ผู้เขียน: admin

เคยสงสัยไหมว่า… ตัวเราสูงพอหรือยัง? แล้วส่วนสูงของเรานั้น “สูงกว่า” หรือ “เตี้ยกว่า” คนอื่นมากน้อยแค่ไหน? ล่าสุดมีการเปิดเผยข้อมูลจากระบบสารสนเทศสนับสนุนงานส่งเสริมสุขภาพและอนามัยสิ่งแวดล้อม กระทรวงสาธารณสุข ที่ระบุ “ค่าเฉลี่ยส่วนสูงของคนไทย อายุ 19 ปี” ประจำปีงบประมาณ 2568 ซึ่งถือเป็นช่วงวัยที่ร่างกายหยุดเจริญเติบโตแล้ว ทำให้สามารถนำมาใช้เป็นเกณฑ์เทียบเคียงมาตรฐานของประชากรไทยได้เป็นอย่างดี

ส่วนสูงเฉลี่ยของคนไทยอายุ 19 ปี ในปีงบประมาณ 2568

จากข้อมูลระบุว่า

• ผู้ชายไทยอายุ 19 ปี มีค่าเฉลี่ยส่วนสูงอยู่ที่ 166.72 เซนติเมตร

• ผู้หญิงไทยอายุ 19 ปี มีค่าเฉลี่ยส่วนสูงอยู่ที่ 157.92 เซนติเมตร

โดยกระทรวงสาธารณสุขตั้งเป้าในปี 2569 ว่า

• ค่าเฉลี่ยส่วนสูงของชายไทยควรอยู่ที่ 175 เซนติเมตร

• ค่าเฉลี่ยส่วนสูงของหญิงไทยควรอยู่ที่ 162 เซนติเมตร

ซึ่งเท่ากับว่า…

• เด็กชายไทยในปี 2568 ยัง “เตี้ยกว่ามาตรฐานเป้าหมาย” อยู่ประมาณ 8.28 เซนติเมตร

• เด็กหญิงไทยในปี 2568 ยัง “เตี้ยกว่ามาตรฐานเป้าหมาย” อยู่ประมาณ 4.08 เซนติเมตร

เป้าหมายที่มากกว่าความสูง

เบื้องหลังของการตั้งเป้าหมายเรื่อง “ส่วนสูง” ไม่ใช่แค่เพื่อตัวเลขบนตลับเมตร แต่สะท้อนถึงคุณภาพชีวิตและโภชนาการของคนในชาติอย่างลึกซึ้ง เพราะส่วนสูงของประชากรมักเกี่ยวข้องกับปัจจัยด้านโภชนาการ สุขภาพในวัยเด็ก และการเข้าถึงบริการทางการแพทย์ที่เหมาะสม

เป้าหมายนี้สอดคล้องกับแนวทางของ กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข ที่มุ่งส่งเสริมให้เยาวชนไทยมีสุขภาพดีตั้งแต่วัยเด็ก โดยการติดตามพัฒนาการทางร่างกายตั้งแต่อายุ 6-19 ปี ผ่านการวัดส่วนสูง น้ำหนัก และดัชนีมวลกาย (BMI)

แล้วเราสูงแค่ไหน?

ลองวัดส่วนสูงของตัวคุณเอง แล้วเทียบกับค่าเฉลี่ยดูว่า…

• ถ้าคุณผู้ชายสูงเกิน 166.72 ซม. = คุณสูงกว่าค่าเฉลี่ยชายไทย

• ถ้าคุณผู้หญิงสูงเกิน 157.92 ซม. = คุณสูงกว่าค่าเฉลี่ยหญิงไทย

แต่ถ้าสูงต่ำกว่านี้ ก็ไม่ต้องน้อยใจไป เพราะสุขภาพที่ดีไม่ได้วัดกันแค่ที่ความสูงเท่านั้น แต่อยู่ที่การดูแลร่างกายให้แข็งแรงจากภายใน ทั้งเรื่องการกินอาหารครบ 5 หมู่ ออกกำลังกายสม่ำเสมอ และนอนพักผ่อนให้เพียงพอ

อ้างอิง

• ข้อมูลจาก: รายละเอียดรายการข้อมูลสำหรับการส่งเสริมสุขภาพและอนามัยสิ่งแวดล้อม พ.ศ. 2567, กองแผนงาน กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข

