Blog

  • KUBET – หวยลาววันนี้ 18 มิถุนายน 2568 ผลหวยลาววันนี้ ออกอะไร

    ลุ้นผล หวยลาววันนี้ 18/06/68 ถ่ายทอดสดหวยลาว หวยลาวล่าสุด หวยลาวพัฒนา 18 มิถุนายน 2568 หวยลาวย้อนหลัง หวยลาว 6 ตัว วันนี้ออกอะไร งวด 18 มิถุนายน 2568 Laolottery หวยลาว ออกรางวัลทุก วันจันทร์ วันพุธ และ วันศุกร์

    รายงานผลหวยลาว 18 มิถุนายน 2568 (18/06/68) ผลหวยลาว 6 ตัวออกรางวัลดังนี้ 

    ตรวจหวยลาว งวดประจำวันที่ 18 มิถุนายน 2568

    • เลข 6 ตัว : 054822
    • เลข 5 ตัว : 54822
    • เลข 4 ตัว : 4822
    • เลข 3 ตัว : 822
    • เลข 2 ตัว : 22

    เลขนามสัตว์

    • 12 ม้า
    • 37 ตัวนิ่ม
    • 40 นกอินทรี
    • 39 ปู

    ผลสลากพัฒนา 5/45

    02 / 42 / 07 / 25 / 27

     

    เงินรางวัล

    • เลข 4 ตัว ถ้าถูกจะได้เงินรางวัลเท่ากับ จำนวนที่ซื้อคูณด้วย 6,000 ตัวอย่างเช่น ซื้อ 1,000 กีบ จะได้ 6,000,000 กีบ
    • เลข 3 ตัว ถ้าถูกจะได้เงินรางวัลเท่ากับ จำนวนที่ซื้อคูณด้วย 500 ตัวอย่างเช่น ซื้อ 1,000 กีบ จะได้ 500,000 กีบ
    • เลข 2 ตัว ถ้าถูกจะได้เงินรางวัลเท่ากับ จำนวนที่ซื้อคูณด้วย 60 ตัวอย่างเช่น ซื้อ 1,000 กีบ จะได้ 60,000 กีบ
  • KUBET – วิวาห์เกือบล่ม! เจ้าบ่าวเป็นลมกลางพิธี เมื่อเห็นเจ้าสาวเดินเข้ามา สวยจนขาอ่อนแรง

    เจ้าบ่าวถึงกับเป็นลมกลางพิธี เมื่อเห็นเจ้าสาวเดินเข้ามา “รู้สึกหมดแรงทันที” ฟังเหตุผลแล้วเอ็นดูไม่ไหว บอกตะลึงเธอสวยกว่าทุกวัน

    เจ้าบ่าวถึงกับเป็นลมล้มพับต่อหน้าเจ้าสาวและแขกกว่า 200 คน ระหว่างพิธีวิวาห์ หลังถูกความรู้สึกท่วมท้นเล่นงานหนักจนทนไม่ไหว ซึ่งเหตุการณ์นี้ถูกบันทึกไว้ในคลิปที่กำลังกลายเป็นไวรัล

    “ตอนที่เจ้าสาวของผมเดินเข้ามา สวยกว่าทุกวันที่เคยเห็น ร่างกายผมก็เริ่มอ่อนแรงทันที” กุสตาโว ชมิตซ์ วัย 25 ปี เล่ากับ Jam Press ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในวันสำคัญของเขา เมื่อวันเสาร์ที่ 7 มิถุนายน ที่ผ่านมา ที่เมืองซาเลเต ประเทศบราซิล

    ในคลิปจะเห็นช่วงวินาทีสุดดราม่า เมื่อเจ้าบ่าวล้มหลังคะมำราวกับฉากในหนังตลกยุค 90 ท่ามกลางความตกใจของบาทหลวงและแขกที่รีบเข้ามาช่วยอย่างรวดเร็ว

    คุณครูหนุ่ม ซึ่งมีรายงานว่าใช้ยารักษาอาการวิตกกังวล เผยว่าสัปดาห์ก่อนถึงวันแต่งงานเต็มไปด้วยความวุ่นวายจากการเตรียมงาน

    “วันจริงก็ยิ่งโกลาหล แขกเริ่มทยอยมาแล้ว แต่ยังมีอะไรให้จัดการอีกเพียบ” เขาย้อนความหลัง “พอเริ่มพิธี ผมก็แทบหายใจไม่ทันแล้ว”

    ชมิตซ์ถึงกับบอกเพื่อนเจ้าบ่าวบางคนว่า รู้สึกชาตามตัว แต่ไม่มีใครเชื่อ เพราะเขาเป็นคนขี้เล่น ชอบพูดหยอกล้อเป็นประจำ

    ท้ายที่สุดแล้ว นี่คือวันแห่งความสุขของชมิตซ์ ผู้ซึ่งเติบโตมากับว่าที่เจ้าสาว พาเมล่า แบร์โต วัย 23 ปี ในเมืองเล็ก ๆ ที่มีประชากรเพียง 7,000 คน

    แต่ทันทีที่หญิงคนรักเดินเข้ามาในสถานที่จัดงาน ช่วงเวลานั้นก็ถาโถมเข้าใส่เขาราวคลื่นยักษ์

    “ผมเดินไปรับเธอตรงทางพรมแดง แล้วพอบาทหลวงเริ่มกล่าวเปิดพิธี ผมก็บอกเธอว่าไม่ค่อยสบาย” เขาเล่า “ตอนนั้นยังพูดติดตลกนิด ๆ เธอเลยเชื่อ แต่ก็ยังไม่รู้ว่าผมอาการหนักแค่ไหน”

