ผู้เขียน: admin

  • KUBET – ส่องคอมเมนต์แฟนจีนหลัง “นุ่น วรนุช” ร่วมรายการดังของจีน

    ส่องคอมเม้นต์แฟนจีน! หลัง “นุ่น วรนุช” แจมร่วมรายการดัง Ride The Wind 2025

    นุ่น วรนุช รายการจีนนุ่น วรนุช Ride The Wind 2025

    เรียกเสียงฮือฮาและความประทับใจจากแฟน ๆ ชาวจีนได้อย่างล้นหลาม สำหรับการปรากฏตัวของนางเอกแถวหน้าของไทย “นุ่น วรนุช ภิรมย์ภักดี” ที่ไปร่วมรายการวาไรตี้ชื่อดังของจีนอย่าง Ride The Wind 2025 หรือชื่อเดิม Sisters Who Make Waves ซีซั่น 5 ซึ่งออกอากาศทาง Mango TV รายการนี้เป็นวาไรตี้แข่งขันด้านดนตรีที่เปิดโอกาสให้ศิลปินหญิงอายุ 30 ปีขึ้นไปได้โชว์ศักยภาพในด้านต่าง ๆ ทั้งการร้อง เต้น และแสดง โดยมุ่งเน้นการเสริมสร้างพลังของผู้หญิงโดยไม่จำกัดอายุหรือกรอบใด ๆ

    นุ่น วรนุช รายการจีนนุ่น วรนุช Ride The Wind 2025

    ในการร่วมรายการครั้งนี้ “นุ่น วรนุช” ได้พัฒนาศักยภาพหลายด้านทั้งการร้อง การเต้น ได้เห็นการพัฒนาต่อเนื่องของนางเอกสาวในไทยแบบที่ไม่เคยเห็นมาก่อน ก่อนขึ้นโชว์ในรอบสุดท้ายร่วมกับเพื่อนร่วมทีมอย่าง ฟางฉี (Fang Qi), เจียง เหมิงเจี๋ย (Jiang Mengjie) และ หลี่ เจียฉี (Li Jiaqi) ซึ่งเธอได้โชว์เสน่ห์อันสง่างามและความสามารถที่เกินคำบรรยาย สะกดสายตาคนดูทั้งในจีนและไทย

    แฟนจีนแห่ชื่นชม “นุ่น วรนุช” ในรายการจีนชื่อดัง สวยจนขึ้นเทรนด์!

    หลังรายการออกอากาศ โลกโซเชียลในจีนต่างพูดถึงนางเอกไทยคนนี้อย่างมากมาย โดยเฉพาะใน Weibo ที่เต็มไปด้วยข้อความชื่นชมความงามและทักษะของเธอในเวทีระดับนานาชาติ โดยคอมเมนต์ที่โดดเด่น เช่น

    • “พี่สนุ่นสวยมากเลยค่ะ”

    • “พี่นุ่นสวยที่สุดดดด!”

    • “พี่นุ่นกลับมาให้ชมอีกครั้งแบบจำกัดเวลา”

    • “เทพธิดาแห่งจันทราเสด็จมาแล้ว”

    • “พี่นุ่นสวยมาก แถมเต้นก็หวานสุดๆ เลย!”

    หลายคนยังกล่าวชื่นชมถึงความสง่างามแบบเฉพาะตัวของนุ่น วรนุช ว่าไม่ใช่แค่รูปลักษณ์ภายนอกเท่านั้น แต่รวมไปถึงพลังการแสดงออก ความมั่นใจ และความนุ่มนวลที่ส่งออกมาบนเวที จนกลายเป็นแรงบันดาลใจให้ผู้หญิงหลาย ๆ คน

    หลังจบรายการสาวนุ่น ได้โพสต์ข้อความบน Weibo ส่งท้ายความประทับใจที่ได้ร่วมรายการนี้

    ” #乘风2025# เวทีได้ปิดฉากลงแล้ว ฉันอยากส่งคำแสดงความยินดีจากใจจริงให้แก่พี่เย่ถง และพี่ ๆ ทุกคนที่ได้รับรางวัล!

    การเดินทางในรายการ “乘风” สำหรับฉันแล้ว ถือเป็นการค้นหาตัวเองที่มีความหมายอย่างลึกซึ้ง ตั้งแต่ก้าวขึ้นเวที “Sisters Who Make Waves 2025” ฉันรู้สึกเหมือนได้เปิดประตูบานใหม่ ในระหว่างทาง ฉันได้เรียนรู้และเข้าใจตัวเองมากขึ้นเรื่อย ๆ และยังได้พบกับทิศทางใหม่ในชีวิตของตัวเอง เส้นทางนี้เต็มไปด้วยความสวยงามและเซอร์ไพรส์ 

    ที่นี่ ฉันโชคดีมากที่ได้พบกับพี่สาวอีก 29 คนที่เปล่งประกาย พลังและแสงสว่างจากพวกเธอส่งถึงฉันเสมอ เป็นแรงบันดาลใจให้ฉันในทุกช่วงเวลา ฉันได้เรียนรู้อะไรมากมายจากพวกเธอ!

    แน่นอนว่าฉันยังอยากขอบคุณแฟน ๆ ชาวจีนทุกคนที่สนับสนุนฉันเสมอมา ขอบคุณมาก ๆ เลยค่ะ กำลังใจจากพวกคุณทำให้ฉันมีความกล้าและมั่นใจที่จะเปล่งประกายบนเวที!

