Blog

  • KUBET – มาแล้ว “พลอย เฌอมาลย์” ประโยคเดียวรู้เรื่อง ปมเหตุโพสต์ฟาด “โต้ง ทูพี” อ่านแล้วจุก!

    พลอย เฌอมาลย์ เผยประโยคสุดเจ็บปวด เปิดสาเหตุที่มาของการโพสต์ฟาดแสบทรวงถึง โต้ง ทูพี เพจดังสืบมาแล้วเป็นเรื่องสุดพีคเกินจะรับได้

    ต้องบอกว่าเป็นประร้อนกลางดึกของคืนวาน (20 พ.ค.) เลยทีเดียว หลังนักแสดงสาวระดับตัวแม่ของวงการ พลอย เฌอมาลย์ ได้โพสต์ไอจีสตอรี่ฟาดสุดแรงอย่างชัดเจนตรงๆ ไม่อ้อมค้อมถึงอดีตคนเคยรัก โต้ง ทูพี ด้วยประโยคที่อ่านแล้วอื้อหือเลยทีเดีบว ทั้ง “แร็พเปอร์กะxรี่ เxาไปทั่วมั่วได้สลับวัน” , Next HIV Bitch, กะxรี่ (เสียงสูง) เป็นต้น  

    หลายคนที่ติดตามเรื่องราวความรักของ พลอย และ โต้ง ทูพี จะเห็นว่าทั้งสองคนห่างกันมาได้สักพักแล้ว เป็นการเลิกราแบบเงียบๆ แต่การโพสต์ของ พลอย ทำเอาชาวเน็ตแฟนคลับต่างสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้น? 

    ล่าสุด เพจดังอย่าง อรรถรส ได้เปิดสาเหตุจากการไปสืบคร่าวๆ ว่าเป็นเรื่องผู้หญิง และมีอีกเรื่องที่พีคมาที่ทำให้มัมเดือดสุดๆ  พร้อมกับบอกว่าทั้งสองคนเลิกกันไปนานแล้วแต่มีเรื่องอื่นทำให้เดือด 

    จากนั้นในไอจีสตอรี่ของ พลอย เฌอมาลย์ ได้โพสต์ประโยคสุดเจ็บปวดเขียนเป็นภาษาอังกฤษว่า “You rape my soul” ซึ่งมีความหมายว่า “คุณเหยียบย่ำ ย่ำยีหัวใจของฉัน” สื่อถึงความเสียใจอย่างมากถึงมากที่สุด 

    ส่วนเรื่องราวที่แท้จริงว่าเกิดจากอะไร รอฟังทั้งสองฝ่ายออกมาเปิดใจเองจะดีที่สุด 

  • KUBET – โสดไม่นาน “พิม พิมประภา” เปิดตัวแฟนใหม่? อุ๊ย! เป็นหนุ่มไฮโซ ที่ใครๆ ก็ต้องรู้จัก!

    ดูเหมือนว่าหัวใจของนางเอกสาวสวย “พิม พิมประภา ตั้งประภาพร” จะกลับมาพร้อมรอยยิ้มและความสดใสอีกครั้ง หลังจากเจ้าตัวเพิ่งออกมายอมรับเมื่อต้นปี 2568 ว่าได้เลิกรากับแฟนหนุ่มนอกวงการที่คบหาดูใจกันมายาวนานถึง 4 ปี ท่ามกลางความเสียดายของแฟนคลับที่ลุ้นให้รักครั้งนั้นไปไกลกว่านี้

    ขนาดว่านักแสดงที่สนิทในวงการบันเทิงอย่าง เชียร์ ฑิฆัมพร ยังเข้าไปแซวในไลฟ์ ซึ่งสาว พิม พิมประภา นั้นดูจะออกอาการเขินมาก แล้วก็มีรอยยิ้มที่มีความสุขมาก แบบคนกำลังอินเลิฟสุดๆ ซึ่งว่าที่แฟนใหม่ของ พิม พิมประภา ที่ตนนี้กำลังคุยๆ อยู่ๆ นั้นเข้ามาเปย์ของขวัญแบบฉ่ำๆ ในไลฟ์ 

    และคนในด้อมก็ฟิน และยิ้มตาม พิม พิมประพา ไปด้วย ซึ่งหลายคนก็คงอยากรู้แล้วว่าทำไมหนุ่มคนนี้ชนะใจสาวพิมได้ในเวลาอันรวดเร็ว เพราะปกติมีหนุ่มๆ มาจีบสาวพิม เยอะมาก แต่เธอเป็นคนที่ใจแข็งสุดๆ ตามที่เพื่อนๆ คอนเฟิร์มเอาไว้

    ซึ่งหนุ่มคนนี้ ว่าที่แฟนใหม่ของ พิม พิมประภา หลายคนน่าจะพอคุ้นชื่อกันบ้าง สำหรับ ไฮโซแทม หรือ แทม cocotam เจ้าของร้านอาหารชื่อดังที่เกาะสมุย และยังเป็นเพื่อนสนิทกับ ซุง ศตาวิน หรือ ซุง แฟนซ้อการ์ด

