โตโน่ ภาคิน หลังเกิดเรื่องราวดราม่านอกใจแฟนสาวนางเอก ล่าสุดเจ้าตัวประกาศรักสำคัญบทบาทประธานทีมฟุตบอล

นักร้องหนุ่ม โตโน่ ภาคิน หลังเกิดเรื่องราวดราม่าปมนอกใจแฟนสาวนางเอก ณิชา ณัฏฐณิชา ที่วันนี้ความสัมพันธ์ได้จบลงกลายเป็นอดีตคนรักไปแล้ว และอีกหนึ่งเรื่องราวดราม่าที่เกิดขึ้นกับคลิปเสียงสนทนาที่มีการพูดถึงสปอนเซอร์ทีมฟุตบอล มีการพาดพิงบุคคลที่สามจนกลายเป็นดราม่าและถูกจับตามองเป็นอย่างมากในฐานะประธานทีมฟุตบอลเกษตรศาสตร์ 

ล่าสุด โตโน่ ได้โพสต์ข้อความผ่านอินสตาแกรมส่งถึงเพื่อนและทีมงานพี่น้องเกษตรศาสตร์และแฟนบอลที่รักทุกคน โดยระบุว่า 

“ถึง เพื่อน ทีมงาน พี่น้องเกษตรศาสตร์และแฟนบอลที่รักทุกคน”

“เป็นเกียรติมากๆ นะ ที่ได้เป็นประธานสโมสร ให้กับนักฟุตบอล และแฟนบอลแบบพวกคุณ จบฤดูกาลแล้ว หมดหน้าที่ของผมแล้วนะครับ ต่อจากนี้ ขอให้ทุกคนมีทางเดินที่ดี เคารพต่ออาชีพของตัวเอง และทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุดเหมือนที่เราทุกคนทำร่วมกันมาในฤดูกาลนี้นะครับ”

“รักพวกคุณทุกคนนะ แฟนบอลไทย ทีมงานและนักฟุตบอลเกษตรศาสตร์ทุกคน จาก ตัวสำรองหมายเลข 10 (รักษาการประธานสโมสร)” 

ท่ามกลางคอมเมนต์จากแฟนๆ ไปในหลากหลายทิศทาง โดยส่วนหนึ่งบอกเสียดายอยากให้เดินต่อไป อีกหนึ่งก็เคารพการตัดสินใจของนักร้องหนุ่ม

เคลื่อนไหวแล้ว! “โตโน่” โพสต์แรกหลัง “ณิชา” เผยแฮปปี้กับชีวิตโสด

เข้าใจซะใหม่ “โรคตับ” ไม่ได้เจ็บที่ตับ สัญญาณเตือนอยู่ที่อื่น แพทย์ผู้เชี่ยวชาญบอกให้ระวังเมื่อปวด 2 จุดนี้

หลายคนมักเข้าใจผิดว่า หากอวัยวะใดมีปัญหา ก็จะรู้สึกเจ็บในบริเวณนั้น แต่สำหรับโรคเกี่ยวกับตับกลับไม่เป็นเช่นนั้น!

ศาสตราจารย์ หยาง ลี่ฮว่า ผู้เชี่ยวชาญด้านอายุรกรรมจากโรงพยาบาลประชาชนมณฑลหูเป่ย์ ประเทศจีน มีความเชี่ยวชาญด้านโรคตับและระบบทางเดินอาหาร อธิบายว่า ตับถูกเรียกว่า “อวัยวะเงียบ” เพราะ 1. โรคเกี่ยวกับตับมักเกิดขึ้นอย่างเงียบ ๆ และมักตรวจพบเมื่อเข้าสู่ระยะที่รุนแรง 2. แม้ตับจะมีปัญหา แต่กลับไม่รู้สึกเจ็บบริเวณนั้นเหมือนกับอวัยวะอื่น

ทำไมโรคตับถึงไม่เจ็บตรงจุด?

ตับอยู่ด้านขวาบนของช่องท้อง ใต้ชายโครงขวาและใต้กระบังลม โดยค่อนไปทางกึ่งกลางลำตัว วางอยู่เหนือกระเพาะอาหารและไตขวา และอยู่ทางซ้ายของถุงน้ำดี แต่เมื่อเกิดโรคตับ มักจะไม่เจ็บตรงบริเวณที่ตับอยู่ เพราะตับไม่มีเส้นประสาทรับความเจ็บปวดโดยตรง มีเพียงแค่นอกตับที่เป็นแคปซูลบาง ๆ ที่มีลักษณะคล้ายเส้นประสาท จึงทำให้ไม่รู้สึกเจ็บในระยะแรกของการอักเสบหรือเจ็บป่วย

และเมื่อตับไม่มีเส้นประสาทรับความเจ็บปวดโดยตรง ผู้ป่วยจะรู้สึกเจ็บก็ต่อเมื่อเยื่อหุ้มตับหรืออวัยวะใกล้เคียงถูกกระทบ แม้จะเริ่มมีปัญหาก็ยังไม่มีสัญญาณชัดเจน ทำให้ผู้ป่วยจำนวนมากมารู้ตัวอีกทีก็ตอนที่โรคลุกลาม เช่น มะเร็งระยะท้าย

2 จุดปวดที่อาจเป็น “สัญญาณเตือนโรคตับ”

1. ปวดไหล่ โดยเฉพาะไหล่ขวา

หนึ่งในผู้ป่วยของ ศ.หยาง คือชายวัย 30 กว่าที่ไปหาหมอด้วยอาการปวดไหล่ คิดว่าเป็นเพราะนั่งทำงานผิดท่า แต่สุดท้ายกลับตรวจพบว่าเป็น มะเร็งตับ!