    หวังว่าจะได้พบกันอีกในครั้งหน้า พวกเราต้องไม่พลาดที่จะเจอกันอีกนะคะ~”

    นุ่น วรนุช ร่วมรายการจีน Ride The Wind 2025นุ่น วรนุช ร่วมรายการจีน Ride The Wind 2025

    การร่วมรายการของ “นุ่น วรนุช” ครั้งนี้ไม่เพียงแต่ตอกย้ำความสามารถในระดับอินเตอร์ แต่ยังเป็นอีกก้าวสำคัญของศิลปินไทยในเวทีระดับเอเชีย ที่ทำให้แฟนจีนได้รู้จักและรักเธอมากยิ่งขึ้นอีกด้วย!

    นุ่น วรนุช Ride The Wind 2025นุ่น วรนุช Ride The Wind 2025

    อ่านเพิ่มเติม: 

  • KUBET – คนดังก็ไม่รอด “คาบี ลาเม” ราชา TikTok ผู้ติดตามอันดับ 1 ของโลก ถูกคุมตัวที่สนามบิน

    ดังแค่ไหนก็ไม่รอด “คาบี ลาเม” ท่านอาจารย์ราชา TikTok ยอดผู้ติดตามอันดับ 1 ของโลก ถูกสหรัฐฯ ควบคุมตัว ล่าสุดออกนอกประเทศแล้ว

    คาบี ลาเม Khaby Lame อินฟลูเอนเซอร์ชาวอิตาลีชื่อดังใน TikTok ซึ่งมีผู้ติดตามมากกว่า 162 ล้านคน และเป็นที่รู้จักจากการโพสต์คลิปตลกหน้านิ่ง ทำท่าทางเสียดสีแบบไม่พูด พร้อมท่าทำมือเป็นเอกลักษณ์

    ล่าสุดเขาถูกจับกุมในสหรัฐฯ ฐานอยู่เกินวีซ่า โดยได้รับอนุญาตให้ออกนอกประเทศโดยสมัครใจ

    ตามรายงานของสื่อสหรัฐฯ หน่วยงานตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากรของสหรัฐฯ (ICE) ระบุว่า เมื่อวันที่ 6 มิถุนายน Khaby Lame วัย 25 ปี ถูกจับกุมที่สนามบินนานาชาติแฮร์รี รีด ในเมืองลาสเวกัส รัฐเนวาดา เนื่องจากละเมิดกฎหมายตรวจคนเข้าเมือง โดยเขาเดินทางเข้าสหรัฐฯ ตั้งแต่วันที่ 30 เมษายน และอยู่ต่อเกินกำหนดจนถูกจับกุมในวันที่ 6 มิถุนายน ก่อนจะได้รับการปล่อยตัวในวันเดียวกัน

    จนถึงช่วงเย็นของวันที่ 7 มิถุนายน Lame ยังไม่ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเหตุการณ์นี้ แต่ยืนยันว่าเขาได้เดินทางออกจากสหรัฐฯ แล้ว

    ภายใต้การบริหารของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งเข้ารับตำแหน่งอีกครั้งในเดือนมกราคมที่ผ่านมา รัฐบาลได้เริ่มเข้มงวดกับนโยบายตรวจคนเข้าเมืองและเริ่มดำเนินการผลักดันชาวต่างชาติออกจากประเทศ แม้ว่าบางส่วนของนโยบายนี้จะถูกท้าทายในศาลก็ตาม

    Khaby Lame ปัจจุบันดำรงตำแหน่งทูตสันถวไมตรีขององค์การยูนิเซฟ (UNICEF) และถือเป็นหนึ่งในผู้ทรงอิทธิพลที่สุดใน TikTok มีผู้ติดตามมากกว่า 162 ล้านคน ซึ่งเป็นอันดับ 1 ของโลก จากสไตล์วิดีโอที่เน้นการแสดงสีหน้าและท่าทางง่าย ๆ เพื่อเสียดสีเคล็ดลับการใช้ชีวิตที่ซับซ้อนเกินจริง

    ตามข้อมูลของ Forbes ตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2022 ถึงกันยายน 2023 เขาทำรายได้สูงถึง 16.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 603 ล้านบาท) จากการร่วมงานกับแบรนด์ต่าง ๆ โดยค่าจ้างการโพสต์โฆษณาหนึ่งครั้งบน TikTok หรือ Instagram อาจสูงถึง 750,000 ดอลลาร์ (ประมาณ 22.47 ล้านบาทไทย)

  • KUBET – เตือนแล้วนะ! 3 พืชน้ำ เปรียบดัง “รังปรสิต” เสี่ยงโรคหนักถึงสมอง แต่ยังมีคนเชื่อว่ากินดิบดี

    เตือนภัยสุขภาพ! 3 ผักผลไม้ใกล้ตัว อาจเป็นแหล่งพยาธิแฝง แม้มองไม่เห็นด้วยตาเปล่า แต่กินดิบเสี่ยงโรคหนักถึงสมอง

    เมื่อพูดถึงพยาธิ หลายคนมักนึกถึงเนื้อสัตว์ดิบหรืออาหารทะเลที่ปรุงไม่สุก เช่น กุ้ง หอย ปู ปลา แต่รู้หรือไม่ว่า “ผักและผลไม้บางชนิดก็เป็นแหล่งพยาธิชั้นดี” โดยเฉพาะหากรับประทานแบบดิบ หรือไม่ล้างให้สะอาด  ก็อาจทำให้พยาธิแฝงเข้าสู่ร่างกายได้ง่ายโดยไม่รู้ตัว แต่หลายคนยังมีความเชื่อผิดๆ ว่าเป็นอาหารเพื่อบำรุงสุขภาพ