    หลังจากนั้นไม่นาน เขาก็ล้มลงกับพื้น “ตอนผมเป็นลม เธอคว้าแขนเสื้อสูทผมไว้ แต่เพราะผมล้มทับชุดของเธอ เธอเลยพยุงผมไม่ไหว” ชมิตซ์เล่าฉากนั้นอย่างชัดเจน “โชคดีที่บาทหลวงรีบเข้ามาคว้าแขนเสื้อผมไว้ทัน เลยไม่กระแทกหัวลงพื้น”

    เขาเสริมว่า “จากนั้นเพื่อนผมชื่อเอดูอาร์โด ซึ่งเป็นหมอ ก็มาถึงเร็วมาก เขาตรวจชีพจรแล้วช่วยปฐมพยาบาลร่วมกับบาทหลวงทันที”

    หลังจากเป็นลมไปเป็นครั้งที่ 2 ชมิตซ์ก็ค่อย ๆ ฟื้นขึ้นมา และสามารถทำพิธีต่อจนจบได้

    แม้เหตุการณ์จะไม่เป็นไปตามแผน แต่เขาบอกว่างานแต่งครั้งนี้ก็ยังคง “สวยงามและน่าประทับใจที่สุด”

  • KUBET – กางข้อกฎหมาย หากยุบสภา-นายกฯ ลาออก ใครคือแคนดิเดตนายกฯ คนต่อไป?

    หากมีการยุบสภา-นายกฯ ลาออก ใครมีสิทธิ์เป็นนายกฯ คนใหม่? เปิดรายชื่อแคนดิเดตนายก เหลือแค่ 4 จากทั้งหมด 6 คน 

    ในกรณีที่ นายกรัฐมนตรีประกาศลาออกจากตำแหน่ง ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย มาตรา 159 ได้กำหนดขั้นตอนการสรรหานายกรัฐมนตรีคนใหม่เอาไว้ชัดเจน โดย สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) จะต้องเสนอชื่อบุคคลจากบัญชีแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ที่พรรคการเมืองเคยยื่นไว้ก่อนการเลือกตั้ง ซึ่งพรรคที่เสนอชื่อได้ต้องมี สส.อย่างน้อย 25 คน หรือคิดเป็น 25% ของจำนวน สส.ทั้งหมด

    การเสนอชื่อแคนดิเดตนายกฯ จะต้องได้รับการรับรองจาก สส. อย่างน้อย 1 ใน 10 หรือ 50 คนขึ้นไป และการลงมติเห็นชอบจะต้องทำโดยเปิดเผย

    เปิดรายชื่อแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีทั้ง 6 คน

    ก่อนหน้านี้ มีรายชื่อบุคคลที่พรรคการเมืองเสนอเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีทั้งหมด 6 คน ได้แก่

    1. นายอนุทิน ชาญวีรกุล

    2. นายชัยเกษม นิติสิริ

    3. พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ

    4. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา

    5. นายพีรพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค

    6. นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์

    แต่หาก นางสาวแพทองธาร ชินวัตร  นายกรัฐมนตรี ลาออกในเวลานี้ มีเพียง 4 รายชื่อเท่านั้นที่เข้าเกณฑ์การเสนอชื่อใหม่ เนื่องจากพรรคของ พล.อ.ประวิตร และ นายจุรินทร์ มี ส.ส.ไม่ถึง 25 คน จึงไม่มีสิทธิ์เสนอแคนดิเดตนายกฯ ได้ตามกฎหมาย

    thaigov.go.th

    กรณี “ยุบสภา” ต่างจาก “ลาออก” อย่างไร?

    หากเกิดการ “ยุบสภา” ขึ้นแทนการลาออก มาตรา 103 ระบุว่าพระมหากษัตริย์ทรงพระราชอำนาจในการยุบสภาผู้แทนราษฎร โดยต้องออกพระราชกฤษฎีกาภายใน 5 วัน และให้คณะกรรมการการเลือกตั้งประกาศวันเลือกตั้งทั่วไปภายใน 45-60 วัน นับจากวันที่กฎหมายมีผลบังคับใช้ โดยวันเลือกตั้งต้องเป็นวันเดียวกันทั่วประเทศ

  • KUBET – ใครเป็นเจ้าหนี้ “กัมพูชา” เปิด 10 เจ้าหนี้รายใหญ่มี “ไทย” ติดท็อป 10

    เปิด 10 ประเทศที่เป็นเจ้าหนี้ “กัมพูชา” มี “ไทย” ติดอยู่ท็อป 10 ด้วย แถมเคยให้กู้เงินไปหลายครั้ง

    เพจเฟซบุ๊ก Cambonomist ซึ่งเป็นสื่อประเทศกัมพูชา เคยโพสต์เฟซบุ๊กระบุข้อความเกี่ยวกับหนี้สาธารณะของประเทศกัมพูชา ณ สิ้นปี 2023 พบว่า หนี้สาธารณะของกัมพูชาอยู่ที่มากกว่า 11,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดย 99.5% เป็นหนี้ต่างประเทศ หนี้ทวิภาคีของกัมพูชาอยู่ที่มากกว่า 7,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 64% ของหนี้ทั้งหมด

    ในขณะที่หนี้พหุภาคีอยู่ที่ประมาณ 4,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 36% จีนยังคงเป็นเจ้าหนี้รายใหญ่ที่สุดของกัมพูชา โดยมีหนี้รวมมากกว่า 4,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 37% ของหนี้ทั้งหมด
    338746