สาเหตุคือมี เส้นประสาทที่เชื่อมต่อระหว่างตับกับไหล่ ทำให้เนื้องอกในตับสามารถส่งผลกระทบไปยังบริเวณไหล่ได้

ลักษณะอาการ:

• ปวดลึก ๆ ที่ไหล่ด้านใดด้านหนึ่ง

• ไม่หายด้วยการนวดหรือแปะแผ่นร้อน

• เจ็บมากขึ้นหลังดื่มแอลกอฮอล์หรือออกแรง

2. แน่น เจ็บชายโครงขวา

แม้ตับจะไม่ทำให้เจ็บในช่วงแรก แต่เมื่อขยายขนาดหรือเกิดการอักเสบ ก็สามารถส่งผลให้ปวดบริเวณ ชายโครงขวา ได้

ลักษณะอาการ:

• ปวดแบบคลุมพื้นที่ ไม่ชัดเจน

• เจ็บมากขึ้นตอนเครียด หรือดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์

• อาจมาพร้อมคลื่นไส้ อาเจียน เบื่ออาหาร

สัญญาณอื่นที่บ่งบอกว่าคุณอาจมีปัญหาตับ

หากคุณมีอาการเหล่านี้ ควรรีบตรวจสุขภาพตับ:

• ตัวเหลือง ตาเหลือง

• คันผิวหนัง มีผื่นลมพิษ หรือฝ่ามือแดง

• อ่อนเพลียเรื้อรัง เบื่ออาหาร

• กลิ่นปากเปลี่ยนแปลง

• น้ำหนักลดแบบไม่ทราบสาเหตุ

• ปัสสาวะสีเข้ม

ปวดไหล่ ปวดชายโครงขวา อย่านิ่งนอนใจ! อาการที่ดูเหมือนไม่เกี่ยวกับตับ อาจเป็นสัญญาณเงียบของโรคตับขั้นรุนแรง หากคุณมีอาการดังกล่าว ควรรีบพบแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุอย่างละเอียด

ถือเป็นประเด็นต่อเนื่องที่แฟนมวยให้ความสนใจกับการที่ ตะวันฉาย พี.เค.แสนชัยมวยไทยยิม แชมป์โลก ONE มวยไทย รุ่นเฟเธอร์เวต ได้ไปร่วมรายการ “จารย์พาคุย” ของ สินสมุทร กลิ่นมี นักมวยสายบันเทิงเพื่อนสนิทในวงการ

โดยในรายการ “ซ้ายดารา” ได้พูดถึงความผิดหวังจากไฟต์ที่แพ้ทีเคโอให้กับ มาซาอากิ โนอิริ นักคิกบ็อกซิงเจ้าถิ่น ในศึก ONE 172 ที่ประเทศญี่ปุ่น จนทำให้พลาดคว้าเข็มขัดแชมป์โลก ONE คิกบ็อกซิ่ง รุ่นเฟเธอร์เวต เฉพาะกาล

“ผมพูดเลยนะผมอยากรีแมตช์กับ มาซาอากิ โนอิริ ผมยังอยากชกในกติกาคิกบ็อกซิ่ง เดี๋ยวผมทักหาบอสชาตรี”

“ขอรีแมตช์อีกที ใช้ตั๋วพิเศษได้มั้ย ขอให้ผมได้แก้ตัว ได้แก้ศรัทธาหน่อย อยากให้มาต่อยที่ไทยบ้าง” ยอดมวยไทยวัย 26 ปี เปิดใจผ่านรายการ

สำหรับ “ซ้ายดารา” ตะวันฉาย พีเค.แสนชัย ปัจจุบันครองแชมป์โลก ONE มวยไทย รุ่นเฟเธอร์เวต แต่ก็มีความต้องการที่จะท้าท้ายตัวเองด้วยการคว้าแชมป์โลกเพิ่มอีกเส้นในกติกาคิกบ็อกซิ่ง ที่มี ซุปเปอร์บอน ซุปเปอร์บอนเทรนนิงแคมป์ ครองแชมป์อยู่

• ไฟต์นี้ไม่เกิดแน่! “ตะวันฉาย” พูดชัดจ้าง 100 ล้านก็ไม่ต่อยกับนักมวยรายนี้แน่นอน
• สุดท้ายไม่เป็นตามแผน! “โนอิริ” เปิดใจหลังปิดเกมน็อก “ตะวันฉาย” ยก 3 ศึก ONE 172
• ฝันสลาย! “ตะวันฉาย” พ่ายน็อก “โนอิริ” ชวดแชมป์โลก ONE คิกบ็อกซิ่ง เฉพาะกาล

ชัดเจนนะ! กรมธนารักษ์ แฉลงชี้แจงกรณี “เหรียญ 10 บาท” ยืนยันไม่ได้ผลิตจากทอง หรือทองเหลือง 

วันที่ 1 พฤษภาคม 2568 กรมธนารักษ์ออกแถลงชี้แจงข่าว กรณีการนำเหรียญกษาปณ์หมุนเวียนชนิดราคา 10 บาท ไปปลอมแปลงและเผยแพร่ทางโซเชียลมีเดีย