    ขนาดว่า เชียร์ ฑิฑัมพร ยังเอ่ยปากแซวว่า ช่วงนี้ พิม ไม่ไปเที่ยวต่างประเทศแล้ว น่าจะไปเที่ยวแต่เกาะสมุย  อุ๊ยๆ คงไม่ใช่แค่คนคุยแล้วมั้งงงง

  • KUBET – “ครูเคท” ไวรัลสาวยูเครนหัวใจไทย ท้องใกล้คลอดแล้ว พ่อของลูกคือนักร้องหนุ่มใต้คนดัง

    จำได้ไหม “ครูเคท” ที่เคยเป็นไวรัลสาวยูเครนหัวใจไทย พบรักกับนักร้องหนุ่มใต้คนดัง ล่าสุดท้องใกล้คลอดแล้ว

    เมื่อเดือนสิงหาคม 2567 ที่ผ่านมา หลายคนคงจำกันได้ว่ามีไวรัล “ครูเคท” สาวสวยชาวยูเครนที่มาสอนภาษาอังกฤษในประเทศไทย ที่มักจะโพสต์คลิปรีวิวความชอบในประเทศไทย ไม่ว่าจะเป็นชอบหมอลำ ชอบกินส้มตำ กินแมลงทอด ไก่ทอดแบบไทยๆ รวมไปถึงพูดภาษาไทย จนคุณครูเคทแทบจะกลายเป็นคนไทยคนหนึ่งไปแล้ว

    ล่าสุด ครูเคท วัย 25 ปี กำลังตั้งครรภ์ลูกคนแรกได้ประมาณ 7 เดือนแล้ว ซึ่งพ่อของลูกก็คือนักร้องหนุ่มใต้คนดัง “เก้า เกริกพล” ที่หลายคนรู้จักจากเพลง เลิกคุยทั้งอำเภอ เพื่อเธอคนเดียว ที่มียอดวิวกว่า 399 ล้านวิวแล้ว และปัจจุบันก็ได้เป็นศิลปินทำเพลงเอง มีเพลงใหม่อย่าง ใครบอกนางฟ้าไม่มีอยู่จริง เพลงน่ารักๆ ที่กำลังฮิตติดหูในโซเชียลอยู่ตอนนี้ ซึ่งเพลงนี้ก็เหมือนเป็นเพลงที่แต่งมาเพื่อภรรยาสุดที่รักโดยเฉพาะ บอกเลยว่าเป็นคู่ที่น่ารักและคลั่งรักสุดๆ

  • KUBET – เตือนแล้วนะ กระเทียม 5 แบบ “ไม่ควรซื้อ” สุดอันตราย แม้แต่คนขายก็ยังไม่กล้ากิน!

    ระวัง! เตือนภัย 5 ประเภท “กระเทียม” สุดอันตราย ที่ไม่ควรซื้อ แม้แต่แม่ค้ายังไม่กล้ากิน

    บทความที่รายงานผ่านทางเว็บไซต์ phunuso ได้เตือนถึง 5 ประเภทกระเทียมที่ “ไม่ควรซื้อเด็ดขาด” หากคุณไม่อยากเสี่ยงโรคร้าย! ใครจะคิดว่าเพียงกระเทียมเล็กๆ ก็มี “กับดัก” ที่อาจส่งผลต่อสุขภาพได้ถึงขั้นร้ายแรง? นับเป็นเรื่องที่คนทุกประเทศควรตระหนัก เพื่อป้องกันตนเองจากอันตรายที่อาจนำเข้าปาก-ลงท้องไปโดยไม่รู้ตัว ซึ่งผู้เขียนบทความกล่าวไว้ดังนี้

    “เลือกกระเทียมก็ต้องระวังนะหนู บางแบบพวกพี่ยังไม่กล้าเอากลับบ้านเลย!” คำเตือนจากแม่ค้าผักในตลาดสดที่ฟังแล้วทำเอาสะดุ้ง และต้องกลับมาฉุกคิดจริงๆ จังๆ ซึ่งหลังจากตรวจเช็กกระเทียมที่บ้านด้วยตัวเอง ผู้เขียนก็พบความจริงที่น่าตกใจว่า การเลือกซื้อกระเทียมผิดชนิด อาจนำเชื้อรา สารพิษ หรือโลหะหนักเข้าสู่ร่างกายโดยไม่ตั้งใจ
    ดังนั้น จึงอยากเตือนให้คุณรู้จัก 5 ลักษณะของกระเทียมอันตราย ที่ควรหลีกเลี่ยงไว้ให้ดี

     

    1. กระเทียมงอก – สีเขียวสดแต่แฝงพิษ

    หลายคนคิดว่ากระเทียมงอกคือกระเทียมสด แต่ความจริงแล้วกระเทียมที่เริ่มแตกยอดสีเขียวคือสัญญาณว่าคุณค่าทางอาหารได้ถูกดึงไปหล่อเลี้ยงต้นอ่อนหมดแล้ว ทั้งยัง สูญเสียสารอัลลิซิน (Allicin) ซึ่งเป็นสารสำคัญที่ช่วยต้านเชื้อแบคทีเรียและลดการอักเสบ ที่น่ากลัวกว่านั้นคือกระเทียมงอกอาจสะสมเชื้อราง่าย หากเก็บไม่ดีอาจเกิด อะฟลาทอกซิน (Aflatoxin) ซึ่งเป็นสารพิษก่อมะเร็งตับระดับอันตราย อย่าปล่อยให้สีเขียวน่ารักลวงตาคุณ!