    10 ประเทศ และสถาบันการเงินที่เป็นเจ้าหนี้รายใหญ่ที่สุดของกัมพูชา ณ สิ้นปี 2023 

    1. จีน : 4.1 พันล้านดอลลาร์
    2. Asian Development Bank (ADB) : 2.3 พันล้านดอลลาร์
    3. ธนาคารโลก : 1.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
    4. ญี่ปุ่น : 1.2 พันล้านดอลลาร์
    5. เกาหลีใต้ : 575 ล้านดอลลาร์
    6. ฝรั่งเศส : 533 ล้านดอลลาร์
    7. IFAD : 143 ล้านดอลลาร์
    8. EID : 103 ล้านดอลลาร์
    9. ไทย : 54 ล้านดอลลาร์
    10. AIIB : 33 ล้านดอลลาร์

    นอกจากนี้ กรมความร่วมมือระหว่างประเทศและการบริหารหนี้สินของกัมพูชา (Department of International Cooperation and Debt Management – GDICDM) เปิดเผยว่าสำหรับไตรมาสแรกของปี 2568 (Q1 2025) หนี้สาธารณะทั้งหมดของกัมพูชาอยู่ที่ 12.18 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 99.96% ของหนี้ดังกล่าวเป็นหนี้ต่างประเทศ (external debt)

    เปิด 10 ประเทศเจ้าหนี้รายใหญ่ของประเทศกัมพูชาในปี 2025

    • จีน :  3.981 พันล้านดอลลาร์
    • ADB (ธนาคารพัฒนาเอเชีย) : 2.581 พันล้านดอลลาร์
    • ธนาคารโลก : 1.720 พันล้านดอลลาร์
    • ญี่ปุ่น : 1.328 พันล้านดอลลาร์
    • เกาหลีใต้ : 689 ล้านดอลลาร์
    • ฝรั่งเศส : 686 ล้านดอลลาร์
    • IFAD : 170 ล้านดอลลาร์
    • AIIB : 53.9 ล้านดอลลาร์
    • ประเทศไทย : 53.15 ล้านดอลลาร์ (ราว 1.724 พันล้านบาท)
    • เยอรมนี : 15 ล้านดอลลาร์
    • เวียดนาม : 7.29 ล้านดอลลาร์
    • อินเดีย : 6.38 ล้านดอลลาร์

    จะสังเกตได้ว่า ยอดหนี้ของจีนที่มีสัดส่วนลดลงอาจมีจากการที่กัมพูชาได้ทยอยใช้หนี้ให้กับจีนไปแล้วราว 117 ล้านดอลลาร์ เมื่อไตรมาสแรกของปี 2568 ทำให้ยอดเงินกู้คงค้างทั้งหมดอยู่ที่ 3.98 พันล้านดอลลาร์ จากเดิมที่มียอดหนี้คงค้างอยู่ที่กว่า 4 พันล้านดอลลาร์

    สอดคล้องกับนักวิเคราะห์เศรษฐกิจและสังคมของประเทศกัมพูชา ที่เคยให้ข้อมูลกับสื่ออย่าง Kiripost ของประเทศกัมพูชาว่า การกู้เงินเพื่อพัฒนาประเทศ หรือขยายการเติบโตไม่ใช่เรื่องเลวร้าย และเป็นสัญญาณที่ดีเมื่อสามารถชำระเงินคืนได้ ซึ่งปัจจุบัน กัมพูชา ไม่ได้กู้เงินจากจีน ถือเป็นวิธีที่ดีในการปรับสมดุลงบประมาณแผ่นดิน อีกทั้งการบริหารหนี้สาธารณะอย่างรอบคอบเป็นเครื่องพิสูจน์ถึงความมุ่งมั่นของรัฐบาลในการรักษาความรอบคอบทางการคลังและเสถียรภาพในระยะยาว

    อ่านเพิ่มเติม

  • KUBET – ประวัติ “บิ๊กกุ้ง” พลโท บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ผู้ปกป้องชายแดนไทย-กัมพูชา

    ประวัติ “บิ๊กกุ้ง” พลโท บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ผู้ปกป้องอธิปไตยชายแดนไทย-กัมพูชา

    เป็นหนึ่งในนายทหารที่ได้รับความสนใจอย่างต่อเนื่องในช่วงเวลานี้ สำหรับ พลโท บุญสิน พาดกลาง หรือ “บิ๊กกุ้งแม่ทัพภาคที่ 2 ซึ่งกำลังมีบทบาทสำคัญในการควบคุมสถานการณ์ความตึงเครียดบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา โดยเฉพาะพื้นที่ช่องบก จ.อุบลราชธานี ท่ามกลางเหตุปะทะและการเคลื่อนไหวทางทหารที่อ่อนไหว เขาคือผู้บัญชาการในพื้นที่ ผู้เจรจา และผู้รักษาสถานการณ์ไม่ให้ลุกลาม จนได้รับการยอมรับจากทั้งฝ่ายทหารและประชาชน

    เส้นทางชีวิตและการศึกษา “บิ๊กกุ้ง” พลโท บุญสิน พาดกลาง

    พลโท บุญสิน พาดกลาง เป็นชาวอีสานโดยกำเนิด เริ่มต้นการศึกษาระดับประถมที่ โรงเรียนชุมชนบ้านดุง และมัธยมศึกษาที่ โรงเรียนบ้านดุงวิทยา รุ่นที่ 10 จากนั้นได้เข้าสู่เส้นทางทหาร โดยเข้าศึกษาใน โรงเรียนเตรียมทหาร รุ่นที่ 26 ก่อนจะเข้าศึกษาต่อใน โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า (จปร.) รุ่นที่ 37