ณ กรมธนารักษ์ นายบุญชอบ วิเศษปรีชา โฆษกกรมธนารักษ์ ชี้แจงกรณี ที่ปรากฏคลิปที่แชร์กันในโลกโซเชียลที่ได้แสดงถึงการนำเหรียญกษาปณ์ชนิดราคา 10 บาทจำนวนหนึ่ง ไปทำเป็นแหวนและสร้อยคอ โดยกล่าวว่าเป็นโลหะวงในของเหรียญ 10 บาท ซึ่งอ้างว่าเป็นทองเหลือง นำไปผ่านขั้นตอนต่าง ๆ ตามคลิปเพื่อขึ้นรูปเป็นแหวนและสร้อยคอ และอ้างว่าเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในประเทศเพื่อนบ้านนั้น

กรมธนารักษ์ได้ทำการตรวจสอบคลิปดังกล่าวแล้ว ในเบื้องต้นขอเรียนดังนี้

1. โลหะที่ใช้ผลิตวงในของเหรียญกษาปณ์หมุนเวียน ชนิดราคา 10 บาทที่ผลิตโดยกองกษาปณ์ กรมธนารักษ์ ไม่ใช่ทองเหลือง แต่เป็น “อลูมิเนียมบรอนซ์” มีอัตราส่วนผสม ทองแดง 92% นิกเกิล 2% อลูมิเนียม 6% เป็นเหรียญโลหะเนื้อเดียว (ไม่ผ่านการชุบ) สามารถนำไปผลิตในรูปแบบอื่น ๆ ได้ ขณะที่ทองเหลืองนั้น มีอัตราส่วนผสมหลักจะเป็นทองแดงและสังกะสีเป็นหลัก ไม่มีส่วนผสมของนิกเกิลและอลูมิเนียม
2. การปลอมแปลงเหรียญกษาปณ์ มีความผิดตามมาตรา 9 แห่งพระราชบัญญัติเงินตรา พ.ศ. 2501 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ระบุว่า “ห้ามมิให้ผู้ใด ทำ จำหน่าย ใช้ หรือนำออกใช้ซึ่งวัตถุหรือเครื่องหมายใด ๆ แทนเงินตราเว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากรัฐมนตรี” และตามมาตรา 35 “ผู้ใดฝ่าฝืน มาตรา 9 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกินห้าหมื่นบาท หรือทั้งจำ ทั้งปรับ”

3. ประมวลกฎหมายอาญา(และที่แก้ไขเพิ่มเติม) ลักษณะ 7 ความผิดเกี่ยวกับการปลอมและแปลง หมวด 1 ความผิดเกี่ยวกับเงินตรา มาตรา 240 -249 ซึ่งมีโทษทั้งจำและปรับ

4. ปัจจุบันปริมาณการจ่ายแลกเหรียญกษาปณ์ชนิดราคา 10 บาท มีเหรียญหมุนเวียนในระบบเศรฐกิจ ณ วันที่ 30 เมษายน 2568 จำนวน 2,992.9 ล้านเหรียญ ผลผลิตเหรียญปีงบประมาณ 2567 จำนวน 40 ล้านเหรียญ จำนวนเหรียญคงเหลือจ่ายแลกได้ถึงเดือนมิถุนายน 2570 จำนวน 208.8 ล้านเหรียญ ซึ่งเพียงพอต่อระบบเศรษฐกิจในภาพรวม

ทั้งนี้กรมธนารักษ์ไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้เร่งดำเนินการรวบรวมข้อมูล ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการกระทำในคลิปและหากผู้ใดพบเห็นหรือได้เบาะแสเกี่ยวกับการกระทำผิดดังกล่าวสามารถแจ้งกรมธนารักษ์ได้ที่ Call Center 0 2059 4999 เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

• “หนุ่มว่างงาน” แต่รวยสุดในหมู่บ้าน ออกไปซื้อกระดาษเดือนละ 2 ครั้ง ตร.เผยความลับช็อก
• ระวัง! แบงก์ปลอมเกลื่อนเมือง เทียบของจริง-เก๊ จุดต่างอยู่ตรงนี้ มีญาติเตือนญาติด้วย

เปิดภาพ “เจ้าหญิงเลโอนอร์” สิริโฉมงดงามที่สุดในยุโรป ว่าที่ราชินีแห่งสเปน พระชันษา 20 ปี ร่วมฝึกทหารกับกองทัพเรือ

สื่อต่างประเทศ รายงานข่าวเกี่ยวกับ เจ้าหญิงเลโอนอร์ เจ้าหญิงแห่งอัสตูเรีย คือพระราชธิดาพระองค์ใหญ่ในสมเด็จพระราชาธิบดีเฟลิเปที่ 6 แห่งสเปน และสมเด็จพระราชินีเลติเซียแห่งสเปน โดยพระองค์ทรงอยู่ในลำดับแรกของการสืบสันติวงศ์ประเทศสเปน และเป็น ว่าที่ราชินีแห่งสเปนพระองค์แรก นับตั้งแต่สมเด็จพระราชินีนาถอิซาเบลที่ 2 แห่งสเปน ที่ทรงขึ้นครองราชย์ในปี 1830 หรือกว่า 190 ปีก่อน

ขณะนี้พระองค์กำลังเตรียมพร้อมสำหรับบทบาทในอนาคต ไม่ใช่เพียงแค่การศึกษา แต่ยังรวมถึงการเรียนรู้ผ่านประสบการณ์จริงด้วย