    2. กระเทียมขึ้นรา – พิษร้ายแรงกว่าสารหนูถึง 68 เท่า!

    มีรายงานว่าผู้บริโภคบางรายถึงขั้นต้องเข้าโรงพยาบาลเพราะซื้อกระเทียมราคาถูกที่มีเชื้อรา! กระเทียมขึ้นราคือแหล่งสะสมของอะฟลาทอกซิน ซึ่งมีพิษต่อ ตับและระบบภูมิคุ้มกัน อย่างรุนแรง แม้จะตัดส่วนที่ขึ้นราออก แต่สารพิษเหล่านี้ สามารถแทรกซึมลึกถึงภายในหัวกระเทียม จึงไม่ควรเสี่ยง เลือกกระเทียมที่เปลือกสะอาด ไม่มีจุดดำหรือสีน้ำตาลแม้แต่นิดเดียว

    3. กระเทียมย้อมสี – ภายนอกสวย แต่แฝงเคมีร้าย

    ปัจจุบันมีการตรวจพบว่ามีกระเทียมบางล็อตถูก ย้อมสีด้วยสารเคมีอุตสาหกรรม เพื่อปกปิดรอยช้ำหรือเชื้อรา โดยเฉพาะกระเทียมที่ดูขาวจัดหรือเงาวาวเกินจริง อาจปนเปื้อนโลหะหนักอย่าง สารตะกั่วหรือปรอท ซึ่งมีความเชื่อมโยงกับโรคมะเร็ง แต่ถ้ากระเทียมมีสีเขียวอ่อนจากการใช้สารป้องกันเชื้อราประเภทบอร์กโดซ์ (Bordeaux mixture) ซึ่งเป็นสารเคมีทางการเกษตรที่อาจตกค้างได้บ้างเล็กน้อย เพียงล้างให้สะอาดก็ยังพอรับได้ แต่ถ้ามีกลิ่นสารเคมีแรง ควรหลีกเลี่ยงทันที!

    4. กระเทียมแห้งลีบ – เบาแต่ไร้คุณค่า

    กระเทียมที่เก็บไว้นานจะสูญเสียน้ำ ทำให้เนื้อยุบตัว เบา และแห้ง ดูเผินๆ อาจยังดีอยู่ แต่เมื่อบีบจะรู้ว่าภายในนิ่มยุบ ไม่มีความแน่น อีกทั้งบางแห่งยังใช้วิธีฉายรังสีเพื่อยืดอายุการเก็บกระเทียม ซึ่งแม้จะชะลอการงอกได้แต่ไม่สามารถป้องกันการสูญเสียสารอาหารได้ หากเก็บไว้นานเกินไป กระเทียมยังเสี่ยงต่อการปนเปื้อนเชื้อแบคทีเรียได้อีกด้วย

    5. กระเทียมมีกลิ่นแปลก – สัญญาณของจุลินทรีย์อันตราย

    กระเทียมที่ดีควรมีกลิ่นฉุนเล็กน้อยเป็นเอกลักษณ์ หากคุณได้กลิ่นเปรี้ยว เน่า หรือคล้ายสารเคมี – ให้หยุดใช้ทันที! กลิ่นผิดปกติอาจเกิดจากการเน่าเสียและการปนเปื้อนของเชื้อแบคทีเรีย เช่น อีโคไล (E.Coli) หรือ ซัลโมเนลลา (Salmonella) ที่ก่อให้เกิดอาการอาหารเป็นพิษ

    ในทางตรงกันข้าม ผู้เขียนบทความยังได้แนะนำเคล็ดลับเลือกกระเทียมดีๆ เพื่อให้ผู้ริโภคกินได้มั่นใจ ว่าปลอดภัยแน่นอน!

    1. สังเกตเปลือก – เปลือกต้องแน่น ไม่มีรอยช้ำหรือรา กระเทียมเปลือกม่วงมีสารอาหารมากกว่ากระเทียมขาว

    2. ลองบีบดู – หัวกระเทียมที่ดีควรแน่นมือ ไม่ยุบ ไม่ลีบ

    3. ดมกลิ่นให้ดี – หลีกเลี่ยงกระเทียมที่มีกลิ่นเหม็นหรือฉุนผิดปกติ

    เพียงทำตาม 3 ข้อข้างต้นง่ายๆ ก็สามารถตรวจสอบเบื้องต้นได้แล้ว เพราะกระเทียมอาจดูเป็นวัตถุดิบพื้นฐานในครัว แต่หากเลือกผิดอาจเป็นภัยต่อสุขภาพโดยไม่รู้ตัว ดังนั้น ครั้งต่อไปที่เลือกซื้อกระเทียม อย่าลืมสังเกตสัญญาณอันตรายเหล่านี้ เพื่อเลือกสิ่งดีที่สุดให้กับมื้ออาหารของตนเองและครอบครัว!

