่ายและช่วยเพิ่มความสดชื่นในทุกเช้าได้ไม่ยาก ลองใส่ผลไม้ เช่น มะนาว สตรอเบอร์รี่ หรือแตงกวาลงในน้ำเปล่า แล้วแช่เย็นข้ามคืนเอาไว้ คุณจะได้เครื่องดื่มที่มีกลิ่นหอม ได้รสชาติหวานเบา ๆ จากผลไม้ที่ผสมลงไป เป็นเครื่องดื่มที่จะปลุกพลังในตัวออกมาได้ไม่ยาก

    5.น้ำผสมผิวเลม่อนขูดฝอย

    ผิวเลม่อนมีน้ำมันหอมระเหยที่ช่วยทำให้รู้สึกผ่อนคลายเมื่อได้กลิ่น และยังช่วยให้รู้สึกสดชื่น เพียงขูดผิวเลม่อนเล็กน้อยลงในน้ำอุ่น จิบเบา ๆ ยามเช้า คุณจะได้เครื่องดื่มที่ทั้งหอมและมีคุณสมบัติช่วยเสริมภูมิคุ้มกันไปในตัว

    6.กาแฟชิโครี

    กาแฟชิโครีทำจากรากพืชที่นำมาคั่วและบด มีรสชาติคล้ายกาแฟแต่ไม่มีคาเฟอีน เป็นเครื่องดื่มทดแทนกาแฟสำหรับคนที่ยังอยากได้กลิ่นของกาแฟอยู่ ซึ่งพืชชนิดนี้ช่วยเสริมสุขภาพลำไส้ เป็นสมุนไพรที่มีประโยชน์อย่างมากเลยทีเดียว

    7.น้ำชาผู่เอ๋อ

    ชาผู่เอ๋อเป็นชาหมักยอดฮิตของชาวจีนที่มีสารต้านอนุมูลอิสระสูง ช่วยลดความเครียดและกระตุ้นการย่อยอาหาร รสชาติของชานี้มีความลุ่มลึกน่าค้นหา เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการความผ่อนคลายและสดชื่นในยามเช้า

    8.กาแฟข้าวบาร์เลย์

    กาแฟข้าวบาร์เลย์ หรือ Barley Tea มีกลิ่นหอมละมุนจากการคั่วเมล็ดข้าวบาร์เลย์ แต่ไม่มีคาเฟอีน มีส่วนช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของระบบย่อยอาหาร เป็นอีกทางเลือกที่ดีต่อสุขภาพ และลดความอยากกาแฟลงไปได้

    การเริ่มต้นวันใหม่ด้วยเครื่องดื่มที่มีประโยชน์ นอกจากจะช่วยลดการพึ่งพากาแฟในยามเช้าแล้ว ยังช่วยให้สุขภาพดีในระยะยาว หากคุณเป็นคนหนึ่งที่กำลังมองหาทางเลือกใหม่ที่ดีต่อสุขภาพ บอกเลยค่ะว่านี่คือเมนูเครื่องดื่มที่คุณควรลิ้มลอง

  • KUBET – นางสงกรานต์ 2568 “ทุงสะเทวี” เสด็จไสยาสน์หลับเนตรเหนือหลังครุฑ เปิดคำทำนายปีนี้

    ประกาศ สงกรานต์ 2568 นางสงกรานต์ ทรงนามว่า ทุงสะเทวี เสด็จไสยาสน์เหนือหลังครุฑ พร้อมเปิดคำทำนายปีนี้

    เมื่อวันที่ 6 มี.ค. 2568 ฝ่ายโหรพราหมณ์ กองพระราชพิธี สำนักพระราชวัง ได้ประกาศ สงกรานต์ 2568 ความว่า

    ปีมะเส็ง (มนุษย์ผู้ชาย ธาตุไฟ) สัปตศก จุลศักราช ๑๓๘๗ ทางจันทรคติ เป็น อธิกวาร ทางสุริยคติ เป็น ปกติสุรทิน