    เพื่อเตรียมความพร้อมสู่ตำแหน่งระดับสูง เขายังได้ศึกษาหลักสูตรนายทหารฝ่ายเสนาธิการที่ โรงเรียนเสนาธิการทหารบก หลักสูตรหลักประจำ ชุดที่ 77 ถือเป็นเส้นทางที่ปูพื้นฐานให้เขาเติบโตในกองทัพอย่างมั่นคง

    เส้นทางการรับราชการและบทบาทในกองทัพ

    หลังจบจากโรงเรียนนายร้อยฯ “บิ๊กกุ้ง” เข้ารับราชการในเหล่าทหารราบ และปฏิบัติหน้าที่ภายใต้ กองทัพภาคที่ 2 มาโดยตลอด ผ่านการสั่งสมประสบการณ์ในพื้นที่ชายแดนภาคตะวันออกเฉียงเหนือมาอย่างโชกโชน ตั้งแต่ระดับ ผู้บังคับหมวด-กองร้อย-กองพัน จนถึงระดับกรมทหาร

    บทบาทเด่นของเขาคือความสามารถในการสื่อสาร สั่งการ และควบคุมสถานการณ์ในพื้นที่เสี่ยงภัย ซึ่งทำให้เขาได้รับความไว้วางใจให้ดำรงตำแหน่ง แม่ทัพภาคที่ 2 คนที่ 44 ต่อจาก พลโท อดุลย์ บุญธรรมเจริญ โดยเริ่มปฏิบัติหน้าที่อย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2567

    พลโท บุญสิน พลโท บุญสิน แม่ทัพภาคที่ 2

    “แม่ทัพมนต์แคน” ฉายาที่มาพร้อมรอยยิ้ม

    อีกหนึ่งแง่มุมน่ารักของ พลโท บุญสิน ที่ทำให้เขาเป็นที่จดจำ นอกจากความเด็ดขาดในภารกิจคือฉายา “แม่ทัพมนต์แคน” ที่ได้มาจากความเหมือนกับนักร้องลูกทุ่งชื่อดัง “มนต์แคน แก่นคูน” เจ้าตัวยอมรับว่าเคยโดนคนทั่วไป โดยเฉพาะแท็กซี่ ทักอยู่บ่อยครั้ง แม้กระทั่งฝึกร้องเพลงของมนต์แคนไว้บ้างแล้ว 2-3 เพลง เพราะรู้สึกปลื้มใจที่คนเปรียบเทียบในแง่ดี

    อ่านเพิ่มเติม

  • KUBET – “บิดาแห่ง AI” ทำนายอนาคต งานปกติจะถูกแทนที่ด้วย AI แนะมี 1 อาชีพ ที่ยังมั่นคง

    บิดาแห่ง AI ทำนายอนาคต งานทั่วไปจะถูก AI แทนที่ทั้งหมด ชี้ยังมีบางอาชีพที่ปลอดภัยชั่วคราวจาก “พายุ AI”

    เจฟฟรีย์ ฮินตัน (Geoffrey Hinton) อดีตพนักงาน Google และได้รับการขนานนามว่าเป็นบิดาแห่ง AI ในการสัมภาษณ์วันที่ 16 มิถุนายน ผ่านพอดแคสต์ Diary of a CEO เขาได้เตือนถึงความเสี่ยงของการว่างงานจำนวนมากจากปัญญาประดิษฐ์ (AI)

    โดยระบุว่า เทคโนโลยีนี้ในไม่ช้าจะ “เก่งกว่ามนุษย์ในทุกด้าน” แต่ก็ยังมีอาชีพบางประเภทที่ยังพอปลอดภัยชั่วคราวจาก “พายุ AI”

    “ผมคิดว่ายังอีกนานกว่าที่ AI จะสามารถทำงานด้านกายภาพได้ดีเท่ามนุษย์ ดังนั้น การเลือกเป็นช่างประปาจึงเป็นทางเลือกที่ค่อนข้างมั่นคง” ฮินตัน กล่าว

    ในสภาพตลาดแรงงานที่เข้มข้นขึ้นเรื่อย ๆ คนรุ่นใหม่อย่างเจน Z หลายคนจึงเริ่มหันไปทำงานที่ใช้แรงงานมากขึ้น

    ฮินตัน เตือนว่า “งานที่ใช้ความคิดทั่วไปจะถูก AI แทนที่ทั้งหมดในที่สุด” เขาเน้นเป็นพิเศษว่า กลุ่มผู้ช่วยด้านกฎหมายมีความเสี่ยงสูงที่จะถูกแทนที่ รวมถึงกลุ่มพนักงานคอลเซ็นเตอร์ที่ “น่าวิตกมาก”

    ตามที่เขากล่าว ผู้ที่ต้องการชนะ AI จำเป็นต้อง “เก่งอย่างโดดเด่นเหนือคนอื่น”

    Tara Winstead

    สำหรับ ฮินตัน ความเสี่ยงของการว่างงานอย่างกว้างขวางคือภัยคุกคามใหญ่ที่อาจทำให้มนุษย์เกิดความทุกข์ แม้ว่าจะมีการจัดสรรรายได้พื้นฐานให้ทุกคนแล้วก็ตาม แต่ถ้าไม่มีงานทำ ผู้คนก็ยังคงรู้สึกสับสนและไร้ทิศทางในชีวิต