ตั้งแต่ยังทรงพระเยาว์ เจ้าหญิงลีโอนอร์ก็ได้รับความสนใจจากสาธารณชน ไม่เพียงเพราะเป็นผู้สืบทอดราชบัลลังก์ แต่ยังด้วยพระสิริโฉมอันสดใสโดดเด่นทุกครั้งที่เสด็จออกสู่สาธารณะ

อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ประชาชนชื่นชมมากที่สุด คือความตั้งใจและความจริงจังของพระองค์ในการรับบทบาทสำคัญในอนาคต แม้จะยังอยู่ในช่วงศึกษาและฝึกฝน แต่พระองค์ก็ทรงแสดงให้เห็นถึงความตั้งใจแน่วแน่ในการเข้าร่วมกิจกรรมของราชวงศ์ พระจริตที่อ่อนโยนและความมั่นใจในงานพิธีต่าง ๆ ยังเสริมสร้างภาพลักษณ์ของกษัตริย์หญิงแห่งสเปนในอนาคตที่เปี่ยมด้วยศักยภาพ

 

เจ้าหญิงฝึกทหาร

ด้วยบทบาทอันสำคัญ เจ้าหญิงลีโอนอร์จึงไม่ได้เข้าศึกษาในมหาวิทยาลัยเหมือนคนรุ่นเดียวกัน แต่เลือกเข้ารับการฝึกทหารแทน ล่าสุดพระองค์กำลังเข้าร่วมการฝึกพิเศษบนเรือฝึก “Juan Sebastián de Elcano” ของกองทัพเรือสเปน ซึ่งเพิ่งเทียบท่าที่กรุงลิมา ประเทศเปรู ถือเป็นจุดแวะที่สี่ของการเดินทางฝึกในระดับนานาชาติ เจ้าหญิงลีโอนอร์ออกเดินทางจากเมืองกาดิซเมื่อวันที่ 11 มกราคม พร้อมนักเรียนนายร้อยอีก 76 นาย ในภารกิจฝึกเดินเรือครั้งที่ 97 ของเรือลำนี้

ระหว่างการเดินทาง นักเรียนนายร้อยจะเข้าร่วมกิจกรรมทางการ ทหาร วัฒนธรรม และสังคมในแต่ละประเทศในนามของประเทศสเปน โดยเจ้าหญิงลีโอนอร์ก็ทรงมีส่วนร่วมอย่างแข็งขันในภารกิจต่าง ๆ บนเรือ ไม่ว่าจะเป็นการปีนเสากระโดงเรือ การปรับใบเรือ การใช้เครื่องวัดระยะทางทางทะเล (sextant) รวมถึงงานดูแลและทำความสะอาดเรือด้วย โดยเรือจะยังคงเดินทางต่อไปยังจุดแวะต่าง ๆ เช่น เมืองปานามาซิตี การ์ตาเฮนาแห่งอินเดียส และนิวยอร์ก

การเข้าร่วมภารกิจฝึกเดินเรือบนเรือ “Juan Sebastián de Elcano” ถือเป็นอีกหนึ่งขั้นตอนสำคัญในการเตรียมความพร้อมสำหรับอนาคตของเจ้าหญิงลีโอนอร์ เพราะไม่เพียงเป็นการฝึกฝนร่างกายและจิตใจ แต่ยังเป็นประสบการณ์ตรงในเรื่องความรับผิดชอบ การดำรงชีวิตในทะเล และการทำงานร่วมกับผู้อื่นในฐานะสมาชิกของทีมอย่างแท้จริง

ในภาพที่เผยแพร่โดยราชสำนัก แสดงให้เห็นว่าเจ้าหญิงลีโอนอร์ทรงปฏิบัติภารกิจบนเรืออย่างตั้งใจ เช่น ปีนเสากระโดงเรือ ดึงเชือก ปรับใบเรือ และทรงใช้อุปกรณ์วัดระยะทางทางดาราศาสตร์อย่าง “sextant” ซึ่งใช้วัดมุมระหว่างสองวัตถุ เช่น ดวงอาทิตย์กับเส้นขอบฟ้า นอกจากนี้ พระองค์ยังทรงมีส่วนร่วมในการทำความสะอาดและดูแลเรือในแต่ละจุดแวะ โดยทรงใช้ฟองน้ำขัดเงาเรือใบโบราณลำนี้อย่างเอาใจใส่

แสงแห่งความหวังของชาวสเปน

เจ้าหญิงเลโอนอร์ทรงเติบโตและได้รับการเลี้ยงดูในฐานะรัชทายาท โดยพระองค์ทรงปฏิบัติภารกิจสำคัญมาตั้งแต่เมื่อเป็นเมื่อครั้งยังทรงพระเยาว์ หลังจบการศึกษาจากโรงเรียนประจำ UWC Atlantic College สหราชอาณาจักร เจ้าหญิงเลโอนอร์ทรงเข้ารับการฝึกทหารในโรงเรียนเตรียมทหารเป็นเวลา 3 ปี เพื่อเตรียมพร้อมทำหน้าที่อันยิ่งใหญ่ในอนาคต เนื่องจากรัฐธรรมนูญของสเปนระบุอย่างชัดเจนว่า ว่าที่กษัตริย์ทุกพระองค์ต้องเข้ารับการฝึกทหารโดยไม่มีข้อยกเว้น