• ข้อมูลค่าเฉลี่ยส่วนสูงปี 2568 จากระบบสารสนเทศสนับสนุนงานส่งเสริมสุขภาพและอนามัยสิ่งแวดล้อม

คุณแม่เสียชีวิตจากมะเร็งลำไส้ใหญ่ ภายในเวลาไม่ถึง 1 ปี ทั้งที่มีอาการเพียงอย่างเดียว ตอนแรกหมอยังคิดว่าเป็นโรคอื่น

คุณแม่วัย 76 ปี “มาเรีย พาสซคีวิชซ์” ชาวอังกฤษ สังเกตว่าตัวเองมีการขับถ่ายที่เปลี่ยนไป จึงไปพบแพทย์ แต่ในตอนแรกกลับได้รับแจ้งว่าอาการนั้นน่าจะเกิดจากการแพ้อาหารบางชนิด

ต่อมาในเดือนสิงหาคม ปี 2023 เธอกลับได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่ระยะที่ 4 และมะเร็งได้ลุกลามไปยังตับแล้ว

การทำเคมีบำบัดในช่วงแรกดูเหมือนจะได้ผลดีอยู่บ้าง แต่ไม่นานนัก โรคของเธอก็เริ่มดื้อต่อการรักษาในรอบถัด ๆ ไป และในช่วงกลางเดือนเมษายน ปี 2024 มาเรียก็ได้รับแจ้งจากแพทย์ว่าเธอน่าจะมีชีวิตอยู่ได้อีกเพียง 3 ถึง 6 เดือน

อย่างไรก็ตาม น่าเศร้าที่เธอเสียชีวิตลงเพียง 3 วันหลังจากนั้น ในวันที่ 25 เมษายน

แอนน์-มารี ลูกสาววัย 43 ปีของเธอซึ่งอาศัยอยู่ในโคเวนทรี เล่าว่า การที่แม่จากไปอย่างกะทันหลังจากได้รับข่าวว่ายังพอมีเวลาอีกหลายเดือนนั้น “เป็นเรื่องที่ช็อกอย่างถึงแก่น”

“แม่ของฉันมีการเปลี่ยนแปลงเรื่องการขับถ่ายที่เห็นได้ชัด คือมีความถี่มากขึ้น และมักรู้สึกปวดแบบฉับพลัน” แอนน์-มารีเล่าถึงอาการหลักของแม่เธอ

“ตอนแรกคิดกันว่าอาจเกิดจากการแพ้อาหารบางชนิด แต่เมื่อแม่รู้สึกว่ามันไม่ใช่ ก็ต้องพยายามผลักดันให้หมอตรวจเลือดเพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงให้ได้”

“หลังจากรู้ผลวินิจฉัยตอนแรก เราก็เริ่มนับวันคร่าว ๆ ว่า 3 เดือนคือถึงเมื่อไร แล้วมีเหตุการณ์อะไรสำคัญบ้างที่เราจะทำร่วมกันในครอบครัว แต่สุดท้ายเราก็ไม่ได้ทำอะไรเลย…”

“พอแม่จากไปกระทันหันเพียงไม่กี่วันหลังจากนั้น มันสะเทือนใจอย่างที่สุดจริง ๆ”

หวยลาววันนี้ 18/04/68 ถ่ายทอดสดหวยลาว ตรวจหวยลาวล่าสุด หวยลาวพัฒนา 18 เม.ย. 68

ลุ้นสด หวยลาววันนี้ 18/4/68 ถ่ายทอดสดหวยลาว หวยลาวล่าสุด หวยลาวพัฒนา 18 เมษายน 2568 หวยลาวย้อนหลัง หวยลาว 6 ตัว วันนี้ออกอะไร งวด 18 เมษายน 2568 Laolottery หวยลาว ออกรางวัลทุก วันจันทร์ วันพุธ และ วันศุกร์

 

รายงานผลหวยลาว 18 เมษายน 2568 (18/4/68) ผลหวยลาว 6 ตัวออกรางวัลดังนี้

ตรวจหวยลาว งวดประจำวันที่ 18 เมษายน 2568

เลข 6 ตัว : 265116
เลข 5 ตัว : 65116
เลข 4 ตัว : 5116
เลข 3 ตัว : 116
เลข 2 ตัว : 16