  • KUBET – หมอยืนยัน “ไม่ใช่คอนเทนต์” ภาพสาวนั่งร้องไห้โถง รพ.หลังรับผลตรวจ เผยเบื้องลึกสลดใจ

    ภาพสาววัย 22 นั่งร้องไห้ในโถงทางเดินโรงพยาบาล หลังรู้ผลตรวจ “มะเร็ง” แพทย์เผยเรื่องจริงสุดสะเทือนใจ อาจต้องปลูกถ่ายไขกระดูก

    กลายเป็นภาพไวรัลที่สะเทือนใจผู้คนในโลกออนไลน์ เมื่อคลิปวิดีโอสั้นๆ เผยให้เห็นหญิงสาววัยรุ่นคนหนึ่ง นั่งก้มหน้าร้องไห้บนเก้าอี้ริมทางเดินของโรงพยาบาลในเวียดนาม มือยังถือผลการตรวจร่างกาย ใบหน้าเต็มไปด้วยความเศร้าสลดและความสิ้นหวัง ภาพดังกล่าวถูกแชร์ต่ออย่างรวดเร็ว พร้อมข้อความระบุว่า เธอเพิ่งทราบผลตรวจว่าเป็น “มะเร็งเลือด” หรือมะเร็งระบบโลหิตวิทยา ซึ่งสร้างความหดหู่ให้กับผู้ที่พบเห็นอย่างมาก

    จากการตรวจสอบข้อเท็จจริงพบว่า เรื่องราวในภาพเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริง หญิงสาวในภาพอายุเพียง 22 ปี และเพิ่งสำเร็จการศึกษาระดับมหาวิทยาลัย เธอเริ่มมีอาการเหนื่อยล้าเรื้อรังตั้งแต่ช่วงหลังเทศกาลตรุษจีน และมีปัญหาเกี่ยวกับประจำเดือนที่มาไม่ปกติ จึงตัดสินใจไปตรวจสุขภาพ

    ในตอนแรก หญิงสาวเข้ารับการตรวจในแผนกสูตินรีเวช แต่ผลตรวจเลือดพบความผิดปกติ ทำให้เธอถูกส่งตัวต่อไปยังแผนกมะเร็งวิทยาเพื่อทำการตรวจเชิงลึก เมื่อทำการอัลตราซาวด์ช่องท้อง แพทย์พบก้อนเนื้อน่าสงสัย จากนั้นมีการตรวจ CT Scan ที่บริเวณช่องอกและช่องท้อง พบว่ามีต่อมน้ำเหลืองผิดปกติอยู่หลังเยื่อบุช่องท้องและบริเวณกระดูกสันหลังส่วนเอว รวมถึงบางจุดในช่องอก ผลการตรวจชิ้นเนื้อจากต่อมน้ำเหลืองในช่องท้องชี้ชัดว่า เธอป่วยเป็นมะเร็งต่อมน้ำเหลืองชนิด Non-Hodgkin 

    Dr.Nguyễn Duy Anh จากแผนกมะเร็งวิทยา โรงพยาบาลชื่อดังในกรุงฮานอย ผู้ตรวจวินิจฉัยหญิงสาวรายนี้ เปิดเผยว่า แนวทางการรักษาคือการทำเคมีบำบัด (คีโม) และมีแนวโน้มว่าผู้ป่วยอาจจำเป็นต้องรับการปลูกถ่ายไขกระดูกจากผู้บริจาคที่มีความเข้ากันได้

    ทั้งนี้ หลังจากได้รับผลวินิจฉัย หญิงสาวมีอาการช็อกและจิตใจย่ำแย่ ทีมแพทย์และพยาบาลจึงต้องเข้ามาให้คำปรึกษาเชิงจิตวิทยาเพื่อช่วยให้เธอสงบลง ก่อนจะตัดสินใจโทรศัพท์แจ้งข่าวกับครอบครัวด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ

    ขณะเดียวกันหลังจากคลิปเผยแพร่ออกไป โลกออนไลน์ได้ร่วมกันส่งกำลังใจจำนวนมากให้กับหญิงสาวคนนี้ เช่น “จะไม่ช็อกได้อย่างไรเมื่อรู้ว่าเป็นมะเร็ง ขอให้หนูเข้มแข็งและผ่านมันไปได้” , “กลับบ้านไปหาครอบครัวนะ พวกเขาจะเป็นกำลังใจที่ดีที่สุดให้ลูก” , “ขออ้อมกอดแห่งความหวังให้เธอ ขอให้หายดีในเร็ววัน”

    เรื่องราวของหญิงสาววัย 22 ปีรายนี้ ผู้เผชิญหน้ากับมะเร็งต่อมน้ำเหลือง ชี้ให้เห็นถึงความเปราะบางของชีวิต และพลังของกำลังใจจากผู้คนรอบตัว ทั้งแพทย์ ครอบครัว และสังคมออนไลน์ ที่ต่างร่วมเป็นกำลังใจให้เธอผ่านพ้นช่วงเวลาที่ยากลำบากนี้ไปได้อย่างเข้มแข็ง