ภาพลักษณ์ของราชวงศ์แห่งสเปนนั้นถือว่ามีปัญหาอยู่ไม่น้อย เนื่องจากปัญหาภายในมากมาย โดยเฉพาะกรณีของสมเด็จพระราชาธิบดีฆวน การ์โลสที่ 1 ซึ่งมีข่าวอื้อฉาวมากมาย จนทำให้สาธารณชนขาดความเชื่อถือในราชวงศ์ ด้วยเหตุนี้ สำนักราชวังสเปนจึงพยายามอย่างหนักเพื่อกอบกู้ชื่อเสียงของราชวงศ์ ซึ่งก็เป็นเจ้าหญิงเลโอนอร์นี่เอง ที่เปรียบเสมือน “แสงแห่งความหวัง” ของประชาชนสเปน เนื่องจากพระองค์ทรงวางตัวอย่างดี และทรงงานอย่างหนักเพื่อช่วยเหลือพระราชบิดา 

เจ้าหญิงเลโอนอร์ทรงพูดได้ถึง 5 ภาษา ทั้งสเปน, อังกฤษ, ฝรั่งเศส, จีน และอาหรับ นอกจากนี้ พระองค์ทรงขึ้นกล่าวสุนทรพจน์เป็นครั้งแรก ขณะมีพระชันษาเพียง 13 ปี เนื่องในโอกาสฉลองครบรอบ 40 ปีรัฐธรรมนูญสเปน ในปี 2018 ซึ่งเป็นการกล่าวสุนทรพจน์ต่อหน้าสาธารณชนจำนวนมาก แต่เจ้าหญิงเลโอนอร์ก็ทรงทำได้อย่างยอดเยี่ยม 

ในปี 2022 เจ้าหญิงเลโอนอร์ทรงขึ้นกล่าวสุนทรพจน์อีกครั้ง ท่ามกลางการประท้วงต่อต้านราชวงศ์ โดยพระองค์ได้ให้คำมั่นต่อประชาชนว่าจะทุ่มเททำงานเพื่อดูแลและรับใช้ประชาชน ซึ่งทำให้กระแสต่อต้านลดน้อยลงไปอย่างมาก

เจ้าหญิงยุคใหม่ที่งดงามที่สุด

ตั้งแต่ยังทรงพระเยาว์ เจ้าหญิงเลโอนอร์ถูกจับตามองในฐานะเจ้าหญิงตัวน้อยแสนน่ารักน่าเอ็นดู เมื่อเติบโตขึ้น พระองค์ก็กลายเป็นเจ้าหญิงที่งดงามราวกับเดินออกมาจากเทพนิยาย ด้วยพระจริยวัตรเรียบง่าย ภาพลักษณ์ทันสมัย และความสามารถรอบด้าน ทำให้เจ้าหญิงเลโอนอร์กลายเป็น แสงแห่งความหวังของราชวงศ์สเปน และได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในเจ้าหญิงที่งดงามที่สุดในยุโรปยุคใหม่

 

รวมเลขเด็ด เครื่องบินพระที่นั่ง ในหลวง พระราชินี ทรงขับเสด็จเยือนภูฏาน

ใกล้วันหวยออก คอหวยไม่พลาดจับตา! เสด็จเยือนราชอาณาจักรภูฏานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี นอกจากจะเป็นภารกิจทางการที่ประชาชนชาวไทยปลื้มปีติ ยังมีเลขเด็ดที่สายมูต้องรีบจดไว้ให้ทัน!

รวมเลขเด็ดจากภารกิจเสด็จเยือนภูฏาน

• วันที่เสด็จฯ: 25 – 28 เมษายน 2568
• ทะเบียนเครื่องบินพระที่นั่ง: HS-HMK
• รุ่นเครื่องบิน: Boeing 737-800
• เลขข้างลำ 90410
• วันที่เสด็จฯ ตลาดกลางกรุงทิมพู: 27 เมษายน 2568

 

 

---

ข่าวในพระราชสำนัก: พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จเยือนราชอาณาจักรภูฏาน

จากเมื่อวันที่ 25 เมษายน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จฯ โดยรถยนต์พระที่นั่ง จากพระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต ไปยังท่าอากาศยานทหาร ดอนเมือง เพื่อประทับเครื่องบินพระที่นั่ง เสด็จพระราชดำเนินเยือนราชอาณาจักรภูฏานอย่างเป็นทางการ (State Visit) ระหว่างวันที่ 25 – 28 เมษายน 2568 ตามคำทูลเชิญของสมเด็จพระราชาธิบดีจิกมี เคเซอร์ นัมเกล วังชุก แห่งภูฏาน

การเสด็จพระราชดำเนินเยือนราชอาณาจักรภูฏานอย่างเป็นทางการในครั้งนี้ จะเป็นการกระชับมิตรภาพและความร่วมมืออันใกล้ชิด ระหว่างราชอาณาจักรทั้งสองให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น จากการมีมรดก ทางวัฒนธรรมร่วมกันในความเลื่อมใสในบวรพระพุทธศาสนาและสายสัมพันธ์ระหว่างราชวงศ์ทั้งสองรวมทั้งระหว่างประชาชนของทั้งสองประเทศ