เลขนามสัตว์

3 ຫ່ານ ห่าน

20 ຂີ້ເຂັບ ตะขาบ

2 ຫອຍ หอย

7 ໝູ หมู

ผลสลากพัฒนา 5/45

22 / 39 / 11 / 24 / 35

รายละเอียดผลหวย

 

เงินรางวัล

เลข 4 ตัว ถ้าถูกจะได้เงินรางวัลเท่ากับ จำนวนที่ซื้อคูณด้วย 6,000 ตัวอย่างเช่น ซื้อ 1,000 กีบ จะได้ 6,000,000 กีบ
เลข 3 ตัว ถ้าถูกจะได้เงินรางวัลเท่ากับ จำนวนที่ซื้อคูณด้วย 500 ตัวอย่างเช่น ซื้อ 1,000 กีบ จะได้ 500,000 กีบ
เลข 2 ตัว ถ้าถูกจะได้เงินรางวัลเท่ากับ จำนวนที่ซื้อคูณด้วย 60 ตัวอย่างเช่น ซื้อ 1,000 กีบ จะได้ 60,000 กีบ

นักข่าวหนุ่ม ท้องอืด-ปวดหัวเรื้อรัง ดื่มสิ่งนี้แทน “กาแฟ” เป็นเวลา 1 เดือน ได้รับผลลัพธ์ที่น่าประหลาดใจ

สำหรับคนที่ติดกาแฟ การดื่มอย่างน้อย 4 แก้วต่อวันเป็นเรื่องที่ยากจะเลิก แต่การแทนที่กาแฟด้วยเครื่องดื่มอื่น เช่น “ชาเขียว” อาจนำมาซึ่งประโยชน์ต่อสุขภาพอย่างมาก ตามรายงานจากสื่ออังกฤษ The Mirror

ล่าสุด คริสโตเฟอร์ เมแกรธ นักข่าวจาก Liverpool Echo เปิดเผยว่า เขาได้เปลี่ยนมาดื่มชาเขียวแทนกาแฟเป็นเวลา 1 เดือน และได้รับผลลัพธ์ที่น่าประหลาดใจ

“ในวันทำงานปกติ 8 ชั่วโมง ผมจะดื่มกาแฟอย่างน้อย 4 แก้ว ซึ่งถือเป็นปริมาณมากสำหรับคนทั่วไป แต่สำหรับคนที่ติดกาแฟอย่างผม มันไม่ใช่ปัญหาใหญ่” คริสโตเฟอร์ กล่าว

“ผมตัดสินใจเปลี่ยนจากกาแฟมาเป็นชาเขียวเพื่อรับมือกับปัญหาสุขภาพ เมื่อรู้สึกอึดอัดท้องและปวดหัวเรื้อรัง ผมคิดว่ามันมาจากการบริโภคคาเฟอีนและนมมากเกินไป ผมอยากเปลี่ยนแปลงโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อฤดูร้อนกำลังจะมาถึง และความต้องการมีผิวพรรณที่สดใสและเป็นธรรมชาติของผมก็เพิ่มขึ้น”

คริสโตเฟอร์ ที่ไม่เคยชอบดื่มชาเลย ต้องเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่เมื่อปรับเปลี่ยนนิสัยการดื่มของตัวเอง”

เขากล่าวว่า ร่างกายเหมือนกับ “ตะโกนทั้งวันว่า กาแฟหายไปไหน?”

“ในช่วงทดลอง 1 เดือน ผมเลือกดื่มชาเขียวจากซูเปอร์มาร์เก็ต ดื่มประมาณ 5-6 แก้วใหญ่ในวันทำงาน และลดลงเหลือแค่ไม่กี่แก้วในวันหยุดสุดสัปดาห์” คริสโตเฟอร์ กล่าว

“ผมดื่มชาเขียวอย่างเคร่งครัด ตั้งแต่ 9 โมงเช้า ถึง 5 โมงเย็น และจะดื่มเพียงแค่บางครั้งก่อนเข้านอนเท่านั้น”

ผลลัพธ์ที่ได้รับหลังจากดื่มชาเขียวแทนกาแฟเป็นเวลา 1 เดือน

“วันแรกมันยากมาก ชาเขียวมีกลิ่นรสที่แตกต่างจากที่คุ้นเคยและไม่ได้ให้ผลอะไรกับผมเลย อย่างไรก็ตาม วันถัดมา ผมรู้สึกเหมือนตื่นขึ้นในร่างกายใหม่” คริสโตเฟอร์ กล่าว