     

  • KUBET – “สมรักษ์ คำสิงห์” เคลื่อนไหวแล้ว หลังลูกๆ ประกาศถ้าสร้างเรื่องใหม่ไม่ขอยุ่ง

    จากกรณีที่นักแสดงสาว เบสท์-รักษ์วนีย์ คำสิงห์ และน้องชาย โบ๊ท ภูวรักษ์ ได้ออกมาประกาศผ่านทางรายการ แฉ ว่าต่อจากนี้หากพ่อไปสร้างเรื่องใหม่ขึ้นอีก จะขอไม่ยุ่งอีกต่อไปแล้ว จนทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ต่างๆ ตามมาอีกมากมาย

    ล่าสุด สมรักษ์ คำสิงห์ ก็ได้เคลื่อนไหวผ่านทาง TikTok ขณะกำลังอยู่ค่ายซ้อมมวย จากนั้นเจ้าตัวยังได้ลงคลิปต่อมา เมื่อเจอกลุ่มแก๊งคนในวงการบันเทิงนัดเตะบอลกระฉับมิตรกันอย่างสนุกสนาน

    แต่งานนี้ชาวเน็ตกลับเข้ามาคอมเมนต์เดือดถึงลูกๆ เบสท์-โบ๊ท อย่างสนั่น อาทิ “ใจดีกับน้องโบ๊ทน้องเบสหน่อยนะครับเสี่ย”, “ไปสร้างเรื่องอะไรอีกละบาส ลูกถึงได้พร้อมกันออกมาบอก ต่อไปจะไม่สนใจอีกแล้ว”,

    “มีพ่อเมื่อพร้อมนะลูก”, “โปรเจกต์เยอะ..แต่ …เงิน..(……..)”, “สงสารลูกบ้างนะคะ”, “อย่าก่อเรื่องอีกละ ลูกชดใช้ให้ไม่ไหวแล้ว ลุงเอ่ย” เป็นต้น

  • KUBET – ส่องเงินรางวัล “วิว กุลวุฒิ” ผงาดแชมป์ไทยแลนด์ โอเพ่น 2025 โกยไปมากเท่าไร?

    ต้องบอกว่าสะใจกองเชียร์ชาวไทยสำหรับ “วิว” กุลวุฒิ วิทิตศานต์ นักแบดมินตันขวัญใจชาวไทย ที่สามารถคว้าแชมป์รายการ โตโยต้า ไทยแลนด์ โอเพ่น 2025 มาครองได้สำเร็จ

    erer25

    โดยในรอบชิงชนะเลิศ นักตบลูกขนไก่หนุ่มวัย 24 ปี เป็นฝ่ายเอาชนะ แอนเดอร์ส แอนทอนเซ่น มืออันดับ 3 ของโลกจากเดนมาร์ก ไปได้แบบลุ้นระทึก 2-1 เกม (21-16, 17-21 และ 21-9) ครองถ้วยพระราชทานพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

    พร้อมกันนี้ยังได้รับเงินรางวัลมาครอง 35,625 เหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 1,187,000 บาท) ขณะที่ แอนเดอร์ส แอนทอนเซ่น รองแชมป์คว้าเงินรางวัล 18,050 เหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 600,000 บาท)

    erer2

    สำหรับการคว้าแชมป์ครั้งนี้ของ กุลวุฒิ วิทิตศานต์ นักตบลูกขนไก่ชาวไทยมือ 2 โลก ถือเป็นแชมป์สมัยที่ 2 หลังจากเคยทำได้มาแล้วเมื่อปี 2023 นอกจากนี้ยังถือเป็นแชมป์ที่ 3 ของปีต่อจาก อินโดนีเซีย มาสเตอร์ส 2025 และ เอเชีย แชมเปี้ยนชิพ 2025

  • KUBET – ผ่าทรัพย์สิน อนุดิษฐ์ นาครทรรพ อดีตนักบินรบ F-16 สู่นักการเมืองชื่อดัง เงินทองมีแบบคูลๆ

    ผ่าทรัพย์สิน อนุดิษฐ์ นาครทรรพ อดีตนักบินรบ F-16 สู่นักการเมืองชื่อดัง เงินทองมั่งมีสุดคูล

    สำนักข่าวอิศรา และสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เปิดเผยบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินกรณี น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ อดีต ส.ส.พรรคเพื่อไทย พ้นตำแหน่งเมื่อวันที่ 27 ม.ค. 2566 พบว่า น.อ.อนุดิษฐ์ พร้อมด้วย นางอรวรรณ นาครทรรพ คู่สมรส แจ้งมีทรัพย์สินทั้งสิ้น 23,969,431 บาท และหนี้สินทั้งสิ้น 4,431,334 บาท

    น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ แจ้งทรัพย์สิน 10,509,081 บาท