    ตามที่เขากล่าว สถานการณ์ว่างงานเพราะ AI ไม่ใช่เรื่องที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตเท่านั้น แต่ในความจริงได้เริ่มเกิดขึ้นแล้ว AI กำลังเข้ามาทำงานแทนที่งานที่เคยเป็นเรื่องปกติของนักศึกษาจบใหม่

    มีเสียงบางส่วนมองว่าความกังวลเรื่อง AI “แย่งงาน” อาจเกินจริงไปบ้าง ฮินตัน ยอมรับว่าในหลายกรณี มนุษย์ยังสามารถทำงานร่วมกับ AI แทนที่จะถูกแทนที่อย่างสมบูรณ์ได้ แต่เขาก็เตือนว่า นั่นหมายความว่าแต่ละคนอาจต้องทำงานในปริมาณเท่ากับคนถึง 10 คน ซึ่งในหลายอุตสาหกรรมจะนำไปสู่การปลดคนงานจำนวนมาก

    บางสาขา เช่น การแพทย์ อาจปรับตัวได้ดีต่อการเปลี่ยนแปลงนี้ เพราะความต้องการมีอย่างไม่จำกัด แต่ ฮินตัน สรุปว่า “ผมคิดว่าส่วนใหญ่ของอาชีพต่าง ๆ ไม่มีคุณสมบัติแบบนั้น”

  • KUBET – หมอแนะนำกินทุกเช้า “ถั่วชนิดนี้” ดีต่อหัวใจและลำไส้! ช่วยชะลอวัย ลดคอเลสเตอรอล

    หมอไต้หวัน แนะนำกินถั่วชนิดนี้ทุกเช้า ดีต่อหัวใจและลำไส้ ช่วยชะลอวัย ลดคอเลสเตอรอล คนไทยรู้จักดี ชอบกินกันมาก!

    ดร.หวง อวี้ฉุน แพทย์เฉพาะทางด้านลำไส้ใหญ่และทวารหนัก ชาวไต้หวัน โพสต์ในเฟซบุ๊กเพจของเธอว่า “อัลมอนด์” เป็นถั่วเปลือกแข็งรูปทรงเรียวยาว สีออกน้ำตาล มีคุณค่าทางโภชนาการสูง โดยเฉพาะใยอาหาร ซึ่งในอัลมอนด์ 100 กรัม มีใยอาหารถึง 12 กรัม และโปรตีนอีก 21 กรัม แม้จะให้พลังงานสูง แต่อุดมไปด้วยประโยชน์ ทั้งช่วยดูแลหัวใจ ชะลอวัย ฟื้นฟูลำไส้ บรรเทาอาการท้องผูก และช่วยให้ระบบขับถ่ายดีขึ้น “ฉันเองก็กินอัลมอนด์ทุกเช้าอยู่เสมอ” เธอกล่าว

    หวง อวี้ฉุน ระบุว่า มีงานวิจัยที่นำโดยมหาวิทยาลัยแห่งรัฐโอเรกอน สหรัฐอเมริกา แบ่งกลุ่มผู้เข้าร่วมทดลองออกเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มหนึ่งให้รับประทานอัลมอนด์ทั้งเม็ดทุกวันต่อเนื่อง 12 สัปดาห์ อีกกลุ่มรับประทานคุกกี้ที่ให้พลังงานเท่ากัน

    ผลตรวจเลือดหลังสิ้นสุดการทดลองพบว่า กลุ่มที่กินอัลมอนด์มีระดับคอเลสเตอรอลชนิดไม่ดี (LDL-C) ลดลงโดยเฉลี่ย ซึ่งหากคอเลสเตอรอลชนิดนี้สูงเกินไปจะเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคหัวใจ นอกจากนี้ กลุ่มที่กินอัลมอนด์ยังมีรอบเอวลดลง และภาวะการอักเสบในลำไส้ก็ดีขึ้นอีกด้วย

    หวง อวี้ฉุน อธิบายเพิ่มเติมว่า ใยอาหารและไขมันในอัลมอนด์จะถูกจุลินทรีย์ในลำไส้ใหญ่หมักจนเกิดเป็น “กรดบิวทีริก” ซึ่งเป็นแหล่งพลังงานสำคัญของเซลล์เยื่อบุลำไส้ ช่วยเสริมเกราะป้องกันลำไส้และระบบภูมิคุ้มกัน พร้อมทั้งเพิ่มความถี่ในการขับถ่าย

    Irina Iriser

    นอกจากนี้ อัลมอนด์ยังอุดมไปด้วยวิตามินอี (ชนิดละลายในไขมัน), โพลีฟีนอล, ไบโอติน, ทองแดง, โพแทสเซียม, แมกนีเซียม และกรดไขมันไม่อิ่มตัว ซึ่งแตกต่างจากไขมันอิ่มตัว เพราะกรดไขมันไม่อิ่มตัวมีคุณสมบัติต้านแบคทีเรีย โดยสามารถยับยั้งการสร้างกรดไขมันของเชื้อโรคและยับยั้งการเจริญเติบโตของมันได้อีกด้วย.