“ในบางครั้งที่อยากดื่มกาแฟมาก ผมก็ยังดื่มสักแก้วเพื่อเริ่มต้นวัน แต่เมื่อชาเขียวกลายเป็นเพื่อนคู่ใจที่คอยดื่มประจำ กาแฟทำให้ท้องผมไม่ค่อยสบาย”

“ผมรู้สึกอ่อนเพลีย อึดอัดท้อง และโดยรวมแล้วรู้สึกไม่ค่อยดี ถ้าผมเลือกดื่มกาแฟ ก็จะดื่มแค่แก้วเดียว และถึงอย่างนั้น ผมก็ไม่ค่อยชอบมันจริงๆ”

“ผมได้มุ่งมั่นในการดื่มชาเขียวอย่างต่อเนื่อง หลังจากดื่มชาเขียวเป็นเวลา 1 เดือน ผมรู้สึกมีชีวิตชีวามากขึ้นและมีความสุขมากขึ้น อาการปวดหัวหายไปและใบหน้าของผมดูสดใสขึ้น”

คริสโตเฟอร์ กล่าวว่า บริเวณผิวรอบดวงตามีความกระจ่างขึ้น รวมถึงผิวหน้าทั้งหมด “อาการอึดอัดท้องที่เคยเกิดขึ้นทุกวันลดลง และผมเชื่อว่าผมดูเพรียวขึ้น อาจจะลดน้ำหนักได้บ้างในเดือนนี้ แต่ผมไม่ได้ติดตามน้ำหนักของตัวเอง จึงไม่สามารถยืนยันได้ แต่สิ่งที่สำคัญคือผมชอบรูปลักษณ์ของตัวเองมากกว่า”

ดังนั้น คริสโตเฟอร์ ตัดสินใจว่าจะดื่มชาเขียวไปตลอดและ “ไม่สามารถจินตนาการได้ว่าจะเปลี่ยนมันเป็นเครื่องดื่มร้อนชนิดอื่น”

Maria Tyutina

ประโยชน์ของชาเขียว

ชาเขียวมีสารโพลีฟีนอลชนิดหนึ่งที่เรียกว่า คาเทชิน ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยป้องกันการทำลายเซลล์และมีประโยชน์ต่อสุขภาพหลายด้าน

คาเทชินที่พบมากและมีชื่อเสียงที่สุดในชาเขียวคือ เอพิกัลโลแคทชิน-3-กาแลต (EGCG) ซึ่งงานวิจัยแสดงให้เห็นว่ามันสามารถช่วยปรับปรุงหลายๆ สภาวะของสุขภาพหรืออาการของโรค

การศึกษาจากห้องสมุดการแพทย์แห่งชาติสหรัฐฯ พบว่า EGCG สามารถช่วยลดความเสี่ยงในการเป็นโรคเบาหวาน เสริมสร้างความตั้งใจ กระตุ้นกระบวนการเผาผลาญ และปรับปรุงสุขภาพของระบบทางเดินอาหาร

ได้รับกำลังใจจากเพื่อนว่า “ถ้าผอมต้องสวยแน่!” สาวจีนฮึดสู้ ลดน้ำหนักได้ 18 โล ใน 6 เดือน จนใบหน้าคล้ายนางเอกดัง

หลังลดน้ำหนัก เปลี่ยนไปจนแทบจำไม่ได้ หญิงวัย 32 ปี จากมณฑลหูเป่ย ประเทศจีน ได้รับแรงบันดาลใจจากคำพูดของเพื่อนว่า “ถ้าผอมต้องสวยแน่” จึงมุ่งมั่นลดน้ำหนัก และสามารถลดได้ถึง 15 กิโลกรัม ในเวลาเพียงครึ่งปี จนใบหน้าคล้ายนางเอกดัง ทำเอาชาวเน็ตตะลึงกันทั้งโซเชียล

หญิงรายนี้ เล่าว่า น้ำหนักตัวเริ่มเพิ่มขึ้นตั้งแต่ปี 2018 และสะสมต่อเนื่องยาวนานถึง 5 ปี จนกระทั่งวันหนึ่งมีเพื่อนชมว่า “ถ้าผอมต้องสวยแน่” คำพูดนั้นจุดประกายให้เธอตัดสินใจเริ่มต้นลดน้ำหนักอย่างจริงจัง