    กรณีตัวอย่างจริงจากจีน หญิงสาววัย 27 ปี ตกเป็นเหยื่อของพยาธิหลังรับประทาน “หัวแห้ว” แบบสดเป็นประจำ เพราะชอบในรสชาติกรอบหวานและความสะดวก แต่หลังจากนั้นราว 2 ปี เธอเริ่มปวดท้องเป็นระยะโดยไม่ทราบสาเหตุ จนในที่สุดต้องไปพบแพทย์ และตรวจพบว่ามีพยาธิใบไม้ในลำไส้จำนวน 2 ตัวอาศัยอยู่ภายในร่างกาย ซึ่งมีต้นตอมาจากการกินหัวแห้วสดที่ปนเปื้อนพยาธิมาอย่างยาวนาน

    ทำไมผักและผลไม้ถึงมีพยาธิได้? ผักผลไม้โดยเฉพาะชนิดที่เติบโตในน้ำหรือโคลน มักอยู่ในสภาพแวดล้อมเดียวกับพยาธิและไข่ของมัน ทั้งในขั้นตอนการปลูก การใส่ปุ๋ย การรดน้ำ และการพ่นยา หากใช้ปุ๋ยคอกหรือมูลสัตว์ก็ยิ่งเพิ่มความเสี่ยง นอกจากนี้ ในระหว่างการเก็บเกี่ยว ขนส่ง หรือเก็บรักษา ผักผลไม้ยังเสี่ยงต่อการปนเปื้อนพยาธิจากสิ่งแวดล้อมหรือผักอื่นๆ ที่ติดเชื้อมาก่อน

    เปิดรายชื่อ 3 ผักผลไม้เสี่ยงสูง เป็น “แหล่งพยาธิ” โดยไม่รู้ตัว

    1. หัวแห้ว
      เติบโตในพื้นที่น้ำตื้น เช่น บ่อและแอ่งโคลน ทำให้เปลือกด้านนอกมีโอกาสติดพยาธิ โดยเฉพาะพยาธิใบไม้ในลำไส้ หากรับประทานสดอาจเกิดอาการปวดท้อง ท้องเสีย คลื่นไส้ อาเจียน และภาวะขาดสารอาหาร ได้

    2.  กระจับเขาควาย (Water Caltrop)
      พืชน้ำที่เติบโตในแอ่งโคลนตื้น ผลมีเปลือกแข็งรูปทรงคล้ายเขาควาย มักพบในตลาดช่วงฤดูฝน ผู้คนบางส่วนอาจกัดเปลือกด้วยปากหรือกินแบบดิบ ซึ่งอาจทำให้ไข่พยาธิที่เกาะตามเปลือกเข้าสู่ร่างกาย ดังนั้น ห้ามกัดเปลือกหรือกินดิบ ควรต้มให้สุกก่อนเสมอ

    3. รากบัว
      เจริญเติบโตในดินโคลนก้นบึง ซึ่งมักมีพยาธิหลายชนิด เช่น พยาธิใบไม้ พยาธิตัวตืด หากรับประทานรากบัวดิบอาจทำให้ ลำไส้เกิดแผล แดง อักเสบ หรือมีอาการปวดท้อง ท้องเสีย และปัญหาทางเดินอาหารอื่น ๆ ได้

    อันตรายจากพยาธิเมื่อเข้าสู่ร่างกาย

    พยาธิเมื่อเข้าสู่ร่างกายมนุษย์ จะอาศัยอยู่ในระบบทางเดินอาหาร และแย่งสารอาหารจากเรา ส่งผลให้เกิด ภาวะขาดสารอาหาร โลหิตจาง บวม หรือร่างกายอ่อนเพลีย บางชนิดยังสามารถแพร่กระจายไปยัง ตับ ปอด หรือแม้แต่สมอง ได้

    ยกตัวอย่างเช่น พยาธิหนอนหัวหนาม ที่มักพบในหอยเชอรี่ หากเข้าสู่ร่างกายจะสามารถเดินทางไปยังสมอง ทำให้เกิดอาการ ไข้สูง ปวดหัว คอแข็ง และในรายรุนแรงอาจถึงขั้น เป็นอัมพาต ตาบอด หรือเสียชีวิตได้

    วิธีป้องกันพยาธิจากผักผลไม้

    • หลีกเลี่ยงการ กินผักและผลไม้ดิบ โดยเฉพาะพืชน้ำ เช่น รากบัว หัวแห้ว ลูกเก๋ากี้

    • เลือกซื้อผักจากแหล่งที่เชื่อถือได้ มีมาตรฐานการปลูกที่ปลอดภัย

    • ล้างผักให้สะอาดด้วย น้ำไหลหรือแช่น้ำเกลือ ก่อนปรุงอาหาร

    • ปรุงอาหารให้สุกเสมอ โดยเฉพาะผักที่มีโอกาสปนเปื้อนสูง

    • รักษาสุขอนามัยส่วนตัว เช่น ล้างมือก่อนรับประทานอาหารและหลังใช้ห้องน้ำ

    แม้ผักและผลไม้จะเป็นแหล่งสารอาหารที่ดี แต่หากไม่รู้จักเลือกและบริโภคอย่างระมัดระวัง ก็อาจกลายเป็น “ภัยเงียบ” ที่ทำให้พยาธิเข้าสู่ร่างกายได้โดยไม่รู้ตัว ทางที่ดีควร ล้างให้สะอาด และปรุงสุกก่อนทุกครั้ง เพื่อความปลอดภัยของคุณและคนที่คุณรัก