    • เงินสด 1,500,000 บาท
    • เงินฝาก 78,114 บาท
    • เงินลงทุน 943,093 บาท
    • ที่ดิน 5,040,000 บาท
      • ที่ดินใน กรุงเทพฯ
      • ปทุมธานี โรงเรือนและสิ่งปลูกสร้าง 1,097,874 บาท
    • เป็นบ้านพัก 2 ชั้น ที่กรุงเทพฯ
    • ทาวน์เฮ้าส์ 2 ชั้น ที่ปทุมธานี
    • ยานพาหนะ 550,000 บาท เป็นรถยนต์ 1 คัน
    • ทรัพย์สินอื่น 1,300,000 บาท

    รายได้ต่อปี 1,362,720 บาท

    รายจ่ายต่อปี 1,022,000 บาท

    นางอรวรรณ นาครทรรพ แจ้งทรัพย์สิน 13,460,350 บาท

    • เงินสด 900,000 บาท
    • เงินฝาก 207,982 บาท
    • ที่ดิน 6,535,000 บาท
      • เป็นที่ดินในกรุงเทพ
      • ชลบุรี โรงเรือนและสิ่งปลูกสร้าง 2,417,368 บาท
    • ยานพาหนะ 2,400,000 บาท เป็นรถยนต์ 4 คัน
    • ทรัพย์สินอื่น 1,000,000 บาท

    หนี้สิน 2,669,528 บาท

    ทรัพย์สินอื่นที่น่าสนใจ 

    • นาฬิกา
    • แหวนเพชร
    • สร้อยทอง
    • พระเครื่อง
    • กำไลข้อมือ
    • สร้อยเพชร
    • ต่างหู

    รายได้ต่อปี 144,000 บาท

    รายจ่ายต่อปี 564,000 บาท

  • KUBET – 3 อาหาร “ราชาไตเน่า” แต่หลายคนยังกินทุกวัน หารู้ไม่กำลังทำร้ายไตอย่างเงียบๆ

    อาหาร 3 อย่างที่ถูกขนานนามว่า “ราชาแห่งการทำลายไต” แต่หลายคนยังเผลอทานทุกวัน โดยไม่รู้ว่ากำลังทำร้ายไตอย่างเงียบ ๆ

    เว็บไซต์ SOHA รายงานว่า เมื่อไม่นานมานี้ โปรแกรมเมอร์วัย 30 ปี ที่ตรวจสุขภาพแล้วพบไตทำงานผิดปกติ เมื่อสอบถามแพทย์ทราบว่าเขาดื่มเครื่องดื่มชนิดหนึ่งถึงวันละ 2 ขวด แท้จริงแล้ว หลายอาหารที่ดูไร้พิษภัยในชีวิตประจำวัน อาจกลายเป็น “ฆาตกรนิรนาม” ทำลายไตได้

    1. อาหารที่มีฟอสฟอรัสสูง: “ฆาตกรเงียบ” ของไต

    • ฟอสฟอรัสในอาหารแปรรูป: ไส้กรอก แฮม และเนื้อแปรรูปต่างๆ ใส่ฟอสเฟตเพื่อเพิ่มรสสัมผัสนุ่มลื่น ซึ่งร่างกายดูดซึมฟอสฟอรัสอนินทรีย์เกือบทั้งหมด แต่ปริมาณที่แนะนำไม่ควรเกินวันละ 800 มก.

    Ron Lach

    • ภาระ 2 เท่าจากน้ำอัดลม: โคล่าและน้ำอัดลมอื่นๆ ไม่เพียงแต่มีฟอสฟอรัสสูง ยังเต็มไปด้วยน้ำตาลที่เพิ่มภาระการกรองให้ไต กระป๋องเดียวให้ฟอสฟอรัสถึง 1 ใน 3 ของปริมาณที่ควรได้รับต่อวัน ดื่มนาน ๆ อาจทำให้ระดับฟอสฟอรัสในเลือดสูงขึ้น
    • กับดักหวานจากถั่ว: เม็ดมะม่วงหิมพานต์และอัลมอนด์อุดมด้วยสารอาหาร แต่ใน 100 กรัมมีฟอสฟอรัสกว่า 500 มก. ผู้ที่มีปัญหาไตควรจำกัดการบริโภคอย่างเข้มงวด
    1. อาหารเค็มจัด: “ยาพิษเรื้อรัง” ต่อไต

    • เกลือที่มองไม่เห็น: เพื่อเพิ่มรสชาติให้กับอาหารหลักอย่างบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปและขนมปัง จะมีการเติมเกลือในขั้นตอนการผลิต ปริมาณเกลือในบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปหนึ่งห่ออาจสูงกว่าปริมาณที่แนะนำต่อวัน หากบริโภคเป็นเวลานานจะทำให้เกิดภาวะบวมน้ำและโซเดียมในร่างกายสูง ส่งผลร้ายต่อไต

    RDNE Stock project

    • อาหารหมักดอง: ในการทำเบคอนหรือผักดอง มักเติมเกลือปริมาณมาก นอกจากจะเพิ่มภาระการกรองให้ไต ยังเสี่ยงทำให้ความดันโลหิตสูง จึงควรรับประทานไม่เกินสัปดาห์ละ 2 ครั้ง
    • ภัยแอบแฝงจากเครื่องปรุงรส: เครื่องปรุงอย่างซอสหอยนางรมและซีอิ๊วมีโซเดียมสูงมาก เพียงหนึ่งช้อนโต๊ะก็ให้โซเดียมราว 400 มก. เมื่อต้องปรุงอาหาร ควรลดเกลือลงบ้าง และใช้สมุนไพรธรรมชาติ เช่น หอมใหญ่ ขิง หรือกระเทียม เติมกลิ่นรสแทน
    1. อาหารโปรตีนสูง: “ภาระหวานๆ” ของไต