    วันที่ ๑๔ เมษายน เป็นวันมหาสงกรานต์ ทางจันทรคติ ตรงกับวันอาทิตย์ แรม ๑ ค่ำ เดือน ๕ เวลา ๐๔ นาฬิกา ๒๘ นาที ๒๘ วินาที

    นางสงกรานต์ ทรงนามว่า ทุงสะเทวี ทรงพาหุรัด ทัดดอกทับทิม อาภรณ์แก้วปัทมราค ภักษาหารอุทุมพร (มะเดื่อ) พระหัตถ์ขวาทรงจักร พระหัตถ์ซ้ายทรงสังข์ เสด็จไสยาสน์หลับเนตรมาเหนือหลังครุฑเป็นพาหนะ

    วันที่ ๑๖ เมษายน เวลา ๐๘ นาฬิกา ๒๗ นาที ๓๖ วินาที เปลี่ยนจุลศักราชใหม่ เป็น ๑๓๘๗ ปีนี้ วันศุกร์ เป็น ธงชัย, วันศุกร์ เป็น อธิบดี, วันพฤหัสบดี เป็น อุบาทว์, วันอาทิตย์ เป็น โลกาวินาศ

    ปีนี้ วันพุธ เป็นอธิบดีฝน บันดาลให้ฝนตก ๖๐๐ ห่า ตกในโลกมนุษย์ ๖๐ ห่า ตกในมหาสมุทร ๑๒๐ ห่า ตกในป่าหิมพานต์ ๑๘๐ ห่า ตกในเขาจักรวาล ๒๔๐ ห่า นาคให้น้ำ ๕ ตัว

    เกณฑ์ธัญญาหาร ได้เศษ ๖ ชื่อ ลาภะ ข้าวกล้าในภูมินาจะได้ผล ๙ ส่วน เสีย ๑ ส่วน ธัญญาหาร พลาหาร มัจฉมังสาหาร จะบริบูรณ์ อุดมสมบูรณ์ ประชาชนทั้งหลายจะเป็นสุขสมบูรณ์แล

    เกณฑ์ธาราธิคุณ ตกราศีอาโป (น้ำ) น้ำมาก

    คำทำนาย สงกรานต์ 2568

    วันอาทิตย์ เป็นวันมหาสงกรานต์ ไร่นาเรือกสวน เผือกมัน มิสู้แพงแลฯ , วันจันทร์ เป็นวันเนา เกลือจะแพง นางพระยาจะร้อนใจ มักจะเกิดความไข้ต่าง ๆ , วันพุธ เป็นวันเถลิงศก ราชบัณฑิต ปุโรหิตโหราจารย์ จะมีสุขสำราญเป็นอันมากแลฯ , นางสงกรานต์ ไสยาสน์หลับเนตร (นอนหลับตา) พระมหากษัตริย์จะเจริญรุ่งเรืองดี

    คำทำนาย สงกรานต์ 2568

  • KUBET – ลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 2568 คลังย้ำ เปิดทันภายในเดือน มี.ค. นี้

    ลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 2568 ลงทะเบียนคนจน คลังเร่งสรุปคุณสมบัติผู้ขอรับสิทธิ์ ย้ำเปิดลงทะเบียนภายในเดือน มี.ค. 68

    นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่ากระทรวงการคลัง ระบุ คณะอนุกรรมการบริหารข้อมูล โครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ จะมีการนัดประชุมในเร็วๆ นี้ เพื่อนำข้อสรุปเรื่อกงารเปิดลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ มาเสนอคณะกรรมการประชารัฐสวัสดิการเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ที่มีตนเป็นประธาน โดยตคาดว่าจะได้ข้อสรุปทุกอย่าง ก่อนที่จะส่งเข้า ครม. ตามขั้นตอน

    “การเปิดลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 2568 ยืนยันว่าทำได้แน่นอน ซึ่งกระบวนการลงทะเบียนไม่ได้แปลว่าต้องเสร็จสิ้น และปิดลงทะเบียนภายในเดือน มี.ค. 68 ดังนั้น เริ่มเปิดดำเนินการปลายเดือน มี.ค. นี้ ก็ยังคงอยู่ในกรอบเวลาที่กำหนด” นายจุลพันธ์ กล่าว