     

  • KUBET – ถั่ว 1 ชนิด ช่วยต้านแก่ กุญแจของความอ่อนเยาว์ หลายคนกินผิดวิธี ทิ้งส่วนที่มีประโยชน์

    ผลวิจัยล่าสุด ถั่ว 1 ชนิดยอดนิยม ช่วยต้านแก่ กุญแจของความอ่อนเยาว์ หลายคนกินผิดวิธี ทิ้งส่วนที่มีประโยชน์

    ถั่วลิสงอบ ของกินเล่นยอดฮิตของคนทั่วโลก แต่รู้ไหมว่า “เปลือกแดงบาง ๆ” ที่หลายคนแกะทิ้ง หรือเลี่ยงไม่กินกลับเป็นส่วนสำคัญที่สุด เพราะมันคือแหล่งสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยชะลอวัยได้!

    งานวิจัยยืนยันถั่วลิสงช่วยยืดอายุเซลล์

    การศึกษาล่าสุด จากทีมวิจัยในบาร์เซโลนา ประเทศสเปน พบว่า ถั่วลิสงอบพร้อมเปลือกแดง มีคุณสมบัติช่วย “ยืดอายุเทโลเมียร์” 

    เทโลเมียร์ (Telomere)  คือ ปลายของสายดีเอ็นเอ ซึ่งดีเอ็นเอคือ รหัสพันธุกรรมของเรา เทโลเมียร์ช่วยปกป้องสายดีเอ็นเอไม่ให้ถูกทำลายมากไปก่อนเวลาอันควร พูดง่ายๆ คือ เทโลเมียร์เปรียบเสมือนปลอกพลาสติกหุ้มปลายเชือกรองเท้าไม่ให้เชือกรองเท้าหลุดรุ่ยและพังก่อนเวลาอันควร ยิ่งเทโลเมียร์หดสั้นเร็ว เซลล์ก็ยิ่งแก่เร็ว แต่ถ้าชะลอการหดตัวได้ ก็จะช่วยให้เซลล์ดูอ่อนวัยนานขึ้น

    กลุ่มทดลองวัย 18-33 ปี ที่ทานถั่วลิสงแบบมีเปลือกแดงเป็นเวลา 6 เดือน เทโลเมียร์ยาวขึ้นเฉลี่ย 0.53 หน่วย มากกว่าคนที่ทานแค่เนยถั่วอย่างชัดเจน

    เปลือกแดงเล็ก ๆ แต่เต็มไปด้วยพลังต้านแก่

    นพ.จาง เจียหมิง ผู้อำนวยการแผนกพันธุกรรม จากโรงพยาบาลไทเปเวทเทอรันส์ ชี้ว่าเปลือกแดงของถั่วลิสงมีสารต้านอนุมูลอิสระเข้มข้น เช่น

    • m-Coumaric Acid

    • Resveratrol

    • Polyphenols

    ประโยชน์ของถั่วลิสง

    1. แหล่งโปรตีนคุณภาพสูง – อุดมด้วยกรดอะมิโนจำเป็น

    2. ดัชนีน้ำตาลต่ำ – เหมาะกับผู้ป่วยเบาหวาน

    3. ไฟเบอร์สูง – ช่วยระบบขับถ่าย

    4. วิตามินเพียบ – ทั้ง B1, B3, B6 และวิตามิน C

    5. แร่ธาตุหลากหลาย – แคลเซียม แมกนีเซียม ฟอสฟอรัส สังกะสี

    ข้อควรระวังในการกินถั่วลิสง

    • อาจมีสารก่อมะเร็งปนเปื้อน :  เช่น อะฟลาทอกซิน และไฮโดรคาร์บอนโพลีไซคลิกอะโรมาติก สาเหตุของโรคตับแข็ง และมะเร็งตับ หากพบจุดดำ ๆ ที่บริเวณเปลือก คล้ายเชื้อรา ไม่ควรกินโดยเด็ดขาด

    • อาจทำให้คอเรสเตอรอลในเลือดสูง :  แม้ตัวถั่วลิสงเองจะไม่มีคอเรสเตอรอล แต่ก็มีไขมันและแคลอรีสูง หากกินมากไปอาจสร้างคอเรสเตอรอลในเลือด

    • อาจมีสารพิษ :  เช่น สารฟอร์มัลดีไฮด์ ซึ่งอาจปนเปื้อนถั่วลิสง ที่เกิดจากกระบวนการคั่ว

    • อาจได้สารอาหารไม่ครบ :  หากนำถั่วลิสงมาผ่านความร้อน และน้ำมัน โดยไม่ผ่านวิธีถนอมสารอาหารที่ถูกต้อง อาจทำให้วิตามินบางชนิด และไขมันไม่อิ่มตัวหายไป ร่างกายจึงได้รับประโยชน์น้อยลง

    วิธีทานให้ได้ประโยชน์สูงสุด

    • ทานถั่วลิสงอบวันละ 25 กรัม (ประมาณ 1 กำมือเล็ก)

    • เลือกแบบ อบ ไม่ทอด 

    • ไม่มีการปรุงรส

    • ต้องมี เปลือกแดงติดอยู่

     

  • KUBET – จริงหรือ? เด็กที่มี EQ ต่ำ มักชอบพูด 3 ประโยคนี้ซ้ำๆ ลูกใครพูดครบ ควรช่วยปรับทันที!