    หวง อวี้ฉุน ยังกล่าวว่า อัลมอนด์มีแร่ธาตุแมกนีเซียมสูง รวมถึงใยอาหารทั้งชนิดละลายน้ำและไม่ละลายน้ำ ซึ่งช่วยให้ขับถ่ายง่ายขึ้น โดยช่วยให้อุจจาระนุ่ม กระตุ้นการบีบตัวของลำไส้ และพาน้ำเข้าสู่ลำไส้ จึงให้ผลคล้ายยาระบายอ่อน ๆ จากธรรมชาติ

    เธอแนะนำว่า ผลิตภัณฑ์จากอัลมอนด์ในท้องตลาดมีหลายแบบ ทั้งแบบอบ แบบบด แบบไม่อบ หรือแม้แต่เนยอัลมอนด์ โดยเนยอัลมอนด์จะมีประโยชน์ต่อลำไส้น้อยที่สุด หากจะซื้อ ควรเลือกแบบอบหรือแบบบดจะดีที่สุด และหากเลือกแบบที่มีการเติมเกลือ ก็ควรระวังปริมาณโซเดียมด้วย

    หวง อวี้ฉุน ยังเตือนว่า อัลมอนด์มีพลังงานสูง และมีปริมาณฟอสฟอรัสค่อนข้างมาก ผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับการเผาผลาญ โรคไต หรือแพ้ถั่วเปลือกแข็ง ควรระมัดระวังในการรับประทาน แต่สำหรับผู้ที่ไม่มีปัญหาสุขภาพดังกล่าว และต้องการกินเพื่อบำรุงร่างกายในชีวิตประจำวัน ปริมาณที่แนะนำคือ 5–30 เมล็ดต่อวัน (โดยเฉลี่ย 1 เมล็ดหนักประมาณ 1.3 กรัม) ควรกินทั้งเปลือก และดื่มน้ำให้เพียงพอ

    สามารถกินเป็นของว่าง ใส่ในโยเกิร์ต หรือหั่นใส่ในซีเรียลได้ ไม่เพียงแค่ช่วยเสริมวิตามินอี แต่ยังให้ใยอาหารและไขมันดี ซึ่งมีประโยชน์ต่อระบบลำไส้ และช่วยบรรเทาอาการท้องผูกอีกด้วย

  • KUBET – ขนลุก! ต่อหน้าแพทย์ หญิงเสียชีวิต 27 นาที จู่ๆ ฟื้นจากความตาย ตัวสั่นเขียนข้อความนี้

    หญิงอเมริกันฟื้นจากภาวะหัวใจหยุดเต้น 27 นาที  ข้อความแรกหลังกลับมาจากความตาย “It’s real” ยืนยันว่าเห็นพระเยซูและสวรรค์

    เรื่องราวปาฏิหาริย์ของ ทีนา ไฮน์ส กลายเป็นแรงบันดาลใจระดับโลก เมื่อเธอฟื้นจากภาวะหัวใจหยุดเต้นนานเกือบครึ่งชั่วโมง โดยไม่มีอาการสมองเสียหาย พร้อมข้อความเขียนด้วยมือสั่นๆ ที่สร้างความประหลาดใจไปทั่ว

    ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2018 กลายเป็นวันเปลี่ยนชีวิตของ “ทีนา ไฮน์ส” (Tina Hines) หญิงชาวรัฐแอริโซนา สหรัฐอเมริกา อย่างสิ้นเชิง เธอล้มลงกะทันหันจากอาการหัวใจวายเฉียบพลัน และหัวใจหยุดเต้นนานถึง 27 นาที

    สามีของเธอ “ไบรอัน ไฮน์ส” (Brian Hines) ซึ่งเป็นผู้เห็นเหตุการณ์ เล่าว่า ร่างกายภรรยากลายเป็นสีม่วง ตาเหลือกขาว และไม่มีสัญญาณชีวิต เพื่อนบ้านรีบเข้าช่วยทำ CPR ก่อนที่เขาจะรับช่วงต่อและโทรขอรถพยาบาล ทีมกู้ชีพเร่งช็อกไฟฟ้าหัวใจถึง 3 ครั้ง และฉีดยากระตุ้นหัวใจ 2 เข็ม แต่ Tina ก็ยังไม่ตอบสนองใดๆ

    ฟื้นจากความตายแบบไม่มีคำอธิบายทางการแพทย์

    เมื่อมาถึงโรงพยาบาล Deer Valley แพทย์ระบุว่า ทีนาอยู่ในภาวะหัวใจหยุดเต้นสมบูรณ์ ไม่มีชีพจร ไม่มีการหายใจ และสมองขาดออกซิเจนมานานเกิน 20 นาที ซึ่งตามหลักการแพทย์แล้ว แทบไม่มีโอกาสรอด หรือหากรอดก็มีแนวโน้มสมองเสียหายถาวร

    แต่แล้วสิ่งที่ไม่มีใครคาดคิดก็เกิดขึ้น ทีนากลับมามีสัญญาณชีพ แพทย์จึงตัดสินใจให้เธออยู่ในสภาพหลับลึกเพื่อประเมินอาการต่อไป กระทั่งหนึ่งวันถัดมา ทีนาเริ่มฟื้นตัวอย่างน่าทึ่ง หายใจได้ด้วยตัวเอง และไม่มีอาการบ่งชี้ถึงความเสียหายของสมอง

    ข้อความแรกหลังฟื้น “สวรรค์มีจริง” ปาฏิหาริย์ที่ลืมไม่ลง

    ทันทีที่ฟื้นขึ้นมา แม้ยังพูดไม่ได้เนื่องจากท่อช่วยหายใจ แต่ทีนากลับขอปากกาและกระดาษทันทีที่รู้สึกตัว เธอเขียนประโยคสั้น ๆ ว่า “It’s real” (“มันมีจริง”) เมื่อครอบครัวถามว่า “อะไรที่มีจริง?” เธอตอบด้วยการพยักหน้าเมื่อพูดถึง “พระเยซู” และ “สวรรค์”