    สำหรับการปรับปรุงเกณฑ์คุณสมบัติผู้รับบัตรสวัสดิการแห่งรัฐหรือไม่นั้น ทางอนุกรรมการยังไม่ได้ส่งข้อสรุปมาให้พิจารณา แต่ทั้งนี้จะต้องดุให้รอบคอบที่สุด โดยเฉพาะเรื่องรายได้ และทรัพย์สินให้เหมาะสมที่สุด

    คุณสมบัติผู้ขอรับสิทธิ์บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ บัตรคนจน 

    1. เป็นบุคคลสัญชาติไทยอายุ 18 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป
    2. มีรายได้คนละไม่เกิน 100,000 บาทต่อปี ภายในครอบครัว มีรายได้เฉลี่ยไม่เกิน 100,000 บาทต่อคนต่อปี
    3. ทรัพย์สินทางการเงิน ได้แก่ เงินฝาก พันธบัตร ตราสารหนี้ต่างๆ ต้องไม่เกิน 100,000 บาทต่อคนครอบครัว ไม่เกิน 100,000 บาทต่อคนต่อปี เช่นเดียวกัน
    4. ต้องไม่มีกรรมสิทธิ์ในอสังหาริมทรัพย์ หรือที่ดิน เกินจากเกณฑ์ที่กระทรวงการคลังกำหนด
    5. ต้องไม่มีบัตรเครดิต

    บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 2568 ใครต้องลงทะเบียนบ้าง

    • ผู้ที่ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐเดิมจำนวน 14.5 ล้านคน ไม่ต้องลงทะเบียนใหม่ กระทรวงการคลังจะนำรายชื่อเข้าสู่ระบบคัดกรองอัตโนมัติ

    กลุ่มที่ต้องลงทะเบียนใหม่

    • ประชาชนที่ยังไม่มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ จำนวน 10 ล้านคน
    • ประชาชนที่อายุครบ 18 ปี
    • กลุ่มที่ตกหล่นจากการลงทะเบียนในปี 2565 จำนวน 800,000 คน

    วิธีลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 2568 ผ่านแอปทางรัฐ

    การลงทะเบียนรอบใหม่ในปี 2568 รัฐบาลจะใช้แอปพลิเคชัน “ทางรัฐ” Super App เป็นช่องทางหลักในการลงทะเบียนและยืนยันตัวตน

    ขั้นตอนการลงทะเบียนผ่านแอป ทางรัฐ

    1. ดาวน์โหลดแอป “ทางรัฐ” ได้ทั้ง iOS และ Android
    2. ลงทะเบียนและกรอกข้อมูลส่วนตัว
    3. ยืนยันตัวตนผ่านแอป ThaiD ของกรมการปกครอง
    4. ตรวจสอบสิทธิ์หลังจากลงทะเบียนเสร็จสิ้น

    อ่านข่าวบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 68

  • KUBET – “แอฟ ทักษอร” ลุคฟินาเล่สวยบนรันเวย์ เผยโมเมนต์ “นนกุล “มารับมาส่ง

    แอฟ ทักษอร เฉิดฉายบนรันเวย์กับชุดเดรสซีทรูบางเบาสวยสดใส นนกุล มารับถึงงานเลยทีเดียว

    นางเอกสาว แอฟ ทักษอร ได้มาร่วมงานฉลองครบรอบ 12 ปีแบรนด์ Cher’Z (เชอ-ซี) ของ กรรณิการ์ ซาย หรือ กรรณิการ์ วนะเกียรติกุล พร้อมกับเปิดคอลเลกชั่นใหม่ “นิว แชปเตอร์” มากับชุดเดรสซีทรูลายลูกไม้สวยหวานเหมาะกับเธอสุดๆ ซึ่งเป็นชุดฟินาเล่ที่สร้างเสียงฮือฮาได้สนั่นรันเวย์เลยทีเดียว 