    3 คำพูดที่เด็ก EQ ต่ำมักพูดซ้ำ! หากลูกคุณพูดครบ ต้องรีบปรับแนวทางเลี้ยงดูทันที!

    ในยุคที่พ่อแม่ส่วนใหญ่ให้ความสำคัญกับการเลี้ยงลูกให้ฉลาด เรียนเก่ง หลายคนกลับละเลย EQ หรือความฉลาดทางอารมณ์ ซึ่งมีบทบาทสำคัญไม่แพ้ IQ ในการพัฒนาเด็กให้เติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่ประสบความสำเร็จทั้งด้านชีวิตและการทำงาน

    เด็กที่มี EQ สูงมักจะรู้จักควบคุมอารมณ์ เข้าใจความรู้สึกของผู้อื่น รู้จักฟัง และมีทักษะในการแก้ไขปัญหาอย่างยืดหยุ่น ในทางกลับกัน เด็กที่มี EQ ต่ำ มักจะแสดงออกทางคำพูดหรือพฤติกรรมที่สะท้อนความไม่เข้าใจอารมณ์ของตนเองและคนรอบข้าง รวมถึงชอบพูดคำพูดที่เป็นสัญญาณเตือนว่าควรได้รับการดูแลและปรับแนวทางเลี้ยงดู

    บทความนี้จะพาไปดู 3 ประโยคที่เด็ก EQ ต่ำมักพูดซ้ำ พร้อมคำแนะนำสำหรับพ่อแม่ในการรับมืออย่างสร้างสรรค์ เพื่อเสริมสร้างความฉลาดทางอารมณ์ให้ลูกตั้งแต่วันนี้

    “พ่อ/แม่ทำอะไรกับหนูไม่ได้หรอก”

    คำพูดที่ฟังดูเหมือนท้าทายนี้ ไม่ใช่แค่เรื่องของการดื้อหรือไม่เชื่อฟังเท่านั้น แต่เป็นสัญญาณว่าลูกอาจกำลังขาดความเคารพต่อพ่อแม่ และยังไม่เข้าใจถึงขอบเขตในความสัมพันธ์กับผู้ใหญ่

    หากเด็กพูดคำนี้บ่อยๆ ด้วยท่าทีแข็งกร้าว หรือไม่ให้ความร่วมมือ นั่นอาจแสดงว่าเขายังขาดความสามารถในการควบคุมอารมณ์ และเริ่มพัฒนา “อีโก้” ที่ใหญ่เกินวัย ซึ่งหากไม่ได้รับการแก้ไข อาจนำไปสู่พฤติกรรมต่อต้านสังคม หรือไม่สามารถปรับตัวในกลุ่มเพื่อนเมื่อโตขึ้น

    แนวทางของพ่อแม่คือ หลีกเลี่ยงการดุด่าหรือใช้ความรุนแรง แต่ควรรอให้ลูกสงบก่อน แล้วจึงพูดคุยอย่างจริงใจ ให้เขาเห็นผลกระทบจากคำพูดนั้น พร้อมทั้งสอนวิธีสื่อสารอารมณ์อย่างเหมาะสม

    “แค่นี้ก็ทำไม่ได้เหรอ!”

    คำพูดดูแคลนแบบนี้ เป็นอีกหนึ่งสัญญาณของการขาดความเข้าใจและความเห็นอกเห็นใจผู้อื่น เด็กอาจยังไม่สามารถเข้าใจว่าแต่ละคนมีความสามารถไม่เท่ากัน และยังขาดทักษะในการสนับสนุนหรือให้กำลังใจผู้อื่น

    การพูดในลักษณะตำหนิแบบนี้ นอกจากจะสะท้อน EQ ที่ยังไม่พัฒนาแล้ว ยังทำให้เด็กมีแนวโน้มกลายเป็นคนไม่อดทน ไม่เปิดใจ และมีปัญหาในการทำงานเป็นทีมในอนาคต

    แนวทางของพ่อแม่คือ หมั่นชี้ให้ลูกเห็นมุมมองของผู้อื่น ส่งเสริมให้รู้จักคำว่า “เข้าใจ” มากกว่าการ “ตัดสิน” และหลีกเลี่ยงการวิจารณ์คนอื่นให้ลูกเห็นหรือได้ยิน เช่น “งานง่ายแค่นี้ยังทำไม่ได้อีก!”

    “ไม่ใช่หน้าที่ของหนู”

    แม้คำพูดนี้อาจฟังดูเหมือนปกติในสายตาบางคน แต่แท้จริงแล้วสะท้อนถึงทัศนคติที่ขาดความรับผิดชอบ และไม่พร้อมมีส่วนร่วมในกิจกรรมส่วนรวม เด็กที่มักพูดคำนี้ อาจกำลังพัฒนาเป็นคนที่มองโลกในมุมของตัวเอง และไม่สนใจความต้องการของผู้อื่น

    หากไม่สอนให้ลูกรู้จัก “หน้าที่” และ “ความร่วมมือ” ตั้งแต่ยังเล็ก เมื่อโตขึ้นเขาอาจกลายเป็นคนที่ไม่พร้อมทำงานร่วมกับผู้อื่น และยากในการสร้างความสัมพันธ์เชิงบวกในสังคม

    แนวทางของพ่อแม่คือ ใช้สถานการณ์จริงในชีวิตประจำวันเป็นตัวอย่าง ฝึกให้ลูกรู้จักช่วยเหลือเล็กๆ น้อยๆ เช่น เก็บจานหลังทานข้าว หรือช่วยจัดของ ให้รู้ว่า “การมีส่วนร่วม” คือเรื่องที่ทุกคนทำได้ ไม่ว่าเล็กหรือใหญ่