หญิงรายนี้เผยว่า ตั้งแต่ต้นปี 2024 เธอเริ่มจริงจังกับการออกกำลังกาย ทั้งคาร์ดิโอและเวทเทรนนิ่ง พร้อมกับควบคุมอาหารอย่างเข้มงวด เลิกกินของโปรดอย่างสตรีทฟู้ด ขนมหวาน และชานม แล้วหันมาทำอาหารเอง ดื่มกาแฟดำไม่ใส่น้ำตาลและเวย์โปรตีน

ภายในเวลาเพียงครึ่งปี เธอลดน้ำหนักไปได้ถึง 17.5 กิโลกรัม รูปร่างและใบหน้าเปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัด จนหลายคนทึ่ง เพราะใบหน้าคล้ายนางเอกสาว “หวังจู่เสียน” ราวกับฝาแฝด

เธอได้ฝากกำลังใจถึงชาวเน็ตว่า ในอดีตเธอหลงใหลอาหารอร่อย โดยเฉพาะของมันของหวาน และมักกินในปริมาณมากทุกมื้อ จนทำให้น้ำหนักพุ่งไม่หยุด กระทั่งได้เห็นรูปร่างที่อ้วนเกินควบคุม จึงตัดสินใจเลิกนิสัยกินตามใจปาก และพลิกชีวิตจนสำเร็จ

เธอหวังว่าประสบการณ์ของเธอจะเป็นแรงบันดาลใจให้คนอื่นบ้าง พร้อมทิ้งท้ายว่า “ไม่ว่าผลลัพธ์จะเป็นอย่างไร ขอแค่เริ่มต้นและอดทนไว้ก่อน”

เงินดิจิทัลเฟส 3 เงินดิจิทัลเฟส 4 ได้รับเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท หลังสงกรานต์ในช่วงไหน

ความคืบหน้าการแจกเงินดิจิทัลเฟส 3 ผ่านดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท ให้กับกลุ่มวัยเรียนช่วงอายุ 16-20 ปี จำนวน 2.7 ล้านคน โดยจะได้รับเงินหลังสงกรานต์ ซึ่งยังคงเป็นไปตามแผนการจ่ายเงินเหมือนเดิมคือ ช่วงเดือน เม.ย.-มิ.ย. 68

โดยจะเปิดให้ตรวจสอบสิทธิ์ผ่านแอปฯ ทางรัฐ และรัฐบาลจะแจกเงินในลักษณะดิจิทัลวอลเล็ตจำนวน 10,000 บาท เพื่อให้เงินดิจิทัลหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจ

วิธีตรวจสอบสิทธิ์เงินดิจิทัลเฟส 3 ผ่านแอปฯ ทางรัฐ

1. เข้าแอปฯ ทางรัฐ และกดปุ่ม ตรวจสอบสถานะ
2. ระบบจะขออนุญาตเข้าถึงข้อมูล และ ขอยืนยันเบอร์โทรศัพท์มือถือ เพื่อใช้ในการยืนยันตัวตน ให้กดปุ่ม ยืนยันข้อมูล
3. กรอก เบอร์โทรศัพท์ และ กดปุ่มรับรหัสทาง SMS (OTP)
4. กรอก รหัส OTP และกดปุ่ม ยืนยันโทรศัพท์มือถือ
5. กดปุ่ม อนุญาต ให้แอปพลิเคชันเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล และ
6. ระบบจะแสดงผลสถานะในการรับสิทธิตามโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่าน Digital Wallet ว่าอยู่ในขั้นตอนใด
   • หากอยู่ในขั้นตอนที่ 3 คือระบบอยู่ระหว่างการตรวจสอบสิทธิ
   • หากอยู่ในขั้นตอนที่ 4 คือไม่ได้รับสิทธิ
   • หากอยู่ในขั้นตอนที่ 5 คือ ได้รับสิทธิตามโครงการเติมเงินดิจิทัล 10,000 บาท

เงินดิจิทัลเฟส 4 กลุ่มอายุ 21-59 ปี ได้เมื่อไหร่?