เมื่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินถึง ท่าอากาศยานนานาชาติเมืองพาโร ราชอาณาจักรภูฏาน สมเด็จพระราชาธิบดีและสมเด็จพระราชินีแห่งภูฏาน เฝ้ารับเสด็จ และถวายผ้าแพรคล้องพระหัตถ์แด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี ตามธรรมเนียมท้องถิ่นในการรับเสด็จ ผ้าแพรสีขาวทำจากผ้าไหม เรียกว่า คาดาร์ (Khadar) ในภาษาซงข่า ใช้มอบให้แขกสำคัญในพิธีกรรมทางศาสนา และแขกสำคัญผู้มาเยือน ผ้าแพรสีขาวเป็นสัญลักษณ์ของความปรารถนาดีจากผู้ให้ไปยังผู้รับ

จากนั้น ทรงพระดำเนินผ่านแถวกองทหารเกียรติยศ แล้วประทับรถยนต์พระที่นั่ง เสด็จฯ ไปยังโรงแรมเพมาโกะ ทิมพู (Hotel Pemako Thimphu) ซึ่งเป็นโรงแรมที่ประทับ ซึ่งตลอดเส้นทางที่เสด็จพระราชดำเนินผ่านมีนักเรียนและประชาชนชาวภูฏานเป็นจำนวนมาก มาเฝ้าฯ รับเสด็จ รวมทั้งมีการจัดแสดงทางวัฒนธรรมของภูฏานถวายให้ทอดพระเนตร เป็นการถวายพระเกียรติและถวายการต้อนรับตามธรรมเนียมท้องถิ่นของภูฏาน

จากนั้น ในตอนบ่าย พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จฯ จากโรงแรมที่ประทับเพมาโกะ ทิมพู (Hotel Pemako Thimphu) ไปยังป้อมทาชิโช กรุงทิมพู ณ ที่นั้น สมเด็จพระราชาธิบดีและสมเด็จพระราชินีแห่งภูฏาน ทรงจัดพิธีรับเสด็จอย่างเป็นทางการ

ต่อจากนั้น เสด็จพระราชดำเนินไปยังลานเทนเดรลทัง เสด็จขึ้นพลับพลาที่ประทับ ทอดพระเนตรวีดิทัศน์ความเป็นมาของโครงการฝึกอบรมเกียลซุงและโครงการ จิตอาสาเดซุง การแสดงขบวนพาเหรดโดยสมาชิกโครงการ ฯ จากนั้น ทอดพระเนตรการแสดงทางวัฒนธรรม และพิธีเจริญพระพุทธมนต์ถวายพระพรชัยมงคลโดยคณะบรรพชิตภูฏาน สมควรแก่เวลา จึงประทับรถยนต์พระที่นั่ง เสด็จพระราชดำเนินกลับโรงแรมเพมาโกะ ทิมพู ซึ่งเป็นโรงแรมที่ประทับ

ในการนี้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทรงขับเครื่องบินพระที่นั่ง Boeing 737-800 ทะเบียน HS-HMK ด้วยพระองค์เอง ลงจอด ณ ท่าอากาศยานนานาชาติพาโร กรุงทิมพู ราชอาณาจักรภูฏาน ซึ่งถือเป็นหนึ่งในท่าอากาศยานที่มีความท้าทายในการลงจอดมากที่สุดแห่งหนึ่งของโลก

ต่อมาวันอาทิตย์ที่ 27 เมษายน 2568 ในช่วงเวลาเย็น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินไปยังตลาดกลางประจำกรุงทิมพู (Kaja Throm) ทรงรับฟังการบรรยายสรุปและทอดพระเนตรนิทรรศการของโครงการอาสาสมัครเดซุง และร้านค้าจำหน่ายพืชผลทางการเกษตร

เปิดภาพล่าสุดในวัย 62 ปี นักแสดงดังผู้รับบท “พระถังซัมจั๋ง” เวอร์ชันในตำนาน ปี 1996 หลังออกจากวงการไปรักษาตัว

เป็นซีรีส์ในตำนานที่อยู่ในใจคนยุค 80s-90s สำหรับ ไซอิ๋ว ภาค ศึกเทพอสูรสะท้านฟ้า ปี 1996 ถูกยกให้เป็นเวอร์ชันที่ดีที่สุดของไซอิ๋ว นำแสดงโดย จาง เหว่ยเจี้ยน หรือ ดิกกี้ เฉิง รับบท ซุนหงอคง, หลีเหย้าเสียง รับบท ตือโป๊ยก่าย, ไม่ฉางชิง รับบท ซัวเจ๋ง และ เจียงหัว ผู้รับบท พระถังซัมจั๋ง 

เมื่อไม่นานมานี้ สื่อฮ่องกงอย่าง HK01 ได้นำเสนอเรื่องราวของ เจียงหัว นักแสดงมากฝีมือ ผู้รับบทพระถังซัมจั๋งในตำนาน ซึ่งปัจจุบันวางมือจากวงการบันเทิง ใช้ชีวิตเรียบง่ายกับครอบครัว

ประวัติ เจียงหัว (Kwong Wa)

เจียงหัว เกิดเมื่อ 19 พฤศจิกายน 1962 ปัจจุบันอายุ 62 ปี เริ่มต้นอาชีพในวงการบันเทิงช่วงปี 1980 จากการเซ็นสัญญาเป็นนักร้องในสังกัดบริษัท CBS Sony (ฮ่องกง) และเปิดตัวด้วยผลงานเพลง แต่หลังจากนั้นไม่นาน เขาก็เบนเส้นทางเข้าสู่วงการแสดง โดยเซ็นสัญญากับสถานีโทรทัศน์ ATV (เอเชียทีวี) และสร้างชื่อเสียงอย่างรวดเร็วจากบทพระเอกในหลายเรื่อง