    คำพูดทั้ง 3 ประโยคข้างต้น อาจดูเหมือนเรื่องเล็ก แต่จริงๆ แล้วคือ “เสียงสะท้อนจากภายใน” ที่บอกว่าลูกของคุณกำลังต้องการคำแนะนำที่ถูกต้อง หากพ่อแม่เพียงแค่ดุด่า หรือละเลยโอกาสในการสอน ลูกก็จะไม่ได้รับเครื่องมือที่จำเป็นสำหรับการเติบโตอย่างมั่นคงทั้งด้านจิตใจและพฤติกรรม

    ดังนั้น อย่ารอให้สายเกินไป เพราะการปลูกฝัง EQ เป็นทักษะที่ฝึกได้ และควรเริ่มตั้งแต่วันนี้ ผ่านการสื่อสารที่อ่อนโยน ความเข้าใจ และการเป็นแบบอย่างที่ดีของพ่อแม่ เพราะเมื่อเด็กมี EQ สูง เขาจะเติบโตเป็นคนที่เข้มแข็งทั้งภายใน และเป็นที่รักของคนรอบข้าง

     

  • KUBET – จำแทบไม่ได้! ส่องภาพ “ไฮโซตั๋ม” คู่กรณี “หมอแอร์” ปัจจุบัน สวย หุ่นแซ่บมาก

    จำแทบไม่ได้! “ไฮโซตั๋ม วิชชุดา ลีนุตพงษ์” กลับมาเป็นกระแสอีกครั้ง หลังชื่ออดีตคู่กรณี “หมอแอร์” กลับมาเป็นข่าว

    ท่ามกลางกระแสข่าวเกี่ยวกับ “หมอแอร์” พ.ต.ท.หญิง พญ.อัญชุลี ธีระวงศ์ไพศาล ที่กำลังเป็นที่พูดถึงบนโซเชียลในขณะนี้ ชื่อของ “ไฮโซตั๋ม วิชชุดา ลีนุตพงษ์” ก็ถูกพูดถึงอย่างคึกคักอีกครั้ง โดยเฉพาะในโลกออนไลน์ที่หลายคนแห่เข้าไปแสดงความคิดเห็นและส่งข้อความถามใน Facebook ส่วนตัวของเธอ ว่า “เห็นข่าวของอดีตคู่กรณีหรือยัง?”

    แม้เวลาจะผ่านมาหลายปี แต่ภาพลักษณ์ของไฮโซตั๋มในปัจจุบันก็ยังคงน่าจับตามอง เธอเปลี่ยนลุคจากสาวมั่นกล้าชน มาเป็นหญิงสาวที่ดูสวยเฉี่ยวและหุ่นเป๊ะปัง จนหลายคนถึงกับเอ่ยปากว่า “จำแทบไม่ได้”

    ย้อนเส้นทางชีวิต ไฮโซสาวจากตระกูลยนตรกิจ

    วิชชุดา ลีนุตพงษ์ หรือ “ไฮโซตั๋ม” เป็นนักธุรกิจหญิงที่มาจากตระกูลใหญ่ในวงการรถยนต์ของเมืองไทย โดยเป็นบุตรสาวคนโตของนายวิเชียร ลีนุตพงษ์ หนึ่งในผู้บริหารบริษัทในเครือ ยนตรกิจ ซึ่งเป็นผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายรถยนต์หรูหลายแบรนด์ในประเทศไทย

    โปรไฟล์ไม่ธรรมดา การศึกษาระดับอินเตอร์

    • จบมัธยมจากโรงเรียนมาแตร์เดอีวิทยาลัย
    • เรียนต่อระดับมัธยมปลายที่โรงเรียนประจำในประเทศอังกฤษ โรงเรียนประจำที่อังกฤษ Wentworth Milton Mount, Bournemouth, UK
    • ปริญญาตรีด้าน Social Work จาก Seattle University ประเทศสหรัฐอเมริกา
    • ปริญญาโทด้านการสอนภาษาอังกฤษแก่ผู้ที่ไม่ใช่เจ้าของภาษา จากสถาบันเดียวกัน
    • ปริญญาเอกด้าน Social Work ทางออนไลน์จาก Capella University

    บทบาทนักธุรกิจหญิงแถวหน้า

    ในแวดวงธุรกิจ ไฮโซตั๋มดำรงตำแหน่งเป็นผู้ช่วยรองประธานเจ้าหน้าที่บริหารของบริษัท ยนตรกิจ คอร์ปอเรชั่น จำกัด และยังเป็นกรรมการผู้จัดการบริษัท เอส แอล อินเตอร์เนชั่นแนล ออโตโมบิล จำกัด ซึ่งดูแลด้านการตลาดและประชาสัมพันธ์รถยนต์หรู

    เคยเป็นข่าวดังจากคดีความกับหมอแอร์

    ชื่อของเธอเคยปรากฏอยู่ในหน้าข่าวอย่างครึกโครม เมื่อช่วงปี 2558 – 2560 จากกรณีพิพาทกับ “หมอแอร์” ซึ่งเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับข้อความหมิ่นประมาทและการพาดพิงถึงกิจการของหมอแอร์ จนนำไปสู่การฟ้องร้องคดีอาญา โดยศาลพิพากษาให้ไฮโซตั๋มมีความผิดฐานหมิ่นประมาท จำคุก 6 ปี ปรับ 300,000 บาท แต่ให้รอลงอาญา