    ในเวลาต่อมา ทีนาเล่าว่าขณะอยู่ในภาวะใกล้ตาย เธอได้เห็นพระเยซูคริสต์ยืนรอรับด้วยแสงสีทองที่สว่างและบริสุทธิ์ พร้อมอ้อมแขนเปิดกว้าง เธออธิบายความรู้สึกในช่วงเวลานั้นว่า “สงบสุขอย่างไม่อาจบรรยายได้” และย้ำว่า “มันไม่ใช่ความฝัน มันคือความจริง”

    และเพียง 4 วันหลังเกิดเหตุ ทีนาก็สามารถออกจากโรงพยาบาล โดยมีสุขภาพสมบูรณ์ และไม่มีร่องรอยของความเสียหายทางสมอง นับเป็นกรณีหายากมากในทางการแพทย์

    ประสบการณ์เฉียดตายของทีนา ถูกถ่ายทอดผ่านหนังสือที่เธอเขียนเองชื่อ “Heaven… It’s Real: How Dying Changes Living” (สวรรค์มีจริง: ความตายเปลี่ยนชีวิตได้อย่างไร) เนื้อหาในเล่มไม่เพียงบอกเล่าการเดินทางกลับจากความตาย แต่ยังมุ่งปลุกพลังศรัทธาและความหวังให้กับผู้ที่กำลังเผชิญความกลัวหรือสูญเสีย

    ทีนากล่าวถึงจุดประสงค์ของการเขียนหนังสือว่า “พระเจ้าสามารถใช้ทุกสถานการณ์ แม้แต่สิ่งที่มืดมนที่สุด เพื่อนำเราเข้าใกล้พระองค์ และทำให้เราใช้ชีวิตตามแบบที่พระองค์ตั้งใจไว้”

    สำหรับ ทีนา ไฮน์ส การหยุดเต้นของหัวใจไม่ใช่จุดจบ แต่มันคือการเริ่มต้นใหม่ของชีวิตที่เต็มไปด้วยความหมาย และภารกิจในการแบ่งปันความหวังจากโลกที่เธอเชื่อว่ามีอยู่จริง

  • KUBET – อัปเดตล่าสุด 2568! รายชื่อและหลักเกณฑ์ “ชื่อคนที่ห้ามตั้ง” ผิดกฎหมายไทยมีอะไรบ้าง?

    อัปเดตล่าสุด 2568! รายชื่อและหลักเกณฑ์ “ชื่อคนที่ห้ามตั้ง” ผิดกฎหมายไทยมีอะไรบ้าง?

    หลายคนอาจไม่เคยรู้ว่า การตั้งชื่อจริงของบุคคลในประเทศไทยนั้นมีกฎหมายและระเบียบราชการควบคุมอย่างเข้มงวด ซึ่งหากฝ่าฝืน อาจไม่ได้รับการจดทะเบียน หรืออาจต้องเปลี่ยนชื่อในภายหลังได้ ล่าสุดปี 2568 กรมการปกครองได้อัปเดตแนวทางและข้อห้ามสำคัญในการตั้งชื่อจริงอย่างเป็นทางการแล้ว

    ข้อห้ามในการตั้งชื่อจริง ตามกฎหมายปี 2568

    • ห้ามใช้ชื่อที่ขัดต่อขนบธรรมเนียมและความสงบเรียบร้อยของสังคม เช่น คำหยาบ ลามก หรือสื่อในทางเสื่อมเสีย
    • ห้ามใช้ชื่อที่มีเจตนาหลอกลวง หรือสร้างความเข้าใจผิดในสถานะบุคคล
    • ห้ามใช้ชื่อที่พ้องหรือคล้ายกับพระปรมาภิไธย พระนามของพระมหากษัตริย์ พระราชินี หรือราชวงศ์
    • ห้ามใช้คำว่า “ณ” นำหน้าชื่อสกุล เว้นแต่ได้รับพระราชทานโดยถูกต้อง
    • ห้ามตั้งชื่อที่มีพยัญชนะเกิน 10 ตัว (สำหรับชื่อสกุล)
    • ต้องสะกดคำและใช้ตัวการันต์ถูกต้องตามหลักภาษาไทย
    • ต้องเป็นชื่อที่มีความหมายอยู่ในพจนานุกรมราชบัณฑิตยสถาน
    • ห้ามใช้สัญลักษณ์พิเศษ เช่น /, *, @, # ฯลฯ ในชื่อ
    • ห้ามตั้งชื่อที่เป็นคำเดียวแล้วเว้นวรรคไม่ได้ เช่น ใช้พยางค์ซ้ำ ๆ
    • ห้ามใช้นามพระมหานครหรือศัพท์ในพระปรมาภิไธยเป็นชื่อสกุล

    คำถาม: ชื่อ “สุธิดา” หรือ “สุทิดา” เป็นชื่อที่พ้องพระนามและห้ามตั้งหรือไม่?