ในช่วงต้นทศวรรษ 1990 เจียงหัวย้ายมาอยู่กับสถานีโทรทัศน์ TVB ซึ่งทำให้เขาโด่งดังมากยิ่งขึ้น เขาได้แสดงในละครหลายเรื่องที่เป็นที่จดจำ เช่น “มังกรหยก” รับบทเป็น “เอี้ยก้วย” คู่กับหลี่หยาเผิง, “ศึกลำน้ำเลือด” (The Breaking Point), “ขุนศึกตระกูลหยาง” (The Yang’s Saga) ด้วยฝีมือการแสดงที่แข็งแรงและบุคลิกสุขุม เจียงหัวได้รับรางวัลและการยอมรับมากมายจากทั้งผู้ชมและสื่อมวลชน

ชีวิตครอบครัว

เจียงหัว แต่งงานกับ มัก คิทแมน (Kitman Mak) อดีตนักร้องและนางงามชื่อดัง โดยเป็นคู่รักต่างวัยที่ภรรยามีอายุมากกว่า 8 ปี ทั้งคู่แต่งงานกันมา 32 ปีแล้ว มีลูกชายหนึ่งคนและลูกสาวหนึ่งคน ลูกชายคนโตชื่อ ไบรอัน ทำงานเป็นพยาบาล ส่วนลูกสาวคนเล็ก เฉิน ฉางเทียน เลือกเดินตามรอยแม่ เข้าวงการเป็นนักร้อง แม้ว่าระหว่างชีวิตแต่งงานจะเคยมีปัญหา โดยเจียงหัวเคยนอกใจไปช่วงหนึ่ง แต่สุดท้ายก็สำนึกผิดและกลับมาได้รับการให้อภัยจากภรรยา ทั้งคู่จึงยังคงรักกันเรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน

ไม่นานมานี้ มัก คิทแมนได้ให้สัมภาษณ์ในรายการ YouTube 冰姐的花樣人生 เล่าเรื่องชีวิตคู่กับเจียงหัวมาตลอดหลายปี พร้อมเผยพฤติกรรมเฉพาะตัวของสามีที่บ้าน หลังจากเจียงหัวหมดสัญญากับ TVB ในปี 2006 เขาก็ออกจากวงการ เนื่องจากอาการบาดเจ็บเรื้อรังที่หลังและภาวะซึมเศร้า ทำให้ไม่สามารถทำงานได้อีก และตัดสินใจวางมือจากวงการบันเทิง ปัจจุบันทั้งคู่หันมาทำไลฟ์ขายของใน TikTok และต่อมาเปลี่ยนไปโชว์ร้องเพลงเพื่อสร้างฐานแฟนคลับ มัก คิทแมน บอกว่าตอนนี้พวกเขาร้องเพลงสัปดาห์ละสองครั้ง เป็นเหมือนกิจกรรมครอบครัวที่สนุกสนาน

ในบทสัมภาษณ์ มัก คิทแมน ยังเล่าว่า หลังจากแม่บ้านที่บ้านเสียชีวิตเมื่อปีที่แล้ว เจียงหัวตัดสินใจไม่จ้างแม่บ้านอีก และเธอก็เผลอเผยความลับเล็ก ๆ ของสามีว่า “เขาไม่ชอบมีคนอื่นอยู่ในบ้าน ชอบเดินแก้ผ้าไปมาในบ้าน”

เมื่อถูกถามว่าสามีมีแผนกลับไปแสดงละครหรือไม่ มัก คิทแมนเผยว่า เจียงหัวค่อนข้างผิดหวังกับวงการบันเทิงในปัจจุบัน เธออธิบายว่า “ฉันว่าความเป็นศิลปินในตัวเขายังมีอยู่ แต่เดี๋ยวนี้ทุกอย่างรีบเร่งไปหมด เหมือนไม่มีคุณภาพ เขาเลยรู้สึกผิดหวัง แต่ถ้าเจอบทที่ใช่หรือเรื่องที่ชอบจริง ๆ เขาก็อาจจะลองกลับไปอีกครั้ง”

หลังจากที่นางเอกสาว ณิชา ณัฏฐณิชา ดังวัธนาวณิชย์ ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ถึงความรู้สึกสบายใจและมีความสุขกับชีวิตโสดในปัจจุบัน ล่าสุดทางด้านอดีตคนรักอย่าง โตโน่ ภาคิน คำวิลัยศักดิ์ ก็ได้มีการเคลื่อนไหวผ่านทางอินสตาแกรมส่วนตัว (@mootono29) เป็นครั้งแรก

โดยโพสต์ล่าสุดของ โตโน่ เป็นภาพของเจ้าตัวในระหว่างไปทริปเซี่ยงไฮ้กับครอบครัว พร้อมหน้าโดยเฉพาะคนที่รักอย่าง คุณแม่สุดลมโชย และ ต้องตา น้องสาวของโตโน่ ซึ่งทริปนี้ โตโน่-ณิชา เคยแพลนว่าจะไปด้วยกัน 