    คดีนี้เป็นข่าวใหญ่ในขณะนั้น เนื่องจากทั้งสองฝ่ายมีการตอบโต้กันอย่างเผ็ดร้อนผ่านสื่อมวลชนและโซเชียลมีเดีย จนกลายเป็นหนึ่งในประเด็นดราม่าที่ถูกพูดถึงอย่างกว้างขวาง

    วันนี้…เธอกลับมาอีกครั้งพร้อมลุคใหม่สุดแซ่บ

    เวลาผ่านไปหลายปี ไฮโซตั๋มกลับมาเป็นที่สนใจในโลกออนไลน์อีกครั้ง ด้วยภาพลักษณ์ที่เปลี่ยนไปอย่างชัดเจน เธอโพสต์ภาพผ่านโซเชียลให้เห็นความสดใส และความมั่นใจในตัวเอง ด้วยหุ่นสุดปังและสไตล์แฟชั่นสุดเก๋ ที่ใครเห็นก็ต้องร้องว้าว

    ใครที่ยังไม่เคยเห็นลุคใหม่ของเธอ แนะนำให้เข้าไปชมด้วยตาตัวเองที่ Facebook: Tummy Leenutaphong

  • KUBET – อัปเดต “20 อันดับชื่อจริงคนไทย” ที่ใช้ซ้ำกันมากที่สุดในประเทศ – มีชื่อคุณมั้ย?

    คุณเคยสงสัยไหมว่า “ชื่อจริง” ของตัวเองติดอันดับชื่อที่มีคนใช้มากที่สุดในประเทศไทยหรือเปล่า?

    แม้ชื่อจะเป็นสิ่งที่ดูเฉพาะตัว แต่ความจริงคือ บางชื่อมีคนใช้ซ้ำกันมากกว่าหลายแสนคน!

    วันนี้เรารวบรวมข้อมูลจากทะเบียนราษฎร (อัปเดตล่าสุด) มาให้คุณแล้วกับ  20 อันดับชื่อจริงคนไทยที่ใช้บ่อยที่สุด พร้อมจำนวนผู้ใช้จริงทั่วประเทศ

    ลองเลื่อนดูเลยว่า ชื่อคุณหรือคนใกล้ตัวติดอันดับหรือไม่!

    20 อันดับชื่อจริงคนไทยยอดฮิต (รวมทุกเพศ ทุกช่วงอายุ)

     1749525599561

    จะเห็นได้ว่า ชื่อจริงยอดนิยมของคนไทยสะท้อนทั้งค่านิยม ความเชื่อ และยุคสมัย บางชื่อยังคงติดอันดับแม้เวลาจะผ่านไปหลายสิบปี ขณะที่บางชื่อก็เริ่มหายไปจากรุ่นใหม่

    ไม่ว่าชื่อของคุณจะ “ติดอันดับ” หรือไม่ สิ่งสำคัญคือ ชื่อของเราทุกคนมีความหมายและคุณค่าพิเศษในแบบของตัวเอง

  • KUBET – เซอร์ไพรส์ “เจ้าสัวคณิน สงครามส่งด่วน” มีน้องแท้ๆ เป็นถึงพระเอกระดับตำนาน

    เป็นอีกหนึ่งตัวละครสำคัญเลยทีเดียว สำหรับ เจ้าสัวคณิน แห่งซีรีส์ฮอต สงครามส่งด่วน ที่ได้นักร้องนักแสดงมากฝีมืออย่าง เอก-ธเนศ วรากุลนุเคราะห์ มารับบทบาทช่วยส่งเสริมให้ตัวละครดูน่าค้นหามากยิ่งขึ้น

    และหากได้ย้อนกลับไปดูประวัติแล้ว ก็ทำเอาหลายๆ คนต่างเซอร์ไพรส์อยู่ไม่น้อย เนื่องจาก เอก ธเนศ มีพี่น้องด้วยกันทั้งหมด 4 คน โดยหนึ่งในนั้นโลดแล่นอยู่ในวงการบันเทิงเช่นกัน ทั้งยังเป็นระดับพระเอกในตำนานอีกด้วย

    ซึ่งก็ไม่ใช่ใครที่ไหน แต่เป็นพระเอกผู้ล่วงลับ ตั้ว-ศรัณยู วงษ์กระจ่าง แต่ที่ใช้คนละนามสกุลกัน เนื่องจากในวัยเด็กนั้น ตั้ว ได้ถูกป้าขอไปเลี้ยงเป็นบุตรบุญธรรมนั่นเอง

  • KUBET – อันดับพุ่งทันที! FIVB ประกาศอันดับโลก “วอลเลย์บอลหญิงไทย” หลังจบสัปดาห์แรก

    ทีมวอลเลย์บอลหญิงทีมชาติไทย ที่เข้าร่วมการแข่งขัน วอลเลย์บอลหญิง เนชั่นส์ลีก 2025 (VNL 2025) สัปดาห์แรก ที่กรุงปักกิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีน ระหว่างวันที่ 4 มิถุนายน – วันที่ 8 มิถุนายน 2568

    หลังจบสนามแรก “ทัพนักตบลูกยางสาวไทย” ทำผลงานชนะ 1 และ แพ้ 3 นัด โดยเกมส่งท้ายเป็นฝ่ายเอาชนะ ฝรั่งเศส 3-1 เซต ทำให้ได้คะแนนสะสมโลก +6.53 คะแนน

    plauty2

    ซึ่งจากผลงานเกมล่าสุดทำให้อันดับโลกจาก สหพันธ์วอลเลย์บอลนานาชาติ (FIVB) ของ “ทัพนักตบลูกยางสาวไทย” ที่เคยหล่นไปอยู่ที่ 17 ก่อนเกมขยับกลับขึ้นมาอยู่ที่ 14 ของโลกได้อีกครั้งด้วยการมี 188.72 คะแนน