    • ผงโปรตีน: ผู้ที่ชื่นชอบการเล่นกล้ามหลายคนเสริมผงโปรตีนโดยไม่ระวัง จริงๆ แล้วโปรตีนส่วนเกินจะถูกเปลี่ยนเป็นยูเรีย ทำให้ไตต้องทำงานหนักขึ้น คนทั่วไปควรได้รับโปรตีนวันละประมาณ 1 กรัมต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัมเท่านั้น
    • ความเสี่ยงจากการบริโภคเนื้อสัตว์มากเกินไป: การกินโปรตีนสูงเป็นเวลานานจะทำให้ไตทำงานหนักเกินไป โดยเฉพาะสารพิวรีนในเนื้อแดงที่เพิ่มภาระกรดยูริค ควรลดเนื้อแดงและหันมาใช้ผลิตภัณฑ์จากถั่วเหลืองทดแทน
    • ภัยแฝงจากอาหารทะเล: แม้หอยนางรมและหอยเชลล์จะอร่อย แต่มีสารพิวรีนสูงมาก การกินเพื่อบรรเทาความอยากเป็นครั้งคราวไม่เป็นไร แต่ไม่ควรกินบ่อยหรือมากเกินไป

    ระวังโรคไตหากมีอาการ

    • ตาบวมเล็กน้อยในตอนเช้า
    • ปัสสาวะบ่อยตอนกลางคืน
    • ปัสสาวะมีฟองและฟองอยู่ได้นาน

    นี่อาจเป็นสัญญาณ “ขอความช่วยเหลือ” จากไต ควรตรวจปัสสาวะเป็นประจำทุกปี และผู้ที่มีอายุเกิน 40 ปี ควรตรวจการทำงานของไตเพิ่มเติม

    วิธีง่ายๆ ในการปกป้องไต

    • ดื่มน้ำสะอาดให้เพียงพอ วันละ 1,500–2,000 มิลลิลิตร
    • จำกัดอาหารแปรรูปและอาหารบรรจุหีบห่อ
    • ลดปริมาณเกลือในการปรุงอาหาร และเลือกใช้เครื่องปรุงจากธรรมชาติแทน
  • KUBET – ชาวโอกินาวาอายุยืน แพทย์ค้นพบกุญแจคือ กินผัก 1 ชนิด อยู่ในบัญชีสมุนไพรไทยด้วย

    ชาวโอกินาวาอายุยืนยาว แพทย์ค้นพบกุญแจสำคัญคือ ผัก 1 ชนิด ช่วยรักษาระดับน้ำตาล-ปกป้องลำไส้ อยู่ในบัญชีสมุนไพรไทยด้วย

    นพ.หลิว ป๋อเหริน ผู้เชี่ยวชาญด้านโภชนาการเวชศาสตร์การฟื้นฟู จากไต้หวัน ได้โพสต์ในเพจเฟซบุ๊กของเขาเกี่ยวกับประโยชน์ทางโภชนาการและทางการแพทย์ของ มะระขี้นก โดยยกตัวอย่างเช่น จังหวัดโอกินาวา ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีประชากรอายุยืนมากที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ชาวบ้านที่นั่นแทบจะกินมะระขี้นกทุกวัน

    หมอหลิวกล่าวว่า ตามศาสตร์แพทย์แผนจีน มะระขี้นกถือว่ามีฤทธิ์ “ขจัดความร้อน ขับพิษ ลดไฟในร่างกาย” และในยุคปัจจุบัน งานวิจัยทางวิทยาศาสตร์ก็เริ่มเปิดเผยถึงคุณค่าทางโภชนาการที่ซ่อนอยู่เบื้องหลังรสขมนี้

    การทดลองทางคลินิกแบบสุ่มและปกปิดสองฝ่าย (double-blind) ที่ตีพิมพ์ในวารสาร Complementary Therapies in Medicine ปี 2020 พบว่า ผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 2 ที่รับประทานสารสกัดจากมะระขี้นกติดต่อกัน 12 สัปดาห์ มีระดับน้ำตาลในเลือดขณะอดอาหาร และค่า HbA1c ลดลงอย่างชัดเจน โดยไม่พบผลข้างเคียงที่รุนแรง

    สารสำคัญในมะระขี้นก

    งานวิจัยชิ้นดังกล่าวชี้ให้เห็นว่า มะระขี้นกมีสารออกฤทธิ์ตามธรรมชาติ เช่น Charantin, Polypeptide-p และ Triterpenoids  สารเหล่านี้ไม่เพียงแต่ช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด ยังอาจช่วยส่งเสริมสุขภาพลำไส้ ปรับปรุงการทำงานของเยื่อบุลำไส้เล็กส่วนปลาย ปรับสมดุลภูมิคุ้มกันของระบบทางเดินอาหาร และลดการอักเสบเรื้อรังในร่างกายได้ด้วย