    1. หลักเกณฑ์ข้อห้ามตามกฎหมาย

    ตามพระราชบัญญัติชื่อบุคคล พ.ศ. 2505 และระเบียบกรมการปกครอง ห้ามใช้ชื่อที่พ้องหรือใกล้เคียงกับพระปรมาภิไธย หรือพระนามของพระมหากษัตริย์ พระราชินี หรือพระบรมวงศานุวงศ์ โดยเฉพาะชื่อที่เป็นที่รู้จักในสังคมและมีการประกาศใช้อย่างเป็นทางการ

    2. กรณีชื่อ “สุทิดา” หรือ “สุธิดา”

    • “สุทิดา” เป็นพระนามของสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี (สมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินี)
    • ชื่อ “สุทิดา” จึงถือว่าเป็นพระนามโดยตรง และ ห้ามตั้ง เป็นชื่อบุคคลทั่วไป
    • ส่วน “สุธิดา” แม้สะกดต่างกัน แต่เสียงอ่านใกล้เคียงกันมาก อาจถูกตีความว่า “พ้องพระนาม” ได้เช่นกัน

    3. แนวปฏิบัติของนายทะเบียน

    • โดยทั่วไป นายทะเบียนจะไม่อนุญาตให้ใช้ชื่อ “สุทิดา” เป็นชื่อจริง
    • สำหรับชื่อ “สุธิดา” หากนายทะเบียนเห็นว่าเสียงอ่านหรือรูปแบบใกล้เคียงกับพระนามจนทำให้เกิดความสับสน ก็อาจปฏิเสธการจดทะเบียน
    • อย่างไรก็ตาม ชื่อ “สุธิดา” เคยมีการใช้งานมาก่อนการพระราชทานพระนามนี้ ดังนั้นในกรณีเปลี่ยนชื่อใหม่หรือการตั้งชื่อลูกในปัจจุบัน อาจไม่สามารถใช้ได้อีก

    4. ตัวอย่างชื่ออื่นที่พ้องพระนามและห้ามใช้

    • จุฬาลงกรณ์
    • มหิดล
    • สิริกิติ์
    • อนันทมหิดล
    • ภูมิพล
    • วชิราลงกรณ์

    แล้วอักษรตามวันเกิดที่ห้ามใช้ล่ะ?

    หลายคนอาจเคยได้ยินว่าไม่ควรใช้อักษรบางตัวตามวันเกิด เช่น “ก ข ฃ ค ฆ ง” ในวันอาทิตย์ ฯลฯ ข้อนี้เป็นความเชื่อตามหลักโหราศาสตร์ไทย แต่ ไม่ใช่ข้อห้ามทางกฎหมาย การตั้งชื่อตามวันเกิดสามารถทำได้ตามความเชื่อส่วนบุคคล แต่ควรพิจารณาควบคู่กับข้อกฎหมายข้างต้นด้วย

    สรุป

    • ชื่อ “สุทิดา” ห้ามตั้งเป็นชื่อจริง เนื่องจากเป็นพระนามของสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี
    • ชื่อ “สุธิดา” อาจถูกปฏิเสธ หากนายทะเบียนเห็นว่าใกล้เคียงกับพระนามจนเกินไป
    • หากต้องการตั้งชื่อใหม่ ควรหลีกเลี่ยงชื่อที่พ้องพระนามหรือใกล้เคียงกับพระบรมวงศานุวงศ์

    อ้างอิง:

  • KUBET – ส.ส.นามสกุลดัง ร่วมงานศพ แม่บอย ปกรณ์ แฟนคลับเซอร์ไพรส์ เพิ่งรู้เป็นญาติสนิทกัน

    ส.ส.นามสกุลดัง-รองประธานสภา ร่วมงานศพ แม่งามทิพย์ แม่ของบอย ปกรณ์ แฟนคลับเซอร์ไพรส์ เพิ่งรู้เป็นญาติใกล้ชิดกัน

    การจากไปของ คุณแม่งามทิพย์ ฉัตรบริรักษ์ แม่ของนักแสดงหนุ่มชื่อดัง บอย ปกรณ์, หน่อง ธนา และ ภัทร์ ฉัตรบริรักษ์ ที่เสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งอย่างสงบ เมื่อวันที่ 7 มิถุนายนที่ผ่านมา สร้างความอาลัยให้กับครอบครัว คนใกล้ชิด รวมถึงแฟนคลับเป็นอย่างมาก โดยภายในงานศพนอกจากจะมีเหล่าคนบันเทิงร่วมไว้อาลัยอย่างคับคั่งแล้ว ยังมีแขกผู้มีเกียรติจากหลายวงการร่วมแสดงความเสียใจ

    หนึ่งในนั้นคือ สองพี่น้อง ส.ส.ชื่อดังจากจังหวัดอ่างทอง ได้แก่ นายภราดร ปริศนานันทกุล รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่สอง และ นายกรวีร์ ปริศนานันทกุล สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดอ่างทอง ที่เดินทางมาร่วมงานฌาปนกิจด้วยความเคารพและอาลัยอย่างสุดซึ้ง

    แต่สิ่งที่ทำให้แฟนคลับถึงกับแอบเซอร์ไพรส์คือ ส.ส. ทั้งสองเรียกคุณแม่งามทิพย์ว่า “อาอี๊” ซึ่งเป็นคำเรียกพี่น้องของแม่ในครอบครัวจีน ทำให้หลายคนเพิ่งทราบว่า จริงๆ แล้วพวกเขาเป็นญาติใกล้ชิดกับครอบครัวฉัตรบริรักษ์

    เมื่อย้อนดูลำดับความสัมพันธ์พบว่า คุณแม่รวีวรรณ ปริศนานันทกุล (สกุลเดิม : ฉัตรบริรักษ์) มารดาของสอง ส.ส.อ่างทอง เป็นพี่สาวของคุณแม่งามทิพย์ ทำให้ภราดรและกรวีร์มีศักดิ์เป็นหลานแท้ๆ ของคุณแม่งามทิพย์ และเป็นลูกพี่ลูกน้องกับ บอย ปกรณ์, หน่อง ธนา และ ภัทร์ ฉัตรบริรักษ์ นั่นเอง

    คุณแม่งามทิพย์ กับพี่สาว