    ขณะที่ในระดับทวีปยังคงรั้งอันดับ 3 ของเอเชีย เป็นรอง จีน เบอร์ 1 ที่มี 347.37 คะแนน และ ญี่ปุ่น อันดับ 2 ของเอเชีย ที่มี 346.16 คะแนน ขณะที่อันดับ 4 คาซัคสถาน มี 120.19 คะแนน

  • KUBET – เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ ศิลปินแห่งชาติ ได้รับเงินเดือนเท่าไหร่

    เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ ศิลปินแห่งชาติ สาขาทัศนศิลป์ (จิตรกรรม) ได้รับเงินเดือนกี่บาท สวัสดิการมีอะไรบ้าง

    อาจารย์เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ จิตรกรไทยมีผลงานจิตรกรรมไทยหลายผลงาน ไม่ว่าจะเป็นภาพจิตรกรรมไทยในอุโบสถวัดพุทธประทีป กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ, เขียนภาพประกอบบทพระราชนิพนธ์ พระมหาชนก และผลงานศิลปะที่ วัดร่องขุ่น ซึ่งมีทั้งงานสถาปัตยกรรม ประติมากรรมปูนปั้น และงานจิตรกรรมไทย จนได้รับการยกย่องเป็นศิลปินแห่งชาติ สาขาทัศนศิลป์ (จิตรกรรม) เมื่อปี พ.ศ. 2554 อยากรู้ไหม อ.เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ ได้รับเงินเดือนจากการเป็นศิลปินแห่งชาติเท่าไหร่

    ประวัติ อ.เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ ศิลปินแห่งชาติ ปัจจุบันเลิกวาดรูปด้วยเหตุผลสุดเฟี้ยว

    “ศิลปินแห่งชาติ” ได้รับ เงินเดือน-สวัสดิการ อะไรบ้าง?

    เงินเดือน เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์

    • เงินเดือน 25,000 บาท ตลอดระยะเวลาที่มีชีวิตอยู่
    • ค่ารักษาพยาบาลตามพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยเงินสวัสดิการเกี่ยวกับการรักษาพยาบาลโดยอนุโลม เว้นแต่มีสิทธิเบิกจากหน่วยงานอื่น ให้เบิกจากหน่วยงานนั้นก่อน
    • ถ้าเบิกจากหน่วยงานนั้นได้ต่ำกว่าสิทธิตามพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยเงินสวัสดิการเกี่ยวกับการรักษาพยาบาล ให้มีสิทธิเบิกในส่วนที่ยังขาดอยู่ได้อีกภายในวงเงินไม่เกิน 100,000 บาท ต่อปีงบประมาณ
    • เงินช่วยเหลือเมื่อประสบสาธารณภัยเท่าที่เสียหายจริง รายละไม่เกิน 50,000 บาท ต่อครั้ง
    • ค่าของเยี่ยมในยามเจ็บป่วย หรือในโอกาสสำคัญเท่าที่จ่ายจริง รายละไม่เกิน 3,000 บาทต่อครั้ง
    • กรณีเสียชีวิตจะได้รับเงินช่วยเหลือบำเพ็ญกุศลศพ รายละ 20,000 บาท เงินช่วยเหลือค่าจัดทำหนังสือเผยแพร่ผลงานเมื่อเสียชีวิตเท่าที่จ่ายจริง รายละไม่เกิน 150,000 บาท

    คุณสมบัติของศิลปินแห่งชาติ มีดังนี้

    • เป็นผู้มีสัญชาติไทยและยังมีชีวิตอยู่ในวันตัดสิน
    • เป็นผู้ที่มีความสามารถ มีความเชี่ยวชาญ และมีผลงานดีเด่น เป็นที่ยอมรับของวงการศิลปินแขนงนั้น
    • เป็นผู้สร้างสรรค์และพัฒนาศิลปะแขนงนั้นจนถึงปัจจุบัน
    • เป็นผู้ผดุงและถ่ายทอดศิลปะแขนงนั้น
    • เป็นผู้ปฏิบัติงานศิลปะแขนงนั้นอยู่ในปัจจุบัน
    • เป็นผู้มีคุณธรรมและมีความรักในวิชาชีพของตน
    • เป็นผู้มีผลงานที่ยังประโยชน์ต่อสังคมและมนุษยชาติ

    สรุป : หากเทียบเงินเดือนศิลปินแห่งชาติ ที่อาจารย์เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ ได้รับการยกย่องให้เป็น ศิลปินแห่งชาติ สาขาทัศนศิลป์ (จิตกรรม) เมื่อปี 2554 แล้ว จะพบว่าได้รับเงินเดือน 25,000 บาท พร้อมสิทธิสวัสดิการรักษาพยาบาลต่างๆ แต่ล่าสุด อาจารย์เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ เขียนจดหมายระบุว่า ตลอดระยะเวลา 14 ปี ในตำแหน่งศิลปินแห่งชาติ ได้แจ้งว่าขอไม่รับเงินเดือน และได้มอบคืนให้กับกรมส่งเสริมวัฒนธรรมเพื่อนำไปช่วยเหลือศิลปินแห่งชาติที่ยากจน