    วัฒนธรรมการกินมะระขี้นกทั่วโลก

    หมอหลิวยังกล่าวว่า มะระขี้นกเป็นผักที่พบได้ในวัฒนธรรมอาหารของหลายประเทศ โดยเฉพาะโอกินาวา ซึ่งถือเป็น “เมืองหลวงแห่งอายุยืน”

    คนในท้องถิ่นเรียกมะระขี้นกว่า “โกยะ (Goya)” และมีเมนูขึ้นชื่ออย่าง Goya Chanpuru ผัดมะระขี้นกกับเต้าหู้ ไข่ และหมู ซึ่งไม่เพียงแต่อร่อย ยังกลายเป็นสัญลักษณ์ของอาหารเพื่อสุขภาพอีกด้วย

    การที่ชาวโอกินาวากินมะระขี้นกเป็นประจำ อาจเป็นหนึ่งในปัจจัยที่ช่วยลดอัตราการเกิดโรคเรื้อรัง และชะลอความชรา

     

    คุณค่าทางโภชนาการ

    จากมุมมองทางโภชนาการ มะระขี้นกถือเป็นผักที่ “พลังงานต่ำ แต่สารอาหารแน่น” มี:

    • วิตามิน C สูง

    • โพแทสเซียม

    • ใยอาหาร

    • กรดโฟลิก

    • วิตามิน B รวม

    มีคุณสมบัติช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด ลดอาการของโรคเมตาบอลิก และลดการอักเสบเรื้อรังอย่างเป็นธรรมชาติ

    แม้มะระขี้นกจะดี แต่ไม่ได้เหมาะกับทุกคน ดังนี้ 

    • หญิงตั้งครรภ์

    • ผู้ที่มีน้ำตาลในเลือดต่ำ

    • ผู้ที่ใช้ยาลดน้ำตาลในเลือด

    • ผู้ที่มีระบบย่อยอาหารอ่อนแอ หรือท้องเสียง่าย

    ในศาสตร์แพทย์แผนไทย

    ผู้ป่วยเบาหวานทั่วไปจะมีระดับน้ำตาลในเลือดสูงอย่างต่อเนื่อง สาเหตุเกิดจากการขาดฮอร์โมนอินซูลินหรือการทำงานของฮอร์โมนอินซูลินบกพร่อง อาการสำคัญที่สังเกตได้ของโรคเบาหวาน คือ ปัสสาวะบ่อย โดยเฉพาะในตอนกลางคืน หิวบ่อย กระหายน้ำบ่อย มีอาการชาปลายมือปลายเท้า หากมีบาดแผล มักจะหายช้า ภาวะแทรกซ้อนของโรคเบาหวาน ส่งผลให้จอประสาทตาเสื่อม เกิดแผลกดทับ ติดเชื้อได้ง่าย โดยเฉพาะติดเชื้อราและเชื้อแบคทีเรีย ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญในการก่อให้เกิดความพิการตามมา

    ตามศาสตร์การแพทย์แผนไทย ขอแนะนำ “มะระขี้นก” ซึ่งเป็นสมุนไพรพื้นบ้าน สามารถนำมารับประทานเป็นอาหารและเป็นยารักษาโรค ปัจจุบันมีผลการศึกษาวิจัยหลายฉบับทั้งในสัตว์ทดลองและในผู้ป่วยเบาหวาน ยืนยันว่าสาร charantin ที่พบในมะระขี้นก สามารถลดระดับน้ำตาลในเลือดได้จริง และการใช้มะระขี้นกขนาด 2,000 มิลลิกรัมต่อวัน ติดต่อกันเป็นเวลา 6 เดือน จากการติดตามผลไม่มีอาการข้างเคียงที่รุนแรง และไม่พบความเป็นพิษต่อตับ ซึ่งทำให้สามารถมั่นใจได้ว่า การใช้มะระขี้นก ไม่ว่าจะใช้เป็นอาหารหรือเป็นยาในการป้องกันหรือรักษาโรคเบาหวานนั้นมีความปลอดภัย

    และปัจจุบันมะระขี้นก จัดเป็นพืชสมุนไพรที่ถูกนำมาขึ้นทะเบียนเป็นยาสมุนไพรในบัญชียาหลักแห่งชาติ สามารถเบิกจ่ายได้ในคลินิกการแพทย์แผนไทยในโรงพยาบาลของรัฐได้ทั่วประเทศการใช้มะระขี้นกเพื่อลดน้ำตาลในเลือด ให้เน้นการรับประทานเป็นอาหาร เพราะจะได้ไฟเบอร์ แร่ธาตุ และวิตามินอื่น ๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายด้วย สำหรับผู้ป่วยเบาหวานก็ควรจำกัดการบริโภคอาหารที่มีปริมาณน้ำตาลสูงออกกำลังกายอย่างเหมาะสม และปฏิบัติตัวตามคำแนะนำของแพทย์ อย่างเคร่งครัด