โตโน่ โพสต์หลังณิชา ให้สัมภาษณ์ครั้งแรก

ซึ่ง โตโน่ ได้โพสต์ภาพกอดเด็กน้อยลงสตอรี่ไอจี ถึงแม้ว่าในโพสต์ดังกล่าวจะไม่มีการถึงอดีตคนรักอย่างณิชาโดยตรง  แต่การเคลื่อนไหวครั้งนี้ก็ได้รับความสนใจจากบรรดาแฟนคลับและชาวเน็ตเป็นอย่างมาก 

ก่อนหน้านี้ ณิชา ณัฏฐณิชา ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อถึงชีวิตหลังจบความสัมพันธ์กับโตโน่ ถึงแม้จะขอไม่พูดถึง แต่ตอนนี้ ณิชา มูฟออนแล้วและก็มีความสุขกับการอยู่คนเดียว และมีคนรอบข้างที่ดีของให้กำลังใจ 

คงต้องติดตามกันต่อไปว่าหลังจากนี้ โตโน่ ภาคิน จะมีการเคลื่อนไหวหรือออกมาให้สัมภาษณ์ถึงประเด็นดังกล่าวหรือไม่ 

เมย์ เฟื่องอารมย์ ตอบชัดแล้วใช่ อีซ้อ เจ้าของเพจหรือไม่ หลังถูกชาวเน็ตถามกลางไลฟ์

นักแสดงสาวพ่วงตำแหน่งผู้จัดละคร เมย์ เฟื่องอารมย์ ภรรยาสุดที่รักของพิธีกรคนดังระดับประเทศ หนุ่ม-กรรชัย กำเนิดพลอย ต้องบอกว่าทุกวันจะมีแฟนคลับเข้ามาชมไลฟ์ของเธออย่างคึกคัก เพราะนอกจากจะได้พูดคุยกับเธอแล้ว ยังได้คุยกับ น้องมายู ลูกสาวคนเดียวของ พ่อหนุ่ม-แม่เมย์ อีกด้วย  

และระหว่างที่ไลฟ์นั้น เมย์ เฟื่องอารมย์ ได้อ่านคำถามจากชาวเน็ตแฟนคลับไปด้วย และได้ตอบคำถามไปพร้อมๆ กัน

ซึ่งมีหนึ่งคำถามที่ทำเอาเจ้าตัวถึงกับตาโตเลยทีเดียว กับคำถามที่ว่า “พี่เมย์ คืออีซ้อใช่มั้ยคะ?”

และเธอได้ตอบกลับทันทีว่า “พี่ไม่ใช่อีซ้อนะ พี่หน้าเหมือนอีซ้อตรงไหน อีซ้อก็ต้องหน้าหมวยๆ แบบในโปรไฟล์ไม่ใช่เหรอ” จากนั้นเธอถึงขำรัวๆ เลยทีเดียว

เป็นอันว่าปัดตกกับความสงสัยนี้ไปเลย เพราะ เมย์ เฟื่องอารมย์ ตอบไว้ชัดมาก เธอไม่ใช่นะจ๊ะ 

กลายเป็นประเด็นที่แฟนมวยให้ความสนใจทันทีกับรายการ “จารย์พาคุย” ของ สินสมุทร กลิ่นมี นักมวยสายบันเทิงที่เชิญ ตะวันฉาย พี.เค.แสนชัยมวยไทยยิม แชมป์โลก ONE มวยไทย รุ่นเฟเธอร์เวต มาร่วมรายการ

พร้อมกันนี้ยังได้เชิญ ปตท. อภิชาติฟาร์ม นักมวยคนสนิทมาร่วมพูดคุยกันในรายการด้วย แถมงานนี้มีคำถามที่ทำเอากลายเป็นที่สนใจในโลกออนไล์เมื่อ สินสมุทร ได้ยิงคำถามใส่ ตะวันฉาย ว่า “ถ้ามีโอกาสได้ต่อยกับ ปตท. จะต่อยมั้ย?”

ก่อนที่ “ซ้ายดารา” จะเปิดใจว่า “ให้ 100 ล้านไม่รู้จะต่อยหรือเปล่า? ไม่ต่อยครับ ครูมวยเดียวกันตั้งแต่เด็ก” ทำให้ สินสมุทร ถามทางด้าน ปตท. อภิชาติฟาร์ม ว่า “ถ้าเขาให้ 15 ล้านต่อยมั้ย”

ซึ่งทางด้าน ปตท. ตอบว่า “ผมไปตั้งแต่ล้านแรกแล้ว 555 ล้อเล่นๆ ไม่ต่อยครับ อยู่ด้วยกันมาตั้งแต่เด็ก เป็นเพื่อนกันตั้งแต่ 7-8 ขวบ”

สำหรับทั้งคู่นั้นถือเป็นเพื่อนรักกันมาตั้งแต่เด็กโดยทางด้าน ตะวันฉาย แต่ก่อนใช้ชือว่า “จตุคาม เพชรรุ่งเรือง” ขณะที่ ปตท. ใช้ชื่อในวงการว่า “สายฟ้า ศิษย์เจ๊เอ๋” นั่นเอง

• หลุดมาก่อน! สื่อฝรั่งเศสตี “ตะวันฉาย” ต้องป้องแชมป์ ONE มวยไทยกับคู่ชกรายนี้
• สาเหตุแพ้น็อก! “รถถัง” สวมกอด “ตะวันฉาย” ก่อนพูดตรงๆ แบบนี้จบศึก ONE 172
• สุดท้ายไม่เป็นตามแผน! “โนอิริ” เปิดใจหลังปิดเกมน็อก “ตะวันฉาย” ยก 3 ศึก ONE 172