    นอกจากนี้ แอฟ ทักษอร ยังได้ให้สัมภาษณ์โมเมนต์ที่ไปออกรายการกับ น้องปีใหม่ ลูกสาวสุดที่รัก “เป็นครั้งแรกที่ได้ยินประโยคว่าเชื่อในแม่ เป็นครั้งแรก แต่ก็มีหลายๆ เหตุการณ์ที่เขาเคยพูดมาบ้างแล้ว”

    “ในรายการไม่ได้มีสคริปต์อะไรเลย เป็นคำพูดมาจากใจเขาเอง มาจากสิ่งที่เขาคิด เขายังงงมาถามเลยว่าคุณแม่ร้องไห้ทำไม เราก็อธิบายไปว่ายังไม่เป็นแม่ยังไม่รู้หรอก” 

    “เขาโตเป็นผู้ใหญ่แล้ว เราต้องคิดเยอะมีความละเอียดอ่อนในทุกเรื่อง ปรับตัวในทุกเรื่องไปตลอดไม่จบสิ้น อาชีพแม่ไม่มีศาสตร์ไหนไปศึกษาได้ ไม่มีสูตรสำเร็จ ไม่ง่ายเลยจริงๆ” 

    “ที่เขาเป็นทุกวันนี้ได้ไม่ใช่แค่แอฟคนเดียว มีคุณตาคุณยายคุณปู่คุณย่า เพื่อนที่โรงเรียนเก่า เพื่อนๆ ทุกคน หล่อหลอมให้เขาเป็นเขามา 10 ปี”  

    “วันนี้เขาโตจะก่อนจะเข้าเป็นวัยรุ่น เราต้องตามเข้าให้ทันแล้วในเรื่องต่างๆ การเข้าสังคม เทคโนโลยีต่างๆ”

    “จริงๆ ไม่ได้ตั้งใจแต่ว่ารายการเขาบอกแล้วว่าจะสัมภาษณ์ในทุกๆ แง่มุม มันพูดถึงได้ มันปฏิเสธไม่ได้เพราะเขาก็เป็นส่วนหนึ่งในชีวิต แล้วแอฟไม่ได้ไปแตะให้ใครเสียหาย แอฟไม่รู้สึกอะไร รู้สึกสบายใจที่จะพูดถึงสงกรานต์ แอฟสบายใจจริงๆ เวลาอาจจะมีส่วน สำคัญที่สุดไม่ใช่เรื่องเวลา แต่เป็นเรื่องของการปฏิบัติดีต่อกันมากกว่า” 

    “ผ่าตัดตา จากกล้ามเนื้อตาอ่อนแรง เป็นมาประมาณ 5 ปีแล้ว แต่ตอนนี้เป็นปกติแล้วค่ะ อาจจะต้องดูแลมากกว่าปกติไม่โดนแสงแรงๆ ถ้าไม่ทำงานก็ไม่แต่งหน้าและจะใส่แว่นกันตากันแดด” 

    “วาเลนไทน์เขาโพสต์ก่อนนะคะ ดีเหมือนปีที่แล้ว ได้ใช้เวลากับปีใหม่และนน เป็นการไปก่อนวาเลนไทน์ พิเศษสุดๆ สำหรับแอฟคือการใช้เวลานะคะไม่ได้ตอบแบบมารยาทนะคะ เวลามีความหมายมากที่สุด ตอนนี้กำลังดี ไม่มากไม่น้อย ยังไม่มีงานยาวๆ ยังมารับเหมือนเดิม วันนี้เขาก็มารับ (ยิ้ม) ถ้าว่างก็เจอกันค่ะ”  

  • KUBET – หมอรับรองว่าได้ผลจริง ทำสิ่งนี้หลังมื้ออาหาร ช่วยคุมน้ำตาล-ลดน้ำหนัก ใครๆ ก็ทำได้