เงินดิจิทัลเฟส 4 ซึ่งจะเป็นการแจกเงินให้กับคนทั่วไป ที่มีช่วงอายุ 21-59 ปี นั้น จะเป็นกลุ่มถัดไปหลังจากที่แจกเงินดิจิทัลเฟส 3 เสร็จสิ้นแล้ว โดยนายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ยืนยันชัดเจนแล้วว่าได้รับเงินแน่นอน เพราะรัฐบาลมีงบประมาณที่เตรียมไว้ในโครงการดิจิทัลว่าจะต้องใช้ภายในปีงบประมาณ 2568 หรือภายในสิ้นเดือน ก.ย. 68

• สรุปม้วนเดียวจบ เงินดิจิทัลเฟส 3 เฟส 4 อัปเดตวันโอนเงิน 10,000 บาท เมื่อไหร่
• เงินดิจิทัลเฟส 4 กลุ่มอายุ 21-59 ปี ได้เงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาทวันไหน

Insiders Monkey เว็บไซต์ด้านการเงินสัญชาติอเมริกัน ได้เผยแพร่บทความที่ว่าด้วยการจัด “20 อันดับประเทศที่มีผู้หญิงสวยที่สุดในทวีปเอเชีย ประจำปี 2024”

โดยวิธีการจัดอันดับนั้น ทางเว็บไซต์ได้พิจารณาจากการวิเคราะห์หลายขั้นตอน โดยเริ่มจากรวบรวมรายงานจากแหล่งข้อมูลต่างๆ รวมไปถึงพิจารณาจากปัจจัยแวดล้อมที่เกี่ยวเนื่องกับตลาดธุรกิจความงาม ของแต่ประเทศนั้นๆ

ซึ่งทางเว็บไซต์ให้ความสำคัญของนิยาม “ความสวย” ส่วนหนึ่งก็มาจากการที่ผู้คนรู้จักดูแลตนเอง ทั้งการลงทุนเรื่องความงาม, เครื่องสำอาง รวมไปถึงการศัลยกรรม ก็นับเป็นการพัฒนาตนเองในรูปแบบหนึ่ง

20 ประเทศในเอเชียที่ผู้หญิงสวยที่สุดจาก Insiders Monkey

1. เกาหลีใต้
2. ญี่ปุ่น
3. เวียดนาม
4. ฟิลิปปินส์
5. อิหร่าน

6. มาเลเซีย
7. อินเดีย
8. จีน
9. สิงคโปร์
10. ไทย

11. อินโดนีเซีย
12. ฮ่องกง
13. มาเก๊า
14. ภูฏาน
15. ไต้หวัน

16. คาซัคสถาน
17. ศรีลังกา
18. ปากีสถาน
19. เมียนมา
20. ลาว

เด็กที่เกิดในเดือนตุลาคม พฤศจิกายน และธันวาคม อาจมีอนาคตที่สดใสกว่าคนอื่นๆ  ไม่ใช่เพราะโชคชะตาหรือเรื่องลี้ลับ แต่เป็นข้อสรุปทางงานวิจัยของมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด

มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด หนึ่งในสถาบันการศึกษาชั้นนำของโลก ได้เปิดเผยผลการศึกษาที่น่าสนใจ ซึ่งติดตามพัฒนาการของเด็กทารกจำนวนมากเป็นระยะเวลากว่า 7 ปี โดยผลการศึกษาระบุว่า เด็กที่เกิดในช่วงสามเดือนสุดท้ายของปี ได้แก่ เดือนตุลาคม พฤศจิกายน และธันวาคม มีแนวโน้มทำคะแนนได้สูงกว่าคนอื่นๆ ในการทดสอบด้านสติปัญญาและความสามารถในการรับรู้ อย่างมีนัยสำคัญ

นักวิจัยเรียกปรากฏการณ์นี้ว่า “เดือนแห่งความฉลาด” (Smart Months) เนื่องจากเด็กที่เกิดในช่วงนี้มักแสดงให้เห็นถึงความสามารถโดดเด่นในด้านการคิดวิเคราะห์ การแก้ปัญหา และทักษะการเรียนรู้ แล้วเหตุผลเบื้องหลังความได้เปรียบนี้คืออะไรกันแน่….?

