สาวเคลิ้มครึ่งหลับครึ่งตื่น ฝันว่าชายแปลกหน้ามาจูบ สะดุ้งตื่นกรี๊ดลั่นห้อง เรื่องจริงเลวร้ายยิ่งกว่าฝันร้าย
เมื่อไม่นานมานี้ ค่ำคืนที่ดูเหมือนจะสงบ กลับกลายเป็นความทรงจำอันน่าสะพรึงสำหรับ 2 พี่น้องหญิงที่อาศัยอยู่ในหอพักแห่งหนึ่งในมณฑลเจ้อเจียง ประเทศจีน เหตุการณ์ชวนตื่นตระหนกนี้ได้รับความสนใจอย่างกว้างขวางจากสาธารณชน และยังเป็นการส่งสัญญาณเตือนถึงความปลอดภัยสำหรับผู้หญิงที่เช่าห้องพักอยู่คนเดียว
จูบสยองกลางดึก
ตามรายงานจากสื่อท้องถิ่น เหยื่อคือหญิงสาววัยรุ่นที่พักอยู่กับพี่สาวในห้องเช่าแบ่งภายในบ้าน ขณะที่เธอกำลังเคลิ้มหลับครึ่งหลับครึ่งตื่น เธอรู้สึกเหมือนมีผู้ชายแปลกหน้าคนหนึ่งเข้ามาใกล้เตียงแล้วจูบเธอ เหตุการณ์นั้นทำให้เธอสะดุ้งตื่นขึ้นด้วยความตกใจ และเมื่อลืมตาขึ้น เธอก็พบว่าตัวเองกำลังถูกชายแปลกหน้าคนนั้นบังคับจูบอยู่จริง ๆ
เธอรีบดันเขาออกไปและกรีดร้องด้วยความหวาดกลัว เสียงกรีดร้องนั้นทำให้พี่สาวของเธอลุกขึ้นเปิดไฟ เมื่อไฟสว่าง ทั้งสองก็เห็นชายแปลกหน้าคนหนึ่งยืนอยู่ในห้อง ซึ่งควรจะมีแค่สองพี่น้องเท่านั้น สิ่งที่น่าประหลาดคือประตูทางเข้าถูกล็อกสนิท ชายคนนี้เข้ามาได้อย่างไร?
ท่ามกลางความสับสน ชายคนนั้นรีบวิ่งไปที่ประตูแล้วหลบหนีออกจากห้องไป
“เมา” ไม่ใช่ข้ออ้าง
ในคืนนั้น ทั้งสองได้แจ้งตำรวจทันที การสืบสวนเริ่มต้นโดยมีการตรวจสอบกล้องวงจรปิดทั่วหอพัก
จากภาพกล้องวงจรปิด ตำรวจระบุว่าผู้กระทำผิดคือชายที่พักอยู่ห้องติดกันกับพี่น้องคู่นี้ในบ้านเช่าหลังเดียวกัน เขาได้ปีนเข้าทางหน้าต่าง ซึ่งเป็นการกระทำที่เสี่ยงอย่างมาก เนื่องจากห้องอยู่ชั้นสูงกว่า 10 เมตรจากพื้นดิน
ผลการสืบสวนยังพบว่า ก่อนหน้านี้ชายคนนี้พยายามเคาะประตูห้องอื่นในตึกอยู่พักหนึ่ง แต่ไม่มีใครตอบ เขาจึงหันไปที่ห้องของสองสาวและแอบลอบเข้าไป แม้ว่าเขาจะอ้างว่าเมาและไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ แต่พฤติกรรมที่วางแผนล่วงหน้าและดำเนินการอย่างเงียบเชียบแสดงให้เห็นว่าเขายังมีสติอยู่
ชายวัย 39 ปีรายนี้ถูกควบคุมตัวเพื่อดำเนินคดีในข้อหาบุกรุกและล่วงละเมิดทางเพศ
เมื่อเรื่องนี้ถูกเผยแพร่ออกไปในโลกออนไลน์ ชาวเน็ตจีนต่างออกมาประณามการกระทำอย่างรุนแรง หลายคนแสดงความเห็นว่า:
-
“อย่าเอาอาการเมามาเป็นข้ออ้างให้พฤติกรรมโรคจิต”
-
“โชคดีที่แค่จูบ ถ้าไม่มีใครตื่นมาทันเวลา ใครจะรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อไป”
-
“นี่มันเข้าข่ายข่มขืน ต้องติดคุกอย่างน้อย 3 ปี”
-
“นี่คือฝันร้ายที่เลวร้ายกว่าฝันร้าย”
ในขณะเดียวกันก็มีความกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัยในหอพักที่ให้ชายหญิงอยู่ร่วมกัน แต่ไม่มีระบบรักษาความปลอดภัยเพียงพอ โดยเฉพาะสำหรับผู้หญิงที่อยู่ลำพัง บางคนเล่าประสบการณ์ที่เคยถูกแอบติดกล้องในห้องน้ำหรือห้องอาบน้ำโดยไม่รู้ตัว จนมาสังเกตเห็นความผิดปกติ
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้เกิดความตระหนักในวงกว้างเกี่ยวกับความปลอดภัยของผู้หญิงที่เช่าบ้านหรือห้องพักอยู่กับคนแปลกหน้าในพื้นที่เดียวกัน หลายคนแชร์ประสบการณ์ถูกแอบถ่าย ลักลอบเข้าห้อง หรือถูกสะกดรอยจากคนที่เคยคิดว่า “ไม่น่าจะมีพิษภัย” เหตุการณ์นี้เป็นสัญญาณเตือนให้ทุกคนตระหนักถึงสิทธิในร่างกายตนเอง และความจำเป็นในการมีระบบรักษาความปลอดภัยที่เข้มงวดในที่อยู่อาศัยร่วม โดยเฉพาะสำหรับผู้หญิง