    แค่ทำสิ่งนี้หลังมื้ออาหาร ช่วยคุมน้ำตาลและลดน้ำหนัก! แพทย์รับรองว่าได้ผลจริง อย่ารอจนผ่านไป 1–2 ชั่วโมง แล้วค่อยเริ่มคุณอาจเคยรู้สึกง่วงและมึนงงหลังจากรับประทานอาหารจนอิ่มหรือไม่? ที่จริงแล้วปรากฏการณ์นี้เกี่ยวข้องกับระดับน้ำตาลในเลือดที่สูงเกินไปหรือมีความผันผวนมาก

    จางหลานเกอ (อู๋ฉีอิ่ง) อดีตแพทย์เด็กแห่งโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยไต้หวัน และ YouTuber ระบุผ่านโพสต์ให้ความรู้ว่า ระดับน้ำตาลในเลือดจะขึ้นสูงสุดประมาณ 1 ชั่วโมงหลังมื้ออาหาร หากผ่านไป 2 ชั่วโมงแล้วยังเกิน 200 mg/dL ถือว่าเป็นเบาหวาน ส่วนระดับระหว่าง 140–200 mg/dL จัดว่าอยู่ในเกณฑ์สูงกว่าปกติ

    จางหลานเกอ แนะนำว่า สำหรับผู้ที่มีน้ำตาลในเลือดสูงหรือเป็นเบาหวาน “อย่านั่งนิ่งหลังมื้ออาหาร” เป็นวิธีที่ง่ายและได้ผล ควรลุกขึ้นขยับร่างกาย เช่น เดินเล่น เดินอยู่กับที่ หรือวิ่งเหยาะ ๆ ช้า ๆ เพียงแค่ทำให้ร่างกายเคลื่อนไหวหลังมื้ออาหาร ก็สามารถช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด และอาจช่วยลดน้ำหนักได้อีกด้วย

    ด้าน ดร.หลี่ถังเยว่ แพทย์เฉพาะทางด้านการลดน้ำหนักและเวชศาสตร์ครอบครัว เคยแบ่งปันว่า “การวิ่งเหยาะ ๆ ช้า ๆ (Super Slow Jogging)” ไม่เพียงแต่ช่วยเสริมสร้างสุขภาพหัวใจและปอด ควบคุมระดับน้ำตาล และปรับปรุงการทำงานของอินซูลิน แต่ยังอาจช่วยพลิกกลับภาวะเบาหวานได้

    ข้อดีของการวิ่งแบบนี้คือ เป็นการออกกำลังกายที่ใช้แรงน้อย ทำได้นาน และช่วยเผาผลาญไขมันได้อย่างต่อเนื่องโดยไม่รู้สึกเหนื่อยเกินไป

    นอกจากนี้ ยังช่วยฟื้นฟูและเพิ่มประสิทธิภาพของไมโตคอนเดรีย ซึ่งเปรียบเสมือนโรงงานพลังงานของร่างกาย ทำให้ร่างกายทำงานได้ลื่นไหล แข็งแรง และมีพลังมากขึ้น อีกทั้งยังเป็นประโยชน์ต่อการควบคุมโรคเรื้อรังอีกด้วย

    Tirachard Kumtanom:

    ควรพักหลังมื้ออาหารนานแค่ไหน ก่อนเริ่มวิ่งเหยาะ ๆ ช้า ๆ (Super Slow Jogging)?

    ดร.หลี่ถังเยว่ อธิบายว่า หลังรับประทานอาหาร ระดับน้ำตาลในเลือดจะค่อย ๆ เพิ่มขึ้น และมักแตะจุดสูงสุดในช่วง 1 ชั่วโมงครึ่งถึง 2 ชั่วโมง โดยเฉพาะในผู้ป่วยเบาหวาน

    “เป้าหมายของเราคือป้องกันไม่ให้น้ำตาลพุ่งสูงถึงขีดสุด” เขากล่าว “หากเราขยับร่างกายก่อนถึงจุดสูงสุด อินซูลินจะไม่พุ่งขึ้นอย่างรวดเร็ว น้ำตาลในเลือดจะถูกควบคุมได้ดีขึ้น และความผันผวนของระดับน้ำตาลก็จะลดลง”