หนึ่งในเหตุผลสำคัญที่นักวิจัยจากฮาร์วาร์ดยกขึ้นมา คือ ความแตกต่างของอายุเมื่อเด็กเข้าเรียนในระดับชั้นเดียวกัน เด็กที่เกิดช่วงปลายปีมักจะเป็นเด็กที่อายุน้อยที่สุดในห้องเรียน ทำให้พวกเขาต้องพยายามมากขึ้นเพื่อให้ทันเพื่อนที่เกิดต้นปี ซึ่งส่งผลให้พวกเขาพัฒนา ทักษะด้านความคิดสร้างสรรค์ ความพยายาม และความสามารถในการปรับตัว ได้ดีกว่า

นอกจากนี้ งานวิจัยยังชี้ว่า เด็กที่เกิดในไตรมาสสุดท้ายของปีมักได้รับการดูแลอย่างดีในช่วงวัยทารก เนื่องจากช่วงเวลานี้อากาศเย็นสบาย มีความเสี่ยงเรื่องโรคน้อย และผู้ปกครองสามารถมีเวลาทุ่มเทในการเลี้ยงดูมากขึ้น ซึ่งช่วยสร้างพื้นฐานที่มั่นคงทั้งด้านร่างกายและจิตใจ

ไม่เพียงฉลาด แต่ยังมีทักษะสังคมโดดเด่น โดยพบว่าเด็กที่เกิดปลายปีไม่เพียงแค่มีผลการเรียนที่ดีขึ้น แต่ยังมีแนวโน้มที่จะ พัฒนา “ทักษะการเข้าสังคม” ได้อย่างยอดเยี่ยม เนื่องจากต้องเรียนรู้วิธีปรับตัวและเข้ากับเพื่อนๆ ที่มีอายุมากกว่า ความท้าทายนี้ช่วยเสริมสร้างความมั่นใจ ความเป็นผู้นำ และการคิดอย่างอิสระ

นักจิตวิทยายังเสริมว่า เด็กเหล่านี้มักจะมี จิตใจที่เข้มแข็ง กล้าหาญ และไม่ยอมแพ้ เพราะต้องพยายามอย่างหนักตั้งแต่เริ่มต้นเรียน ทำให้พวกเขารู้จักการแก้ไขปัญหา และมองหาแนวทางใหม่ๆ ในการพัฒนาและก้าวไปข้างหน้า

อย่างไรก็ดี ขอย้ำว่า เดือนเกิดไม่ใช่ทุกอย่าง แม้ว่าผลการวิจัยจะให้ข้อมูลน่าสนใจว่าเด็กที่เกิดในเดือนตุลาคม ถึงธันวาคม มีแนวโน้มประสบความสำเร็จมากกว่า แต่ผู้เชี่ยวชาญย้ำว่า “เดือนเกิดไม่ใช่ปัจจัยเดียว” ที่กำหนดความสำเร็จของเด็ก

• ฮาร์วาร์ดเผย 3 นิสัย(ดูเหมือน)แย่ แต่พิสูจน์ได้ว่า “เด็กฉลาด” ผปค.ควรรู้ ไม่ขวางเฉิดฉาย!
• “สุดยอดเกม” ที่เล่นง่ายๆ ไม่ต้องใช้อุปกรณ์ แต่ได้พัฒนาทักษะสำคัญ นักจิตวิทยาย้ำ ควรเล่นกับลูกที่สุด

เพราะสิ่งสำคัญที่สุดยังคงเป็น การดูแลเอาใจใส่จากครอบครัว การศึกษา และสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการเรียนรู้ รวมถึงการสนับสนุนอย่างเหมาะสมตามศักยภาพของแต่ละบุคคล

เด็กทุกคนไม่ว่าจะเกิดเดือนไหน ต่างก็มีจุดแข็งและจุดอ่อนของตนเอง การที่ผู้ปกครองและครูสามารถเข้าใจและส่งเสริมจุดเด่น พร้อมทั้งให้กำลังใจและช่วยเหลือเมื่อพบอุปสรรค จะเป็นกุญแจสำคัญในการพาเด็กแต่ละคนไปสู่ความสำเร็จที่เหมาะสมกับตนเอง

ลุ้นสด หวยลาววันนี้ 16/04/68 ถ่ายทอดสดหวยลาว หวยลาวล่าสุด หวยลาวพัฒนา 16 เมษายน 2568 หวยลาวย้อนหลัง หวยลาว 6 ตัว วันนี้ออกอะไร งวด 16 เมษายน 2568 Laolottery หวยลาว ออกรางวัลทุก วันจันทร์ วันพุธ และ วันศุกร์

 ตรวจหวยลาวย้อนหลัง คลิกที่นี่

รายงานผลหวยลาว 16 เมษายน 2568 (16/04/68)

หวยลาววันนี้ งดออกรางวัล ในวันพุธที่ 16 เมษายน 2568 เนื่องจากตรงกับวันขึ้นปีใหม่ลาว 

เพื่อให้เจ้าหน้าที่ของสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลและประชาชนทั่วไปสามารถร่วมฉลองเทศกาลปีใหม่ลาวอย่างเต็มที่ รัฐบาลจึงกำหนดให้หยุดการออกรางวัลในช่วงวันสงกรานต์ (ปีใหม่ลาว) ระหว่างวันที่ 14-16 เมษายน 2025 รวม 3 วัน

รายละเอียดผลหวย

เงินรางวัล

• เลข 4 ตัว ถ้าถูกจะได้เงินรางวัลเท่ากับ จำนวนที่ซื้อคูณด้วย 6,000 ตัวอย่างเช่น ซื้อ 1,000 กีบ จะได้ 6,000,000 กีบ
• เลข 3 ตัว ถ้าถูกจะได้เงินรางวัลเท่ากับ จำนวนที่ซื้อคูณด้วย 500 ตัวอย่างเช่น ซื้อ 1,000 กีบ จะได้ 500,000 กีบ
• เลข 2 ตัว ถ้าถูกจะได้เงินรางวัลเท่ากับ จำนวนที่ซื้อคูณด้วย 60 ตัวอย่างเช่น ซื้อ 1,000 กีบ จะได้ 60,000 กีบ

นักแสดงชายเล่นบทจักรพรรดิ “ซีนสยิวเกินต้าน” จนเกิดอาการ! ทีมงานเกร็งทั้งกองถ่าย

เกิดเหตุสุดฮาในกองถ่ายซีรีส์จีน เมื่อคลิปเบื้องหลังการถ่ายทำฉากจักรพรรดิ์คลอเคลียสนมสาวๆ กลายเป็นไวรัลในโลกออนไลน์ หลังนักแสดงชายเกิด “อาการทางร่างกาย” ที่ควบคุมไม่อยู่ จนทำเอาทีมงานและนักแสดงคนอื่นถึงกับกลั้นขำไม่ไหว!

ตามรายงานจากโซเชียลมีเดียจีน (Weibo) คลิปดังกล่าวน่าจะมาจากการถ่ายทำซีรีส์หรือละครสั้นเรื่องหนึ่ง โดยฉากที่เป็นประเด็นคือฉากที่นักแสดงชายซึ่งรับบทเป็น จักรพรรดิ กำลังนอนอยู่บนเตียง รายล้อมด้วยสาวงามในบทบาท “สนม”

แต่ทันใดนั้น นักแสดงหนุ่มกลับลุกขึ้นกลางฉากแบบกะทันหัน ทำให้เหล่าสนมต้องแสดงความตกใจพร้อมถามว่า “ฝ่าบาท ท่านเป็นอะไรหรือเพคะ?” ซึ่งเดิมทีหลายคนเข้าใจว่าเป็นการแสดงหรือฉากที่มีการด้นสด แต่ความจริงแล้ว นักแสดงหนุ่มกลับเกิด อาการตื่นตัวทางร่างกาย ขึ้นมาจริง ๆ จนเขาถึงกับยืนนิ่งไปชั่วขณะ ขณะที่นักแสดงหญิงที่รับบทเป็นสนมก็หลุดขำกันเป็นแถว ส่วนทีมงานก็แอบกลั้นหัวเราะไม่อยู่

หลังคลิปเผยแพร่ออกไป ก็กลายเป็นประเด็นร้อนในโลกออนไลน์ของจีน มีชาวเน็ตเข้ามาแสดงความคิดเห็นมากมาย เช่น

• “โคตรกลั้นไม่ไหว!”

• “นี่นับเป็นอุบัติเหตุจากการทำงานหรือเปล่าเนี่ย?”

• “การเป็นนักแสดงไม่ง่ายจริง ๆ”

• “หรือว่านี่จะเป็นการแสดงแบบตั้งใจ?”

แม้จะมีคนเชื่อว่าเป็นเหตุการณ์จริง แต่ก็มีบางส่วนที่สงสัยว่า อาจเป็นฉากที่ตั้งใจใส่มาเพื่อเพิ่มสีสันให้กับเนื้อเรื่องก็เป็นได้