    ดร.หลี่ถังเยว่แนะนำว่า ควรเริ่มนับเวลาตั้งแต่ “คำแรกของมื้ออาหาร” โดยปกติใช้เวลาประมาณ 20–30 นาที ในการรับประทาน หลังจากนั้นพักสัก 5–10 นาที หากไม่มีอาการแน่นท้องหรืออึดอัดมากเกินไป ก็สามารถเริ่มวิ่งเหยาะ ๆ ช้า ๆ (Super Slow Jogging) ได้

    อย่ารอจนผ่านไป 1–2 ชั่วโมงหลังมื้ออาหารแล้วค่อยเริ่ม เพราะช่วงนั้นระดับน้ำตาลในเลือดจะพุ่งสูงขึ้นมากเกินไป การออกกำลังกายเพื่อลดน้ำตาลอาจได้ผลน้อยลง

  • KUBET – ธนาคารกสิกรไทย แจ้งลูกค้าที่ถูกเตือนรีบทำ ภายในวันที่ 9 มี.ค. 68

    ธนาคารกสิกรไทย เตือนลูกค้า K PLUS รีบยืนยันเบอร์มือถือที่ใช้บริการ ภายในวันที่ 9 มี.ค. 68 คนที่ได้รับข้อความแจ้งเตือนรีบทำด่วน

    เพจเฟซบุ๊ก KBank Live โพสต์ข้อความระบุว่า ลูกค้า K PLUS จะสามารถใช้บริการได้ 1 เบอร์มือถือเท่านั้น สำหรับลูกค้าที่ได้รับการแจ้งเตือนสามารถยืนยันเบอร์มือถือที่ใช้บริการ โดยดำเนินการผ่านหน้าจอ K PLUS ก่อนเข้าใช้บริการ ภายในวันที่ 9 มี.ค. 2568

    ทั้งนี้ ข้อควรทราบ การเพิ่มบัญชีเงินฝากที่ ไม่ใช่ บัญชีอิเล็กทรอนิกส์ (K-eSavings) บน K+ กรุณาเตรียมข้อมูลยอดเงินคงเหลือล่าสุด จากสมุดบัญชีเงินฝากกรณีไม่มีสมุดบัญชีเงินฝาก กรุณาติดต่อสาขา เพื่อทำสมุดบัญชีเงินฝากใหม่

    สอบถามเพิ่มเติม ผ่าน K PLUS เลือก “อื่นๆ” ที่แถบเมนูด้านล่าง และเลือก “ติดต่อธนาคาร” หรือโทร. 02-8888888 กด 03

  • KUBET – อ้างเป็น “คลิปหลุด ลำไย” ว่อนเน็ต เตือนภัย! ห้ามกดลิงก์เด็ดขาด มิจฉาชีพทั้งนั้น

    เตือนภัยอ้างเป็น “คลิปหลุด ลำไย” ว่อนเน็ต ห้ามกดลิงก์เด็ดขาด เป็นลิงก์มิจฉาชีพ

    จากกรณีข่าวดรามาเกี่ยวกับนักร้องลูกทุ่งชื่อดัง ลำไย ไหทองคำ และบอสแดนเซอร์ชาย ซึ่งมีหลายประเด็นที่สังคมให้ความสนใจ ขณะเดียวกันก็มีมิจฉาชีพที่อาศัยช่องว่างนี้ในการเผยแพร่คอนเทนต์ลามกอนาจาร โดยการใช้คลิปต่างๆ เช่น คลิปจากหนังโป๊หรือคลิปต่างประเทศมาแอบอ้างว่าเป็น “คลิปหลุด ลำไย” ซึ่งเป็นคำค้นหาที่ได้รับความนิยมในขณะนี้ เพื่อหลอกลวงผู้คนโดยแนบลิงก์มิจฉาชีพ

    สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้ออกมาเตือนภัย หลังพบว่ามีกลุ่มมิจฉาชีพที่มุ่งเป้าไปยังผู้ที่มีความสนใจในพฤติกรรมกามารมณ์ โดยใช้วิธีหลอกลวงต่างๆ เพื่อแสวงหาประโยชน์ทั้งทางการเงินและทางเพศจากผู้เสียหาย

    มิจฉาชีพที่มุ่งเป้าไปยังกลุ่มผู้สนใจในเนื้อหาทางเพศ มักจะใช้ 4 รูปแบบดังนี้:

    1. หลอกโอนเงินค่าซื้อ-ขายบริการทางเพศ – ในรูปแบบเพจหรือกลุ่มลับที่เสนอการซื้อขายบริการทางเพศ เมื่อเหยื่อเลือกแล้ว คนร้ายจะขอให้โอนเงินล่วงหน้า เช่น ค่าห้องหรือค่าจองเวลา
    2. หลอกถ่ายคลิปลามกอนาจาร – มิจฉาชีพจะสร้างความสัมพันธ์ออนไลน์และชักชวนให้วิดีโอคอลขณะสำเร็จความใคร่ จากนั้นใช้คลิปดังกล่าวมาข่มขู่เพื่อเรียกร้องเงิน
    3. หลอกชวนมีเพศสัมพันธ์ – จะใช้บัญชีหนุ่มหล่อสาวสวยแสดงความสนใจและนัดพบเพื่อหลับนอน ซึ่งอาจจะนำไปสู่การชิงทรัพย์ ข่มขืน หรือการแอบถ่ายคลิป
    4. หลอกขายภาพ-คลิปลามก – กลุ่มลับหรือเพจจะเสนอขายภาพหรือคลิปลามก เมื่อเหยื่อจ่ายเงินไปแล้วกลับไม่ได้รับสิ่งที่คาดหวัง แต่กลับถูกเรียกร้องเงินเพิ่ม

    สำนักงานตำรวจแห่งชาติขอให้ประชาชนระมัดระวังและไม่ตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพดังกล่าว พร้อมเตือนให้สอดส่องดูแลบุตรหลานและบุคคลในครอบครัวที่เสี่ยงต่อการตกเป็นเหยื่อของอาชญากรรมเหล่านี้

    หากมีความเสียหายจากอาชญากรรมทางเทคโนโลยี สามารถแจ้งความร้องทุกข์ได้ที่สถานีตำรวจในพื้นที่ หรือที่ศูนย์รับแจ้งความออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ www.thaipoliceonline.go.th หรือสายด่วน 1441 ตลอด 24 ชั่วโมง

    สำหรับผู้ที่นำข้อมูลหรือคลิปที่เกี่ยวข้องกับ “คลิปหลุด ลำไย” หรือข้อมูลลามกอนาจารมาเผยแพร่ โดยไม่ว่าจะเป็นคลิปจริงหรือหลอกลวง การกระทำดังกล่าวถือเป็นความผิดตาม ประมวลกฎหมายอาญา ในฐานความผิดหมิ่นประมาท และยังสามารถถูกดำเนินคดีภายใต้ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550

    ตาม มาตรา 14 (2) ของ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ กำหนดว่า “ผู้ใดนำข้อมูลที่เป็นเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ หรือเผยแพร่ข้อมูลอันเป็นเท็จที่อาจก่อให้เกิดความเสียหายต่อความมั่นคงของประเทศ หรือความสงบเรียบร้อยของประชาชน” จะต้องรับโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

    หากผู้กระทำผิดเผยแพร่ข้อมูลลามกอนาจารเกี่ยวกับบุคคลอื่น อาจมีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 200,000 บาท ตาม มาตรา 287 ของประมวลกฎหมายอาญา

    ทั้งนี้ เพื่อป้องกันไม่ให้ถูกหลอกลวงหรือตกเป็นเหยื่อของอาชญากรรมในรูปแบบต่างๆ จึงขอให้ทุกคนใช้ความระมัดระวังในการคลิกหรือเปิดลิงก์ที่ได้รับจากแหล่งที่ไม่รู้จัก.